• วินทร์ เลียววาริณ
    0 วันที่ผ่านมา

    บทความใหม่วันเสาร์ บิ๊ก แบง ทางจิต คลิกลิงก์อ่านได้เลย https://www.blockdit.com/posts/6776623e691ecbf4edbf24e5 

    0
    • 0 แชร์
    • 1
  • วินทร์ เลียววาริณ
    1 วันที่ผ่านมา

    No Time to Die หนัง เจมส์ บอนด์ เรื่องสุดท้ายออกมาเมื่อปี 2021 เป็นงานชิ้นสุดท้ายของ Eon Productions โดย Barbara Broccoli

    ปีต่อมา Amazon ซื้อลิขสิทธ์หนังชุดนี้ไปในราคา 8.5 พันล้าน แต่ยังสร้างหนังใหม่ไม่ได้ เพราะ Barbara Broccoli คุม creative control ของหนังชุดนี้

    Broccoli ต้องการให้หนัง เจมส์ บอนด์ เป็นหนังโรง ไม่ใช่หนังสตรีม เพราะการดูหนังชุดนี้เป็นประสบการณ์ ไม่ใช่แค่ดูหนังผ่านๆ ไป

    หลังจากเกิดการงัดง้อกันมาหลายปี Broccoli ก็แพ้

    ข่าวด่วนวันนี้คือ Amazon MGM Studios จะควบคุม creative control ของหนังชุดนี้ทั้งหมด

    นี่แปลว่าอะไร?

    แปลว่า Amazon จะปั่นหนังชุดนี้เหมือนกับที่ดิสนิีย์ปั่น Star Wars ออกมาเป็นแฟรนไชส์มากมาย ทำ spin-off อีกหลายสิบเรื่อง เพราะจ่ายไป 8.5 พันล้าน ก็ต้องทำเงินมากกว่านี้ร้อยเท่า

    แปลว่าต่อไป เจมส์ บอนด์ จะไม่ใช่ประสบการณ์ในโรงหนังที่เกิดขึ้นสองปีครั้ง แต่จะเป็นหนังสตรีม หนังซีรีส์หลายสิบตอน หลายซีซัน และ spin-off อีกนับไม่ถ้วน มาทั้งปี

    แปลว่าเราอาจจะเห็นเมีย เจมส์ บอนด์, แม่ยาย เจมส์ บอนด์, ลูก เจมส์ บอนด์, เจ้านาย เจมส์ บอนด์, เมียเจ้านาย เจมส์ บอนด์, แม่ยายเจ้านาย เจมส์ บอนด์, ครอบครัวมันนีเพนนี, พ่อมันนีเพนนี, ครอบครัวคิว, แม่ยายคิว ฯลฯ

    มันจะกลายเป็น Jack Ryan หรือ Reacher ฯลฯ ที่มาถี่ๆ

    ด้วยความถี่แบบนี้ มันก็จะหนีไม่พ้นเปลี่ยนเรื่อง เปลี่ยนคนร้าย ที่ไม่มีความแตกต่าง

    มันจะกลายเป็นแค่ content ในโลกที่เสพเร็วๆ เยอะๆ

    It's Time to Die

    ป.ล. หวังว่าทุกอย่างที่เขียนมาจะไม่เกิดขึ้น ได้โปรด! ขอให้ผมทำนายผิดเถอะ!

    วินทร์ เลียววาริณ
    21-2-25

    0
    • 0 แชร์
    • 20
  • วินทร์ เลียววาริณ
    1 วันที่ผ่านมา

    ช่วงนี้มีคนพูดถึงปฏิทิน ทำให้นึกถึงสมัยผมทำงานบริษัทโฆษณา เรารับออกแบบปฏิทินด้วย

    กระบวนการทำคือ คิดคอนเส็ปต์ ออกแบบ วาดรูป/ถ่ายรูป ทำอาร์ตเวิร์ก แล้วส่งพิมพ์

    ทั้งหมดทำโดยไม่ใช้ดิจิตัล สมัยนั้นยังไม่มี Photoshop

    การแต่งภาพสมัยนั้นใช้แอร์บรัช เป็นงานฝีมือล้วนๆ จิตรกรที่ทำงานนี้เป็นมือเซียน

    เราจะออกแบบให้ถ่ายรูปจบในช็อตเดียว ก็ประมาณการทำงานโดยใช้ practical effect ของท่านโนแลนในสมัยนี้

