-
วินทร์ เลียววาริณ0 วันที่ผ่านมา
เห็นข่าววันนี้แล้วนึกถึงอาจารย์แสงอรุณ รัตกสิกร
เป็นอาจารย์ผมที่คณะสถาปัตย์ จุฬาฯ
เล่าข่าวก่อน
วันนี้มีข่าวผู้นำไทยปรึกษาตัวแทน EMAAR Group ผู้สร้างตึก Burj Khalifa (ตึกสูงที่สุดในโลกปัจจุบัน) วางแผนสร้างตึกสูงที่สุดในโลกในประเทศไทย ประกอบด้วยห้างสรรพสินค้า สำนักงาน โรงแรม และศูนย์บันเทิงครบวงจร เป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่
เฮ้อ! ท่องเที่ยวอีกแล้ว!
วิธีคิดแบบ "ต้องทำอะไรใหญ่ๆ" นี่ อย่าว่าแต่ผู้นำประเทศเลย อาจารย์มหาวิทยาลัยก็เป็น
ปีหนึ่งผู้บริหารจุฬาฯมีมติสร้างเสาธงสูงที่สุดในประเทศ อาจารย์แสงอรุณพูดกับพวกเรานิสิตในชั้นเรียนวันหนึ่งว่า แทนที่จะเอาเวลาไปพัฒนาคุณภาพการศึกษา กลับไปยึดติดที่เปลือก
ถ้ายังไปยึดกับขนาดและปรัชญา "ที่สุดในประเทศ" และ "ที่สุดในโลก" ก็แสดงว่ามีปมด้อย
มีแต่คนที่มีปมด้อยจึงชอบสร้างของสูงที่สุด ใหญ่ที่สุด
จะสร้างสูงแค่ไหน? สูงขนาดสามารถเอื้อมมือไปเกาตีนพระเจ้างั้นหรือ (นี่เป็นสำนวนอาจารย์แสงอรุณ กวน-T ไม่เบา!)
อาจารย์แสงฯเป็นสถาปนิก ศิลปิน นักอนุรักษ์ธรรมชาติ และนักปรัชญา ชื่นชมวิถีเซน และเคยเขียนหนังสือเกี่ยวกับเซน
เซนไม่ชอบทำอะไรที่โฉ่งฉ่าง ผิดธรรมชาติ หรือสร้างอีโก้
ผมจดจำวิธีมองโลกแบบนี้มาจนทุกวันนี้ และยิ่งอายุมากขึ้น ก็ยิ่งเห็นด้วย
สร้างใหญ่ที่สุด-สูงที่สุดแล้ว ก็มีคนสร้างใหญ่กว่าสูงกว่าเสมอ ไม่เคยสิ้นสุด
เราควรสอนเด็กให้รู้จักความงามของความพอดี ไม่ใช่ความใหญ่
ไม่งั้นเด็กโตขึ้นก็จะกลายเป็นพวกมีปมด้อย
ยิ่งสูงก็ยิ่งเตี้ย
ว.ล. 19-4-24
0- แชร์
- 8
-
วินทร์ เลียววาริณ0 วันที่ผ่านมา
ช่วงนี้ต้องเขียนหนังสือแบบโก้วเล้ง
หรือพ.ต.ต.ประชา...พูนวิวัฒน์...เจ้าของฉายานักเขียนบรรทัดละ7บาท
เขียนหนึ่งประโยคหรือหนึ่งวลี-ก็ย่อหน้าเลย
ดูเหมือนยาวแต่อ่านจบเร็ว
นักเขียนยุคก่อนรับค่าเรื่องที่ความหนาของงาน
คิดค่าเรื่องเป็นหน้า
หลายคนจึงเขียนแบบนี้
ย่อหน้าถี่ๆ
เรื่องจะได้ยาว
อา'รงค์-วงษ์สวรรค์...เคยเล่าว่านักเขียนบางคนใช้เครื่องพิมพ์ดีดที่ให้ตัวหนังสือโตๆ...ช่องไฟห่างๆ
พิมพ์ไม่นานก็หมดหน้ากระดาษ
ต้นฉบับหนา...แต่เนื้อเรื่องนิดเดียว
โรงพิมพ์ก็รู้
แต่ก็หลับตาข้างหนึ่ง
