-
วินทร์ เลียววาริณ0 วันที่ผ่านมา
ผมก็รอมาหลายวันแล้ว มันก็เกิดขึ้นตามคาด
เช้านี้มีข่าวสหรัฐฯถอนใบประกาศล่าหัวผู้ก่อการร้ายตัวเขื่อง Ahmed al-Sharaa ผู้มีค่าหัว 10 ล้านดอลลาร์ ข้อหา Specially Designated Global Terrorist
ใครคือ Ahmed al-Sharaa?
หากผู้อ่านติดตามข่าวการล่มสลายของซีเรียในรอบสองสัปดาห์นี้ จะรู้ว่าซีเรียเป็นฐานปฏิบัติการของอิหร่านและรัสเซีย
อาทิตย์ก่อนกลุ่มกบฏนำโดย Ahmed al-Sharaa บุกเข้าเมืองหลวงซีเรียโดยไร้การต่อต้าน เพราะทหารไม่ได้รับเงินเดือน ผู้นำเผ่นไปรัสเซีย
ชัยชนะของกลุ่มกบฏไม่ใช่เพราะกลุ่มกบฏเก่งกาจ แต่เพราะซีเรียพร้อมจะแตกแล้ว และได้รับความสนับสนุนจากอิสราเอล ตุรกี และสหรัฐฯ ยึดประเทศได้แบบงงๆ
เมื่อซีเรียแตก อิสราเอลก็ทิ้งระเบิดถล่มฐานทัพต่างๆ ในซีเรียแบบจัดเต็ม ทำลายทุกอย่างสิ้นซากอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นก็บุกยึดดินแดนบางส่วน ตั้งใจอยู่ยาว (ไม่ค่อยเป็นข่าวในสื่อ)
ส่วนตุรกีก็ยึดดินแดนบางส่วนที่เสียไปตอนสงครามโลกครั้งที่ 1 คืน (ไม่ค่อยเป็นข่าวในสื่อเช่นกัน)
ดังนั้นการล่มของซีเรียคือชัยชนะของสหรัฐฯ อิสเราเอล และตุรกี และเป็นความพ่ายแพ้ของอิหร่านและรัสเซีย
ปีหน้าอิหร่านคงอยู่ยาก นั่นเป็นเรื่องของปีหน้า
ปัญหาคือหัวหน้ากลุ่มกบฏคนนี้เป็นพวก Al-Qaeda ในอิรัก กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับบินลาเดน พวกที่ขับเครื่องบินชนตึกในสหรัฐฯ ตายไปหลายพัน
แต่สหรัฐฯพร้อมที่จะลืมเรื่องนี้
ศัตรูของศัตรูคือมิตร
ขั้นต่อไปก็คงต้องเปลี่ยนภาพลักษณ์จากผู้ก่อการร้ายเป็นผู้รักสันติภาพ ไม่งั้นก็ไม่รู้จะตอบชาวอเมริกันทั้งประเทศได้อย่างไร
ชาติมหาอำนาจทำอะไรก็ไม่น่าเกลียด
เคี้ยกเคี้ยก
วินทร์ เลียววาริณ
21-12-240- แชร์
- 17
-
วินทร์ เลียววาริณ0 วันที่ผ่านมา
บทความใหม่วันเสาร์ คลิกลิงก์อ่านได้เลย https://www.blockdit.com/posts/6705110e954f5f89e6d25f39
0- แชร์
- 2
-
วินทร์ เลียววาริณ1 วันที่ผ่านมา
ช่วงหลายปีนี้ มีนักเขียนใหม่และนักอยากเขียนมาปรึกษาเรื่องการเขียน และการประกอบอาชีพนักเขียน ก็ให้คำแนะนำด้วยความยินดี
สิ่งหนึ่งที่นักเขียนใหม่เหมือนกันคือ ใจร้อนเหลือเกิน เช่น ตั้งเป้าว่าจะต้องออกหนังสือเป็นของตัวเองให้ได้ภายในปีนี้ปีหน้า
ขอเตือนคนที่คิดแบบนี้ว่า ระวังตั้งเป้าผิดนะครับ
อย่าเพิ่งตั้งเป้าว่าจะมีหนังสือเป็นของตัวเองภายในกำหนดเมื่อไร ให้ตั้งเป้าที่การเขียนหนังสือเก่ง เชี่ยวชาญก่อน
ถ้าเขียนเก่งเมื่อไร ก็จะมีหนังสือเป็นของตัวเองนั่นแหละ ปีละหลายเล่มก็ได้
เขียนงานเป็นเล่มตอนที่ฝีมือยังไม่ถึง ร้อยละร้อยได้งานไม่ดี
ฝึกมือจนแม่นดีกว่า คุมเรื่องอยู่ คุมอารมณ์เรื่องไหว คุมจังหวะได้ คุมภาษาแม่น