    ผมออกแบบอยู่ 16 ปี ทำงานอยู่ไม่น้อยชิ้น คิดคอนเส็ปต์แปลกๆ อยู่หลายงาน

    น่าเสียดายต้นฉบับหายหมด ตัวอย่างที่เอามาให้ดูเป็นเศษงานขาวดำที่หลงมา หาฉบับสีไม่เจอ

    งานทั้งหมดได้ค่าออกแบบไม่มาก สมัยนั้นคิดค่าแบบได้ไม่มาก เดี๋ยวลูกค้าหนีไปใช้ปฏิทินสำเร็จรูปหมด

    แต่ถ้ามีงบ 400 ล้านนี่ ผมรับออกแบบนะ นะ นะ

    วินทร์ เลียววาริณ
    21-2-25

    0
    • 0 แชร์
    • 22
  • วินทร์ เลียววาริณ
    1 วันที่ผ่านมา

    21 ปีก่อนผมยืนอยู่บนทางสองแพร่ง ด้านซ้ายคือทำงานสายเดิมต่อไป ด้านขวาคือเปลี่ยนเป็นนักเขียนอาชีพ ด้านซ้ายมีลูกค้าอยู่แล้ว ด้านขวามีผู้อ่านที่รู้จักผมเพียงหยิบมือหนึ่ง เป้าหมายด้านซ้ายคือหาเงินอย่างเดียว เป้าหมายด้านขวาคือหาเงิน (น้อยหน่อย) + ความสุขที่ได้เดินตามฝัน

    หากเปรียบสถานการณ์นี้กับหนังเรื่อง The Matrix ก็คือฉากที่ตัวละคร ‘นีโอ’ ได้รับยาสองเม็ด ยาเม็ดสีฟ้ากับยาเม็ดสีแดง หากกินยาเม็ดสีฟ้า ทุกอย่างจะเหมือนเดิม กลับไปดำเนินวิถีชีวิตปกติของเขา

    หากกินยาเม็ดสีแดง เขาจะเดินทางไปสู่หนทางใหม่ที่เขาไม่รู้ว่าเป็นอย่างไร เมื่อเลือกแล้วก็จะย้อนกลับไปแก้ไขไม่ได้

    ในชีวิตผม เจอสถานการณ์เลือกยาเม็ดสีฟ้ากับยาเม็ดสีแดงมาแล้วหลายครั้ง ครั้งแรกคือการเปลี่ยนสายอาชีพจากสถาปนิกเป็นสาย กราฟิก ดีไซน์ เกิดขึ้นด้วยความอยากรู้อยากเห็น อยากลองทางสายใหม่ เนื่องจากยังเป็นหนุ่มที่ไม่มีลูกเมีย การตัดสินใจเลือกยาเม็ดสีแดงจึงไม่ยากนัก

    การเลือกยาเม็ดสีแดงครั้งต่อ ๆ มายากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะมีความรับผิดชอบเรื่องครอบครัว และอายุก็เริ่มมากขึ้น

    จนมาถึงการเลือกยาเม็ดสีแดงเป็นนักเขียนอาชีพ เป็นการเลือกที่ต้องขบคิดหนัก เพราะมีความเสี่ยงสูง และจริงดังคาด ในปีแรก ๆ หลังกินยาเม็ดสีแดง เกิดอาการแพ้ยา หัวใจเต้นเร็ว นอนไม่หลับ ต้องทำงานเสริมเพื่อให้ความฝันหลักอยู่รอด

    แต่เมื่อไม่ถอย เดินหน้าต่อไป ยาเม็ดสีแดงก็เริ่มออกฤทธิ์เป็นวิตามิน

    ...................

    การกินยาเม็ดสีแดงไม่ใช่เกิดจากการเลือกเสมอไป หลายคนถูกบังคับให้กินยาเม็ดสีแดง

    หลายปีนี้ผมเห็นตัวอย่างของคนที่ถูกไล่ออกจากงาน (ไม่ว่าจะใช้คำพูดสวย ๆ เช่น ‘เออร์ลี รีไทร์’ หรืออื่น ๆ) ถูกบังคับให้กินยาเม็ดสีแดงทั้งที่ยังไม่พร้อม

    มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเดินทางสายที่ไม่รู้จักไม่คุ้นเคย โดยมีภาระครอบครัววางอยู่บนสองบ่า แต่ลมหายใจไม่สิ้น ก็ต้องดิ้นกันไป คนพร้อมกว่าก็ได้เปรียบ คนที่ไม่เคยมองการณ์ไกลก็เหนื่อยหน่อย