เพราะเห็นว่าพวกนักเขียนไม่ได้มีรายได้สูงอะไร
นี่พอเข้าใจได้
แต่พวกส.ส.ที่กินเงินเดือนสูงๆ...พูดเรื่องนิดเดียวให้ยาวเป็นน้ำท่วมทุ่งนี่...ไม่รู้จะว่ายังไง
เคี้ยกเคี้ยก
(คีย์บอร์ดเสีย...ก็ยังอุตส่าห์มีเรื่องมาเล่า)
วินทร์...เลียววาริณ
19-4-240- แชร์
- 9
-
วินทร์ เลียววาริณ0 วันที่ผ่านมา
ครั้งหนึ่งเมื่อย้ายบ้านใหม่ ผมพบว่าปัญหาในการซื้อเครื่องเรือนเข้าบ้านคือ หาซื้อสินค้าเรียบง่ายไม่ได้
ไม่น่าเชื่อว่าเมืองไทยที่มีศูนย์การค้าและร้านขายเฟอร์นิเจอร์เกลื่อนเมืองไม่มีโซฟาแบบเรียบ ๆ ที่ไม่มีลวดลาย การหาซื้อโต๊ะอาหารแบบเรียบง่ายไม่มีลูกเล่นใด ๆ เป็นสิ่งที่ยากเย็นอย่างไม่น่าเชื่อ เดินหารอบเมืองจนรองเท้าสึก ไม่พบพานเลย
เครื่องเรือนแทบทั้งหมดในโชว์รูมใส่รายละเอียดมากมาย ทั้งส่วนโค้งส่วนเว้า ทั้งสลักลาย ใช้วัสดุมากชนิดในงานชิ้นเดียว นัยว่าทำให้คนซื้อรู้สึกว่าคุ้มค่า
จนเมื่อเดินเข้าร้านเครื่องเรือนที่นำเข้าจากยุโรป จึงพบสินค้าเรียบง่ายดังใจ แต่ราคาโต๊ะตัวละสองแสนบาท โซฟาชุดละสี่แสนบาททำให้ต้องรีบเดินทางหนีจากความเรียบง่ายอย่างรวดเร็ว
ผมเรียนการออกแบบมาหลายสายทาง และทุกสายสอนตรงกันว่า งานที่ดีที่สุดคืองานที่เรียบง่ายที่สุด และงานที่เรียบง่ายที่สุดออกแบบยากที่สุด
ปรัชญานี้ตรงกับศิลปะแทบทุกแขนง
ในทางวรรณกรรม งานเขียนที่รกรุงรังยากที่จะเป็นงานเขียนที่ดี เรื่องสั้นที่มีฉากมากมักไปไม่รอด นวนิยายที่มีตัวละครเยอะเกินจำเป็นมักน่าเบื่อ
ในทางสถาปัตยกรรม บ้านที่ใส่องค์ประกอบทุกอย่างทุกสไตล์ (ที่เจ้าของบ้านชอบ) เข้าไปในหลังเดียวมักออกมาเละ
ในวงการแฟชั่น เสื้อผ้าของนักออกแบบที่ดีมักเรียบง่าย โดยเน้นที่องค์ประกอบที่ลงตัวทางศิลปะ ไม่ว่าจะเป็นลายเส้น รูปทรง สัดส่วน จังหวะ
ศิลปะเป็นเรื่องของการผสมผสานให้ลงตัว ไม่มีอะไรอื่น สัดส่วนที่ลงตัว สีที่ลงตัว ผิวที่เหมาะสม
งานเขียนที่ดีคืองานเขียนที่มีองค์ประกอบน่าสนใจและผสมผสานได้ลงตัว
เช่นเดียวกับอาหาร ดนตรี จิตรกรรม ประติมากรรม ภาพยนตร์ ไปจนถึงชีวิตรัก
ที่น่าสังเกตอย่างหนึ่งก็คือ งานที่เรียบง่ายมักมีอายุยาวนานกว่า ไม่ว่าวงจรแฟชั่นหมุนเวียนเปลี่ยนไปกี่รอบ ไม่ช้าหรือเร็ว เราก็มักหวนกลับไปหางานเรียบง่ายเสมอ ที่เราชอบเรียกกันว่า 'Back to basic'
