• วินทร์ เลียววาริณ
    0 วันที่ผ่านมา

    เมื่อคืนนี้คีย์บอร์ดของผมเล่นสงกรานต์ทำให้spacebarไม่ทำงานผลก็คือตัวหนังสือยาวเป็นพรืดอย่างที่เห็นนี่แหละ

    ผู้อ่านก็ทนอ่านตัวหนังสือยาวเป็นพรืดไปก่อนนะเอายังงี้ก็แล้วกัน...จะใช้จุดประคั่นเอา

    วันนี้โทร.ไปถามศูนย์บริษัทผู้ผลิตเครื่อง...เฮ้อ!...กว่าจะติดต่อกับมนุษย์ได้...นานเหลือทน...ยุคนี้อะไรๆก็ต้องใช้เครื่องอัตโนมัติตอบ...กด...123456...เราลืมสิ่งที่เรียกว่า...human...touch...ไปโดยสิ้นเชิง

    เมืองไทยมีแรงงานมาก...หากผมเป็นเจ้าของบริษัทใหญ่ๆ...จะยกเลิกเครื่องตอบรับอัตโนมัติทั้งหมด...จ้างคนที่เกษียณอายุแล้วมาทำงาน...รวมทั้งคนพิการด้วย

    คนเกษียณแล้วจำนวนมากวันๆไม่รู้จะทำอะไร...ได้แต่สวัสดีวันจันทร์สวัสดีวันอังคาร...ถ้ามีงานให้ทำย่อมจะดี...เงินเดือนไม่ใช่ประเด็น...การติดต่อคนทำให้เซลล์สมองเสื่อมช้าลงด้วย...เป็น...win-win...ลูกค้าก็รู้สึกว่าบริษัทเอาใจใส่

    กลับมาที่คีย์บอร์ด...บริษัทบอกว่าเขาเลิกผลิตรุ่นเก่าแล้ว...ไอ้แบบแป้นหนาๆ...มีสาย...usb...มีแต่ไดโนเสาร์ไม่กี่ตัวที่ยังใช้อยู่...เดี๋ยวนี้เป็นแบบไร้สาย...บางเฉียบ...เท่น่ะ...เข้าใจมั้ย

    ผมไม่มีปัญหากับคีย์บอร์ดไร้สาย...แต่มีปัญหากับคีย์บอร์ดใหม่ที่บางเฉียบ...เพราะคีย์ยาก...เวลาเขียนนิยายตอนที่พระเอกอัดคนร้ายนักการเมือง...กระแทกนิ้วบนคีย์บอร์ดแบบแรงๆสะใจกว่า...ทำไงได้...เป็นนักเขียนซาดิสต์...ไม่เชื่อก็ดูสภาพคีย์บอร์ดของผม

    พรุ่งนี้จะตะลอนหาคีย์บอร์ดเก่าอีกสักวัน...ถ้าไม่ได้ก็คงต้องปรับตัวกับคีย์บอร์ดบางเท่...(แต่แพงเรือหาย)

    18-4-24

    0
    • 0 แชร์
    • 10
  • วินทร์ เลียววาริณ
    0 วันที่ผ่านมา
    0
    • 0 แชร์
    • 3
  • วินทร์ เลียววาริณ
    0 วันที่ผ่านมา

    อาหารเย็นชืดก็อร่อยได้ ถ้าปรุงรสดี

    หน้าตาไม่สวยก็เป็นคู่ครองที่ดีได้  ถ้าอบรมสั่งสอนมาดี

    บ้านไม่เท่ก็อยู่สบายได้ ถ้าสร้างมาดี

    เสื้อผ้าไม่ทันสมัยก็สวมสบายได้ ถ้าตัดเย็บดี

    หนังสือปกไม่สวยก็ให้ความรู้ได้ ถ้าเขียนมาดี

    ต้นไม้ไม่สวยก็มีประโยชน์ได้ ถ้าแผ่กิ่งก้านสาขาให้ร่มเงาแก่คน

    ปริญญาไม่มีก็มีปัญญาได้ ถ้ารู้จักเรียน

    รู้ข่าวช้าก็รู้จริงได้ ถ้าวิเคราะห์เป็น

    เงินทองไม่มีก็มีความสุขได้ ถ้ารู้จักใช้ชีวิต

    ลมใต้ปีกไม่มีก็บินได้ ถ้ารู้จักกระพือ

    บันไดไม่มีก็ขึ้นที่สูงได้ถ้ารู้จักปีน

    หนทางไม่ราบเรียบก็เดินหน้าได้ถ้าไม่กลัวขวากหนาม

    อำนาจไม่มีก็มีคนเคารพได้ ถ้าวางตัวดี

    ลมหายใจไม่มีก็ยังมีคนจดจำได้ ถ้าทั้งชีวิตทำดีเพื่อคนอื่น

    วินทร์ เลียววาริณ
    18 เมษายน 2567

    0
    • 0 แชร์
    • 17
  • วินทร์ เลียววาริณ
    1 วันที่ผ่านมา

    เมื่อวานนี้ผมเล่าว่า ผมทำงานที่อุณหภูมิ 21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงกว่านี้สมองคิดพล็อตไม่ออก

    นี่ไม่ได้ล้อเล่น

    บางคนตั้งค่าอุณหภูมิห้องที่ 25 หรือสูงกว่าเพื่อประหยัดค่าไฟ แต่ผมมองกลับกัน ผมจะตั้งค่าอุณหภูมิห้องให้เหมาะที่สุด เพื่อที่จะทำงานได้ดีที่สุด ประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อหาเงินมาจ่ายค่าไฟ!