    ใช่ บางครั้งสีแดงของยาเม็ดอาจตีความหมายได้ว่า ‘หยุด’ หรือ ‘อันตราย’ แต่นั่นมิได้หมายความว่า สีฟ้าไม่มีอันตรายซ่อนอยู่เช่นกัน ความจริงคือไม่ว่าจะเลือกกินยาเม็ดสีฟ้าหรือสีแดงก็มีความเสี่ยงด้วยกันทั้งคู่ ความคิดแบบ “อยู่อย่างนี้ก็ดีแล้ว ไม่รู้จะเสี่ยงไปทำไม” ย่อมมีเหตุผลของมัน บางเรื่องบางสถานการณ์ก็ไม่ควรเสี่ยงจริง ๆ

    แต่คนฉลาดไม่ลืมตรวจสอบตัวเองเป็นระยะ ๆ ว่า ประโยคดังกล่าวยังใช้ได้กับสถานการณ์ปัจจุบันหรือไม่ เพราะลมสามารถเปลี่ยนทิศได้เสมอ ทอร์นาโดทางธุรกิจเกิดขึ้นได้เสมอ กิจการที่ลงตัววันนี้อาจไม่ค่อยสวยในวันพรุ่งนี้ เจ้านายที่รักเราเหลือเกินในวันนี้ อาจไม่ค่อยพิสมัยเราในวันพรุ่งนี้

    อะไร ๆ ก็เกิดขึ้นได้ เปลี่ยนแปลงได้ เราจึงควรใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาท เตรียมพร้อม เตรียมทางสายที่สองรอไว้เสมอ อย่างน้อยเมื่อถูกบังคับให้กินยาเม็ดสีแดงกะทันหันจะได้ไม่เขว

    อย่ารอให้ถูกถีบลงน้ำแล้วค่อยเรียนว่ายน้ำ!

    ไม่ว่าจะเป็นคนทำงานหรือนักเรียน ช้าหรือเร็ว ก็อาจจะตกอยู่ในสถานการณ์ต้องเลือกยาเม็ดสีใดสีหนึ่ง จะทำงานด้านนี้หรือด้านนั้นดี จะเรียนสายนี้หรือสายนั้นดี จะย้ายบริษัทดีไหม จะแต่งงานดีหรือไม่ จะเลิกกับคู่รักดีหรือเปล่า

    ถ้ารู้จักมองการณ์ไกล มองเห็นมันแต่ไกลก่อนที่จะมาใกล้ตัว โอกาสถูกจับยัดยาเม็ดสีแดงใส่ปากก็น้อยลง

    มองโลกในแง่ดีคือ เราโชคดีกว่านีโอใน The Matrix ตรงที่ถึงกินยาผิดเม็ด ก็ยังพอเปลี่ยนแปลงแก้ไขทิศทางใหม่ได้

    .....................

    โลกไม่เคยขาดคนบ้าที่เลือกยาเม็ดสีแดง แม้รู้ว่าอาจไปสู่พื้นที่เสี่ยงอย่างยิ่ง

    เจ. เค. โรว์ลิง กินยาเม็ดสีแดงแล้วเลือกเส้นทางนักเขียน แม้จะลำบากยากเย็นหลายปี จนประสบความสำเร็จในที่สุด

    ลองนึกถึงโลกที่ไม่มีใครยอมกินยาเม็ดสีแดง บางทีวิทยาการของมนุษย์เวลานี้อาจยังล้าหลังอยู่สักพันสองพันปี

    ทว่าโลกก็เต็มไปด้วยคนที่เลือกยาเม็ดสีแดงแล้วไม่ประสบความสำเร็จ กระทั่งตายอย่างเขียด

    วินเซนต์ แวน โกะห์ กินยาเม็ดสีแดงแล้วเลือกเส้นทางศิลปิน อดอยากตลอดชีวิต แต่ก็ยังเดินหน้า วาดรูปกว่าสองพันภาพ แต่ขายได้เพียงภาพเดียว แล้วจบชีวิตตัวเองตั้งแต่ยังหนุ่ม

    บ้านเราก็มีจิตรกร ศิลปินจำนวนไม่น้อยที่กินยาเม็ดสีแดงแล้วเกิดอาการแพ้ยา คนเหล่านี้มีฝีมือ มุ่งมั่นเดินตามฝัน ขยันอย่างยิ่ง เพียงแต่โอกาสไม่เอื้อให้