มาถึง พ.ศ. นี้ หาสินค้าที่เรียบง่ายยากขึ้นทุกวัน สไตล์การใช้ชีวิตก็พลอยซับซ้อนขึ้นไปโดยปริยาย
โทรศัพท์มือถือมีฟังก์ชั่นการใช้งานมากจนไม่น่าเชื่อว่าบรรจุทุกอย่างในเครื่องเล็กนิดเดียวได้อย่างไร กล้องถ่ายรูป วิทยุ โทรทัศน์ เครื่องซักผ้า เครื่องไมโครเวฟ ไปจนถึงนาฬิกาข้อมือ ล้วนสามารถตั้งโปรแกรมนับร้อย จนสงสัยว่า ในโลกนี้จะมีใครสักกี่คนที่ต้องใช้ฟังก์ชั่นทั้งหมดเหล่านั้น
เหตุผลหนึ่งที่ทำให้ชีวิตของเรายุ่งขึ้น ก็เพราะคำว่า การตลาด การแข่งขันในทางธุรกิจทำให้สินค้าที่ผลิตมาสู้กับคู่แข่งต้องมีลูกเล่นมากขึ้น แน่ละ มันทำให้เทคโนโลยีพัฒนาไปข้างหน้า แต่มันก็ทำให้ชีวิตเราซับซ้อนขึ้น
เราควรแยกแยะให้ออกว่า อะไรในชีวิตเป็นความต้องการแท้ อะไรเป็นความต้องการเทียม
บ่อยครั้งเราพบว่ากำลังสร้างความต้องการเก๊ ๆ ขึ้นมา โดยที่ชีวิตไม่จำเป็นต้องการใช้มันเลย ยกตัวอย่างเช่น ตั้งแต่โลกเรามีโทรศัพท์มือถือ ผู้คนทั้งโลกพูดมากขึ้น ไม่มีเรื่องพูด ก็พยายามหาเรื่องพูด
กรรมกรก่อสร้างที่มาทำงานให้ผมทำงานไปพูดโทรศัพท์มือถือไป เช่นเดียวกับคนขับแท็กซี่ และคนขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้างในซอย
ลองปิดโทรศัพท์มือถือของคุณทิ้งสักวัน จะพบว่าเรามีเวลามากขึ้นอย่างเหลือเชื่อ ชีวิตก็ดูจะเรียบง่ายมากขึ้นทันตาเห็น
ชีวิตที่ดีก็เช่นงานศิลปะที่ดี มีองค์ประกอบน้อยที่สุด และมีความเรียบง่ายเป็นหัวใจ
ใช่ สิ่งที่เรียบง่ายมักมีอายุยาวนานกว่า ไม่ว่าวงจรชีวิตหมุนเวียนเปลี่ยนไปกี่รอบ ไม่ช้าหรือเร็ว เราก็มักหวนกลับไปหาความเรียบง่ายเสมอ
จากหนังสือ เบื้องบนยังมีแสงดาว / วินทร์ เลียววาริณ
0- แชร์
- 11
-
วินทร์ เลียววาริณ1 วันที่ผ่านมา
ลงรูปคีย์บอร์ดที่แสนจะบอบช้ำของผมแล้ว/ผู้อ่านเขียนมาถามว่ารูปจริงหรือเปล่า
จริงซีครับ/แต่ก็เข้าใจว่าถามทำไม/เพราะมันดูเซอร์เรียลมาก
ใครหนอจะใช้คีย์บอร์ดจนชอกช้ำอย่างนี้
ผมเองก็งงเหมือนกันเมื่อพิจารณาคีย์บอร์ดตัวเองใกล้ๆ/จำไม่ได้ว่ารอยขีดรอยบุบเกิดจากอะไร
รอยขีดอาจเกิดจากเล็บก็ได้/เพราะบางครั้งใช้เล็บจิ้มลงไป
แต่รอยบุบเกิดจากอะไรก็จนปัญญาทราบ