    อุณหภูมิห้องสำหรับแต่ละคนแตกต่างออกไป ตามสรีระ ระบบการเผาผลาญของร่างกาย สิ่งแวดล้อม ฯลฯ

    ผมเองเคยลองมาหลายอุณหภูมิแล้ว 21 องศาเหมาะที่สุดสำหรับตัวเอง สมองแล่นดี ถ้าตั้งที่ 23-25 คิดอะไรไม่ออก

    ความจริงตะวันตกมีการศึกษาเรื่องนี้ว่า อุณหภูมิเท่าไรจึงให้ประสิทธิภาพงานสูงสุด

    ผลวิจัยส่วนมากสรุปที่ตัวเลข 21-23 องศาดีที่สุด ถ้า 25 องศาขึ้นไปจะลดประสิทธิภาพการทำงาน

    ท่านลีกวนยูแห่งสิงคโปร์ชอบใช้ชีวิตอยู่ในอุณหภูมิ 22 องศา ส่วนเวลาหลับตั้งค่าที่ 19 องศา

    ก็แล้วแต่คน บางคนชอบเย็นมาก บางคนออกไปทางอุ่นๆ

    ก็มาถึงเรื่องของช่างแอร์คนหนึ่งไปซ่อมห้องทำงานของท่านรัฐมนตรีผู้มีข่าวคอร์รัปชั่นมาตลอด หลังซ่อมเสร็จ รัฐมนตรีบอกว่า "ทำไมห้องผมร้อนจัง คุณตั้งไว้กี่องศาเนี่ย?"

    "39 องศาครับ"

    "ทำไมตั้งค่าสูงอย่างนี้?"

    "อ้าว! ก็เพราะท่านเป็นสัตว์เลือดเย็นไม่ใช่หรือครับ เห็นแดกภาษีประชาชนโดยไม่รู้สึกอะไร"

    เรื่องนี้แต่งขึ้นที่อุณหภูมิห้อง 25 องศา พล็อตจึงเพื้ยนๆ ไปบ้าง ขออภัย เดี๋ยวจะปรับกลับมาที่ 21 องศา

    วินทร์ เลียววาริณ
    17-4-24

    0
    • 0 แชร์
    • 36
  • วินทร์ เลียววาริณ
    1 วันที่ผ่านมา

    ชายคนหนึ่งเล่าความลับของเขาให้เพื่อนคนหนึ่งฟังว่า "ผมเคยสับสนกับชีวิตมานาน ผมเพิ่งรู้ตัวตอนเรียนมัธยมปลายว่า ผมชอบทั้งหญิงและชาย ทำให้ผมตกใจมาก ผมโตมาในครอบครัวที่สอนว่า โฮโมเซ็กชวลเป็นเรื่องผิดอย่างยิ่ง

    "ผมมีความสัมพันธ์กับหญิงและชายในเวลาเดียวกัน แต่ความสัมพันธ์ทั้งสองนั้นก็ยุติลง เพราะผมไม่สามารถยอมรับตัวเองได้...

    "ผมกลัวและเกลียดตัวเองที่ชอบผู้ชาย ทุกครั้งที่ผมมีความสัมพันธ์แบบนี้ ผมมีความสุขและทุกข์มหันต์ในเวลาเดียวกัน..."

    ชายคนนั้นบอกว่า "ในที่สุดผมก็ยอมรับความจริงเกี่ยวกับตัวผมเอง ตอนนี้ผมกล้าบอกคนอื่นว่า ผมเป็นไบเซ็กชวล คนอื่นก็ยอมรับผมด้วยดี"

    เราจะให้คนอื่นยอมรับเราได้อย่างไร หากเราไม่ยอมรับตัวเองก่อน?

    ...........

    ชายอีกคนหนึ่งเล่าว่า "เส้นผมของผมร่วงลงมาทุกวัน ผมอายุเพียงยี่สิบกว่า แต่ผมดูแก่เกินวัย กบาลของผมโล่งเตียนขึ้น ๆ ทุกวัน ทุกครั้งที่มองดูตัวเองในกระจกเงา ผมกลุ้มใจมาก ผมเสียเงินมากมายในการปลูกผม ลองสูตรใหม่ ๆ ทุกสูตร เสียเงินไปกับแชมพูใหม่ ๆ ลองใส่วิก แต่ก็ไม่ชอบ ไปหาหมอหลายคน เสียค่าหมอสารพัด แต่ผมก็ยังหัวล้านอยู่..."

    ชายหัวล้านเล่าว่า "วันหนึ่งผมก็ตัดสินใจได้ เช้านั้นผมโกนเส้นผมออก ผมขึ้นรถไฟฟ้าไปทำงาน ไม่มีใครสนใจกบาลของผมเลย ผมเดินเข้าที่ทำงาน ไม่มีใครสนใจอีกนั่นแหละ วันนั้นเป็นวันที่ผมมีความสุขที่สุด"

    เราจะให้คนอื่นยอมรับเราได้อย่างไร หากเราไม่ยอมรับตัวเองก่อน?

    จาก รอยเท้าเล็ก ๆ ของเราเอง / วินทร์ เลียววาริณ

    0
    • 0 แชร์
    • 30