    ทว่านี่มิใช่ความผิดของยาเม็ดสีแดง มันเป็นเพียงความไม่ลงตัวของโอกาสและจังหวะซึ่งเกิดขึ้นได้เสมอ แม้แต่กับคนและองค์กรที่มั่นคงที่สุด

    สำหรับคนที่มีต้นทุนในชีวิตไม่สูงมาก การเดินตามฝันไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ชีวิตที่ไม่ลองเดินตามฝันเหมือนดูหนังไม่จบเรื่อง

    ดังนั้นไม่ว่าจะกินยาเม็ดสีแดงด้วยเหตุผลใด ก็กัดฟันลองสู้สักตั้ง ถึงจะไม่สำเร็จ เราก็จะไม่โทษตัวเองจนวันตายว่าไม่ได้ลองเดินตามฝัน

    ................................

    (จากหนังสือ ยาเม็ดสีแดง / วินทร์ เลียววาริณ)

    190 บาท 34 บทความ บทความละ 5.5 บาท
    หนังสือหมดเมื่อไร จะไม่ตีพิมพ์ใหม่แล้ว
    https://www.winbookclub.com/store/detail/116/ยาเม็ดสีแดง 

    S6 ชุดกำลังใจครึ่งโหล 6 เล่ม 800.- (ลดจาก 1,255.-)
    https://www.winbookclub.com/store/detail/217/S6%20ชุดกำลังใจครึ่งโหล 

    0
    • 0 แชร์
    • 20
  • วินทร์ เลียววาริณ
    2 วันที่ผ่านมา

    ฉายหนังกลางแปลงเรื่อง มังกรลีกวนยูสู้สิบทิศ ต่อ

    หลายคนมองว่าสหรัฐฯอยู่ในภาวะขาลง แต่ลีกวนยูบอกว่าไม่เป็นเช่นนั้น สหรัฐฯอาจพลาดเรื่องสงครามในตะวันออกกลางที่อิรักและอัฟกานิสถาน รวมทั้งปัญหาวิกฤตการเงิน แต่จากประวัติศาสตร์ เช่น The Great Depression สงครามเวียดนาม ฯลฯ สหรัฐฯก็จะกลับมาได้ทุกครั้ง

    ลีกวนยูวิเคราะห์ว่า ความสำเร็จของอเมริกาอยู่ที่พลวัตของเศรษฐกิจและนวัตกรรมที่ไม่เคยหยุด ไอโฟน ไอแพด ไมโครซอฟท์ อินเทอร์เน็ต ล้วนกำเนิดที่สหรัฐฯ จีนมีคนเก่งและอัจฉริยะไม่แพ้อเมริกาแน่ แต่คนเหล่านั้นขาดหัวเทียนจุดประกายไฟ เขาเห็นว่าอเมริกาเป็นชาติที่มีความคิดสร้างสรรค์สูงที่สุดในโลก

    ลีกวนยูบอกว่าประเทศเล็ก ๆ อย่างสิงคโปร์ ทำอะไรพลาดเรื่องเดียว จะเกิดหายนะต่อประเทศทันที แต่ประเทศใหญ่อย่างสหรัฐฯ ทำอะไรพลาด จะใช้เวลาสร้างแรงกระทบ

    ลีกวนยูเห็นว่า สหรัฐฯไม่ได้อยู่ในช่วงขาลง แต่เมื่อมีจีน ก็อาจถูกลดทอนอำนาจลงไปบ้าง มันเลี่ยงไม่พ้น เพราะ GDP ของจีนมีแต่โตขึ้น และจะโตข้ามสหรัฐฯ

    เลี่ยงไม่พ้น มันเป็นภาคบังคับ

    แต่สหรัฐฯก็จะยังคงโตและพัฒนาต่อไป

    ลีกวนยูให้เหตุผลว่า สังคมสหรัฐฯน่าสนใจกว่าสังคมจีน มันดึงดูดคนเก่งมาได้มากกว่า ไม่มีใครอยากไปทำงานในจีนเท่าสหรัฐฯ คนเก่งอยากมีชีวิตที่เสรีกว่าสังคมแบบจีน

    ทั้งสหรัฐฯและประเทศอื่น ๆ ในโลก ต้องการคนเก่ง และต้องดึงคนเก่งมาช่วยพัฒนาชาติ เพราะไอเดียใหม่ ๆ เกิดขึ้นจากความคิดต่าง ด้วยแรงดึงดูดคนเก่ง สหรัฐฯจะยิ่งพัฒนาขึ้นไปอีก