ฝึกทุกวัน ทุกนาทีหายใจเป็นตัวหนังสือ
เรื่องนี้เตือนหลายคนหลายครั้งหลายหนแล้ว แต่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยเชื่อ บางคนหาว่าผมกีดกันนักเขียนใหม่อีก (ขออนุญาตถอนใจหนึ่งเฮือก)
บอกตรงๆ ผมโคตรอยากให้บ้านเรามีนักเขียนเก่งๆ เกิดใหม่สักสองพันคน วงการจะได้คึกคักและพัฒนาเร็วกว่านี้ เพราะมีการแข่งขัน นักเขียนจะได้แยกไปเขียนหนังสือตระกูลที่ไม่มีใครเขียนกันตอนนี้
ตลาดหนังสือยังกว้างมหาศาล รอนักเขียนใหม่อยู่ แต่ในระยะยาว ตลาดเป็นของคนเขียนดี ไม่ใช่คนเขียนเสร็จ
ดังนั้นระวังภาพลวงตานี้ให้ดี เขียนหนังสือออกมาสำเร็จเป็นเล่มไม่ได้พิสูจน์ว่าเขียนดี
เป็นคนละเรื่องกัน
ฝึกเขียนให้เก่ง สร้างฐานนักอ่านให้แน่นในระดับหนึ่ง แล้วค่อยผลิตหนังสือ เพราะเล่มที่สองยากกว่าเล่มที่หนึ่ง และเล่มที่สามยากกว่าเล่มที่สอง ถ้าฝีมือไม่พร้อม จะได้ไปถึงเล่มที่ 10 หรือ 20 หรือ
ดังนั้นอย่ารีบร้อนเด็ดขาด ยิ่งรีบยิ่งช้า
ถ้าเป็นคนสนิทหน่อย ก็มักบอกว่า “นี่มึงจะรีบไปไหน?”
ว.ล.
20-12-240- แชร์
- 12
-
วินทร์ เลียววาริณ1 วันที่ผ่านมา
คุณดูหนังสนุก สองชั่วโมงผ่านไป หนังก็จบ คุณบอกว่า “เวลาความสุขสั้นจัง”
คุณดื่มเหล้ากับเพื่อนฝูงอย่างเพลิดเพลิน ผ่านไปสามชั่วโมง คุณก็ต้องยุติ เพราะร้านจะปิดแล้ว คุณบอกว่า “เวลาความสุขสั้นจัง”
คุณเป็นนักแสดงมีชื่อเสียง ทุกคนดูหนังที่คุณเล่น ทุกคนรักคุณ ผ่านไปสามสิบปี คุณเลิกเล่นหนัง อาชีพการแสดงของคุณยุติ พลุแห่งชื่อเสียงดับแล้ว คุณบอกว่า “เวลาความสุขสั้นจัง”
ช่วงเวลาแห่งความสุข ความรุ่งเรือง และชื่อเสียงไม่ได้สั้นกว่าเดิม มันผ่านไปด้วยความเร็วเท่าเดิมนั่นแหละ มันเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และผ่านไป เป็นสัจธรรมของธรรมชาติ เป็นวิถีของจักรวาล
สรรพสิ่ง ร่างกาย ยศ ชื่อเสียง สมบัติ ล้วนมีจุดสิ้นสุด ปัญหาเกิดขึ้นเมื่อเรามักเรียกจุดสิ้นสุดนี้ว่า ความเสื่อม และมองว่ามันเป็นด้านลบของชีวิต
หากชำแหละโครงสร้างของเวลา จะพบว่าหนึ่งวินาทีดำรงอยู่แล้วผ่านไป หนึ่งวินาทีนั้นสิ้นสุดเสมอ แต่เนื่องจากมันเชื่อมต่อกับหนึ่งวินาทีถัดไปและถัดไป จึงดูเหมือนว่ามันไหลไม่สิ้นสุด และมองไม่เห็นชัดเหมือนการดูหนังหนึ่งเรื่องหรือตั้งวงดื่มเหล้าหนึ่งคืน
ความจริงการไหลของเวลาไม่ใช่ความเสื่อม มันเป็นธรรมชาติปกติธรรมดาของมันอย่างนี้
ในปรัชญาพุทธ วิถีชีวิตไม่มีด้านลบด้านบวก ไม่มีเสื่อมและไม่เสื่อม ไม่มีอะไรทั้งนั้น ทุกอย่างเป็นมายา
ประโยค “มีลาภก็มีเสื่อมลาภ มียศก็มีเสื่อมยศ” เป็นเพียงภาษาที่เราใช้เพื่อให้เข้าใจอนิจจังและไม่ยึดติด ไม่ใช่เพื่อให้เป็นทุกข์
เมื่อเลือกไปมองว่ามันเป็นเรื่องไม่ดี ก็เกิดทุกข์ ยิ่งพยายามหลีกเลี่ยงมันสุดชีวิต ยิ่งเป็นทุกข์ เส้นผมขาวขึ้นหนึ่งเส้นก็กลุ้มใจไปสามวัน ตีนกาขึ้นหน่อยก็ต้องหาครีมสารพัดจากเจ็ดย่านน้ำมาใช้