ลืมเล่าไปว่าปัญหาเกิดจากน้ำหกลงไปในคีย์บอร์ด/น้ำหกไม่มาก/แต่ลงจนจุดสำคัญ/ผลคือ-space-bar-ใช่ไม่ได้
ใครที่ทำงานด้วยคอมพิวเตอร์ก็ระวังหน่อย/ให้คีย์บอร์ดห่างไกลน้ำดื่ม/เพราะมันพังง่ายกว่าที่คิด
วันนี้ตระเวณไปหลายห้าง/ได้ผลเหมือนกันว่าคีย์บอร์ดแมคซ่อมไม่ได้/(แปลว่าไม่รับซ่อม)
และไปดูคีย์บอร์ดที่ผู้อ่านแนะนำมาแล้ว/ส่วนมากไม่มีแป้น-command-ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของแมค/(สัญลักษณ์-command-หรือ/looped square/ของแมคมาจากสัญลักษณ์จราจรในประเทศสวีเดน/หมายถึงจุดที่น่าสนใจหรือน่าเที่ยว)
ก็คงต้องใช้อะไรก็ตามที่ทิม-คุกทำมาขาย
0- แชร์
- 15
-
วินทร์ เลียววาริณ1 วันที่ผ่านมา
เมื่อคืนนี้คีย์บอร์ดของผมเล่นสงกรานต์ทำให้spacebarไม่ทำงานผลก็คือตัวหนังสือยาวเป็นพรืดอย่างที่เห็นนี่แหละ
ผู้อ่านก็ทนอ่านตัวหนังสือยาวเป็นพรืดไปก่อนนะเอายังงี้ก็แล้วกัน...จะใช้จุดประคั่นเอา
วันนี้โทร.ไปถามศูนย์บริษัทผู้ผลิตเครื่อง...เฮ้อ!...กว่าจะติดต่อกับมนุษย์ได้...นานเหลือทน...ยุคนี้อะไรๆก็ต้องใช้เครื่องอัตโนมัติตอบ...กด...123456...เราลืมสิ่งที่เรียกว่า...human...touch...ไปโดยสิ้นเชิง
เมืองไทยมีแรงงานมาก...หากผมเป็นเจ้าของบริษัทใหญ่ๆ...จะยกเลิกเครื่องตอบรับอัตโนมัติทั้งหมด...จ้างคนที่เกษียณอายุแล้วมาทำงาน...รวมทั้งคนพิการด้วย
คนเกษียณแล้วจำนวนมากวันๆไม่รู้จะทำอะไร...ได้แต่สวัสดีวันจันทร์สวัสดีวันอังคาร...ถ้ามีงานให้ทำย่อมจะดี...เงินเดือนไม่ใช่ประเด็น...การติดต่อคนทำให้เซลล์สมองเสื่อมช้าลงด้วย...เป็น...win-win...ลูกค้าก็รู้สึกว่าบริษัทเอาใจใส่
กลับมาที่คีย์บอร์ด...บริษัทบอกว่าเขาเลิกผลิตรุ่นเก่าแล้ว...ไอ้แบบแป้นหนาๆ...มีสาย...usb...มีแต่ไดโนเสาร์ไม่กี่ตัวที่ยังใช้อยู่...เดี๋ยวนี้เป็นแบบไร้สาย...บางเฉียบ...เท่น่ะ...เข้าใจมั้ย
ผมไม่มีปัญหากับคีย์บอร์ดไร้สาย...แต่มีปัญหากับคีย์บอร์ดใหม่ที่บางเฉียบ...เพราะคีย์ยาก...เวลาเขียนนิยายตอนที่พระเอกอัดคนร้ายนักการเมือง...กระแทกนิ้วบนคีย์บอร์ดแบบแรงๆสะใจกว่า...ทำไงได้...เป็นนักเขียนซาดิสต์...ไม่เชื่อก็ดูสภาพคีย์บอร์ดของผม
พรุ่งนี้จะตะลอนหาคีย์บอร์ดเก่าอีกสักวัน...ถ้าไม่ได้ก็คงต้องปรับตัวกับคีย์บอร์ดบางเท่...(แต่แพงเรือหาย)
18-4-24
0- แชร์
- 16