    สหรัฐฯวันนี้ดึงคนเอเชียเก่ง ๆ ไปจำนวนมาก หลายคนก้าวขึ้นถึงระดับซีอีโอ เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้ยากมากในสังคมจีนหรือญี่ปุ่น

    ลีกวนยูมองว่า โลกวันนี้ไม่อาจแข่งกันด้วยอาวุธ เพราะมันมีแต่ทำลายกันและกัน แต่แข่งกันบนเวทีเศรษฐกิจและเทคโนโลยี และคนเก่งเป็นตัวแปรของการแข่งขัน

    ลีกวนยูเล่าว่าแรงดึงดูดของสหรัฐฯแรงมาก คนสิงคโปร์จำนวนมากไปเรียนต่อที่สหรัฐฯแล้วไม่ยอมกลับบ้าน ลีกวนยูจึงมีนโยบายให้ทุนรัฐบาลแก่เด็กเก่งไปเรียนต่อที่อังกฤษแทน รับรองว่าพวกนี้จะกลับมาทำงานที่บ้านเกิด เพราะอังกฤษไม่ต้อนรับ เศรษฐกิจมีพลังน้อยกว่า งานก็มีน้อยกว่า

    อีกเหตุผลหนึ่งที่เมืองจีนดึงดูดคนเก่งจากชาติอื่น ๆ ได้น้อยกว่าสหรัฐฯเพราะภาษา ภาษาจีนยากกว่าภาษาอังกฤษมาก

    จุดแข็งอีกอย่างหนึ่งของสหรัฐฯคือการแข่งขันเข้มข้นมาก การแข่งขันทำให้เกิดความหลากหลาย ความหลากหลายทำให้เกิดไอเดียใหม่ ๆ อเมริกาจดสิทธิบัตรใหม่ ๆ มากกว่าประเทศอื่น

    สหรัฐฯยังมีจุดดีอีกอย่างคือวัฒนธรรมการยกย่องคนที่สร้างตัวขึ้นมาได้ และไม่มีพฤติกรรมเหยียดหยามคนที่ไม่ประสบความสำเร็จ เพราะถือว่าความล้มเหลวเป็นบันไดขั้นหนึ่งของความสำเร็จ

    จุดนี้อเมริกาต่างจากอังกฤษ อังกฤษยังมี ‘ชนชั้น’ อยู่ แต่ละคนรู้ว่าตัวเองยืนอยู่ตรงไหน คนอังกฤษเป็นพวกที่ประดิษฐ์คิดค้นสิ่งสำคัญมากมายในโลก เครื่องจักรไอน้ำ เครื่องทอผ้า มอเตอร์ไฟฟ้า ฯลฯ ได้รับรางวัลโนเบลทางวิทยาศาสตร์มากมาย แต่สิ่งประดิษฐ์น้อยอย่างที่พัฒนาต่อไปเป็นธุรกิจพาณิชย์ใหญ่โต

    ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น? ลีกวนยูเห็นว่า การมีอาณานิคมนานมากกว่าสองร้อยปี ทำให้อังกฤษเป็นสังคมของความมั่งคั่งแบบเก่า และยกย่องชนชั้นสูง คนที่เพิ่งรวยใหม่ ๆ มักถูกมองว่าไม่น่ายกย่อง นักศึกษาเก่ง ๆ จึงไปเรียนกฎหมาย หมอ วิชาชีพ ที่สังคมยกย่องว่าเป็นคนฉลาด เป็นพวกใช้สมอง แต่ในสหรัฐฯตรงกันข้าม มันไม่มีชนชั้น ทุกคนยกย่องคนที่สร้างตัวจนรวย ทุกคนอยากรวย สิ่งนี้เป็นแรงจูงใจให้เกิดนวัตกรรม

    กระนั้นลีกวนยูก็ยังมองเห็นจุดอ่อนของสังคมสหรัฐฯ และพูดตรง ๆ เสมอ ในสายตาของลีกวนยู สหรัฐฯมีจุดอ่อนเรื่องการระบาดของปืน ความล่มสลายของสังคมพลเรือน และการกัดกร่อนรากฐานทางศีลธรรมของสังคมอเมริกัน