บางครั้งไม่ได้กลุ้มใจที่มีรอยตีนกา แต่เมื่อคนรอบตัวทุกคนพูดว่ามันเป็นปัญหาใหญ่ ก็อาจเปลี่ยนใจขอกลุ้มใจด้วยคน
มีคนกล่าวว่า สุขคือทุกข์น้อย ทุกข์คือสุขน้อย แต่เราอาจมองในมุมของความเสื่อมได้ว่า สุขก็คือทุกข์ที่เสื่อม ทุกข์ก็คือสุขที่เสื่อม
คำว่า ‘เสื่อม’ ในที่นี้หมายถึง ‘กระบวนการเปลี่ยนแปลง’ ไม่ใช่ ‘จุดจบ’ มันแค่ชี้ให้เห็นการแปลงลักษณ์ซึ่งเป็นธรรมดาของโลก แต่เรามักไปกำหนดยึดมั่นถือมั่นเอาเองว่า เปลี่ยนแบบนี้คือสุข เปลี่ยนแบบนั้นคือทุกข์
มองแบบนี้จะเห็นว่าความเสื่อมก็คือมายาอย่างหนึ่ง และในเมื่อความเสื่อมเป็นมายา เราก็อาจเลือกมองมันในแง่ดีได้ เพราะขณะที่ความสุขไม่จีรังและผ่านพ้นไป ความทุกข์ก็ไม่จีรังและผ่านพ้นไปเช่นกัน
ขณะที่เกิดสภาวะที่เรียกว่า ‘ความทุกข์’ ก็ให้มีสติรับรู้ว่า เดี๋ยวมันก็ ‘เสื่อม’ ไปเอง
แปลว่า “เดี๋ยวมันก็เปลี่ยนไปอีกแหละ ไม่ต้องกลุ้ม”
อย่างไรก็ตาม ความเสื่อมตามธรรมชาติมักเป็นเรื่องที่แก้ไขไม่ได้ เพราะมันมากับเวลา แต่ความเสื่อมทางจิตวิญญาณ อาจหยุดยั้งได้
ในโลกธุรกิจมีคำว่า depreciation หมายถึงการเสื่อมราคา คือค่าใช้จ่ายที่ตัดจากมูลค่าของสินทรัพย์ของกิจการหนึ่ง ๆ ทุกชิ้นมีความเสื่อมลงไปเรื่อย ๆ
มนุษย์ทุกคนมีค่าเสื่อมราคา ซึ่งเป็นได้ทั้งทางกายภาพและตัวตนภายใน แต่ต่างจากกายภาพ ราคาตัวตนภายในอาจจะเสื่อมหรือเพ่ิมก็ได้ แล้วแต่การกระทำของเรา หากทำเรื่องดีงาม เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม ค่า depreciation ก็จะเปลี่ยนเป็นค่า appreciation หมายถึงมูลค่าที่เพิ่มสูงขึ้นตามกาลเวลา
ตามทัน ‘ความเสื่อม’ เป็นเรื่องดี ทำให้ไม่เป็นทุกข์
เปลี่ยนค่าเสื่อมราคาของตัวเองเป็นค่าเพิ่มราคาก็เป็นเรื่องดี ทำให้โลกสว่างขึ้น
..........
จาก ความสุขเล็ก ๆ ก็คือความสุข / วินทร์ เลียววาริณ
https://www.winbookclub.com/store/detail/165/ความสุขเล็ก%2520ๆ%20ก็คือความสุข
57 บทความกำลังใจสั้นและยาว ราคาเพียง 190 บาท = บทความละ 3.3 บาท (ไม่คิดค่าส่ง)
หนังสือหมดเมื่อไร จะไม่ตีพิมพ์ใหม่แล้ว
0- แชร์
- 31
-
วินทร์ เลียววาริณ2 วันที่ผ่านมา
นิยามความรักในมุมเศรษฐศาสตร์และการตลาด :
การจีบคือการเสนอแพ็คเกจจิงสินค้าใหม่
การหารถยนต์มาโชว์สาวคือค่าใช้จ่ายทางการตลาด
การโทรศัพท์หาสาวเช้าเย็นคือการทุ่มทุนโฆษณา
การไปรับส่งสาวเช้าเย็นคือโฆษณาเกินจริง
การเข้าพบพ่อแม่แฟนคือพรีเซนเตชั่น
การหยุดรับส่งสาวหลังแต่งงานคือหมดโปรโมชั่น
การซักผ้าคือดอกเบี้ยทางการตลาด
การเลิกกันคือการเรียกสินค้าหมดอายุคืนจากร้าน
การหาคนใหม่คือการสร้างสินค้าใหม่
การจีบคือการเสนอแพ็คเกจจิงสินค้าใหม่...
ว.ล.
19-12-240- แชร์
- 23