    สาเหตุหนึ่งของความขัดแย้งคือความแตกต่างระหว่างคนจนกับคนรวย เขายกตัวอย่างประเทศจีน คนจีนมักบอกว่าตนเป็น Marxist-Leninist แต่ความจริงคนจีนคือ Confucianist (ขงจื๊อ) มาโดยตลอด วิถีขงจื๊อไม่ต้องการให้สังคมมีความแตกต่างระหว่างรวยที่สุดกับจนที่สุดมากเกินไปอย่างอเมริกา เพราะมันสวนทางกับปรัชญาชีวิตตามวิถีจีน ในวิถีทางของลัทธิขงจื๊อ คนมีอำนาจคนรวยกว่ามีหน้าที่ดูแลคนต่ำกว่า

    ชาร์ลี โรส ถาม “คุณเชื่ออย่างนั้นเป็นการส่วนตัวหรือ?”

    ลีกวนยูตอบว่า “ใช่ ผมเชื่ออย่างนั้น ในสิงคโปร์คุณจะไม่พบขอทาน คนนอนใต้สะพาน เพราะมันสวนทางกับความเชื่อทางสังคม”

    สหรัฐฯมีคนรวยมาก แต่ก็มีคนนอนริมถนนมาก นี่ไม่ใช่ทิศทางที่ถูกแน่ เขาบอกว่าสหรัฐฯโชคดี สงครามโลกสองครั้งทำลายยุโรปพินาศ แต่สหรัฐฯโผล่มาไม่มีอะไรเสียหาย เป็นเจ้าแห่งเทคโนโลยีและอุตสาหกรรม สหรัฐฯไม่เคยเป็นอาณานิคม มีสงครามกลางเมืองแค่ครั้งเดียว แต่จีนต่างกันโดยสิ้นเชิง ในระยะ 4,000-5,000 ปี การเมืองขึ้น ๆ ลง ๆ บางช่วงไม่มีรัฐบาลกลาง มีขุนศึกหลายคนตั้งตนเป็นใหญ่

    แต่ชาวจีนก็รอดมาได้ เพราะมีเน็ตเวิร์กที่เป็นอิสระจากขุนศึกต่าง ๆ และรัฐบาล นั่นคือสถาบันครอบครัว รากเหง้าครอบครัว

    ลีกวนยูเห็นว่าสถาบันครอบครัว เครือข่ายครอบครัวสำคัญ เป็นรากแก้วของสังคม ไม่ใช่ปัจเจกชนอย่างในสังคมสหรัฐฯ เช่น บิล เกตต์ส และอื่น ๆ คนอเมริกันมองคนรวยที่สุด บูชาคนเก่งที่สุด โดดเด่น นั่นไม่ใช่วิถีขงจื๊อ

    เอาละ คนรวยควรช่วยคนจน แต่คนจนก็ต้องพึ่งพาตนเอง เขาไม่เห็นด้วยว่าการยกหนี้ให้ประเทศโลกที่สามจะช่วยแก้ปัญหาอะไร อาจมีข้อยกเว้นในกรณีภัยธรรมชาติ แต่โดยรวมไม่แก้ปัญหาอะไร เพราะการลบหนี้โดยไม่มีโครงสร้างและนโยบายที่จะช่วยคนให้ยืนต่อไปได้ ไม่เวิร์ก

    (หนังยังไม่จบ)

    .......................

    จาก สร้างชาติจากศูนย์ / วินทร์ เลียววาริณ
    สารคดีเกี่ยวกับชีวิตและผลงานของลีกวนยู รัฐบุรุษผู้สร้างชาติสิงคโปร์จากศูนย์ ที่เหมาะสำหรับผู้นำองค์กร ผู้บริการ นักการเมือง

    21 เรื่อง ราคา 300 บาท = เรื่องละ 14.2 บาท (ไม่คิดค่าส่ง)
    หนังสือหมดเมื่อไร จะไม่ตีพิมพ์ใหม่แล้ว

    (ซื้อเดี่ยว) เว็บ https://www.winbookclub.com/store/detail/248/สร้างชาติจากศูนย์ 

    Shopee https://shopee.co.th/product/90206829/29061345680/ 

    โปรโมชั่นรวม 3 เล่ม
    เว็บ https://www.winbookclub.com/store/detail/249/S12%20:%20ลีกวนยู%20+%20ไอน์สไตน์%20+%20หิน%2015%20ก้อน 

    Shopee https://shopee.co.th/product/90206829/29311345988/ 

    ทำไมควรซื้อหนังสือเล่มนี้: https://www.facebook.com/photo/?fbid=1207283390760350&set=a.208269707328395 

    0
    • 0 แชร์
    • 24