• วินทร์ เลียววาริณ
    0 วันที่ผ่านมา

    ทำไมชีวิตบนโลกเราต้องมีเพศผู้เพศเมีย? ทำไมเป็นสองเพศ ไม่เป็นสาม สี่ ห้า? เพศเกิดขึ้นมาได้ยังไง

    บางคนอาจงง เอ๊ะ! ชีวิตทั้งหลายไม่มีเพศมาก่อนหรือ?

    ใช่ แรกเริ่มสิ่งมีชีวิตสืบพันธุ์โดยการแบ่งตัว ฯลฯ การสืบสายพันธุ์ด้วยเพศผู้เพศเมียเพิ่งเกิดขึ้นในโลกราว 385 ล้านปีก่อนนี่เอง ถือว่าสั้นมากเมื่อเทียบอายุของโลก

    แล้วทำไมธรรมชาติจึงเลือกทางมีเพศ?

    มีหลายทฤษฎีที่พยายามอธิบาย ทฤษฎีหนึ่งคือ การสืบทอดด้วยเพศทำให้วิวัฒนาการเคลื่อนไปได้ในเวลาที่สั้นกว่า ระบบเพศยังทำให้สิ่งมีชีวิตมีความซับซ้อนมากขึ้น เพราะเป็นการรวมยีนจากสองสาย ทำให้มีทางเลือกของการ 'ต่อตัว' แบบเกมโดมิโนมากทางเลือกขึ้น

    ลองนึกดู หากธรรมชาติไม่ได้มาทางทิศนี้ โลกเราวันนี้ก็ไม่มีเพลงรัก ไม่มีพิธีแต่งงาน ไม่มีการจดทะเบียนสมรส ไม่มีการซักผ้า เอ๊ย! ขออภัย พิมพ์ผิด แต่ขี้เกียจลบ

    ในเมื่อเพศเพิ่งมา ก็แปลว่าในอนาคตมันอาจเปลี่ยน หรืออาจไม่มี วิวัฒนาการเรื่องการสืบพันธุ์อาจเปลี่ยนทิศอีกครั้งหนึ่ง เช่นทีในอดีตกาลนานมาแล้ว เราไม่ได้สืบพันธุ์กันด้วยวิธีดั้งเดิม เรื่องเพศในอีกหนึ่งหรือสองแสนปีข้างหน้าอาจแตกต่างจากสมัยนี้อย่างหน้ามือเป็นหลังมือ มิพักเอ่ยถึงเรื่องเพศในอีกหนึ่งล้านปีข้างหน้า

    บางคนอาจบอกว่า ทำไมคิดจะเปลี่ยนเสียเล่า ในเมื่อด้วยวิธีการที่เป็นอยู่ ก็ 'เอนจอย' ดีอยู่แล้ว แต่ความเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่พ้น ธรรมชาติและเทคโนโลยีสามารถเปลี่ยนทิศทางวิวัฒนาการของมนุษยชาติโดยที่เราในวันนี้นึกไม่ถึง

    ไบรอัน ไซก์ส ศาสตราจารย์ด้านพันธุกรรม แห่งมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ชี้ให้เห็นถึงความเป็นไปได้ของการสิ้นสุดเพศชาย จากการศึกษาโครโมโซม Y มาอย่างยาวนาน

    โดยปกติโครโมโซมของเพศหญิงคือ X กับ X ถ่ายทอดมาจากพ่อและแม่ ส่วนโครโมโซมของเพศชายคือ X กับ Y เฉพาะโครโมโซม Y ถ่ายทอดผ่านมาทางพ่อเท่านั้น เมื่อผ่านระยะเวลายาวนานและการกลายพันธุ์นับครั้งไม่ถ้วนของยีน โครโมโซม Y จึงเป็นผลรวมของยีนไม่ดีต่าง ๆ มากมาย และเนื่องจากโครโมโซม Y ซ่อมตัวเองไม่ได้ มันจะเสื่อมลงไปเรื่อย ๆ วันหนึ่งในอนาคต ประมาณอีกห้าพันชั่วอายุคน หรือ 125,000 ปี จุดสิ้นสุดของเพศชายอาจเลี่ยงไม่พ้น นอกเสียจากว่าธรรมชาติจะกลับทิศทางของมันเพื่อความอยู่รอด หรือมนุษย์ทำการดัดแปลงธรรมชาติด้วยตัวเอง

    ศาสตราจารย์ไซก์สยังศึกษาเปรียบเทียบจำนวนตัวอสุจิในน้ำเชื้อของชายในช่วงปี 1940-1990 พบว่าจำนวนตัวอสุจิของผู้ชายทั่วโลกลดลงอย่างฮวบฮาบ จากจำนวนมากกว่า 100 ล้านตัว/ม.ล. ลงมาเหลือน้อยกว่า 20 ล้านตัว/ม.ล. ทั้งนี้เป็นผลมาจากปริมาณสารเคมีและมลพิษที่เพิ่มขึ้นในโลก หากทิศทางของระบบนิเวศเสียการทรงตัวไปเรื่อย ๆ การสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าคนอาจมาเยือนเร็วขึ้น หรืออาจเป็นผลให้ทิศทางของการสืบพันธุ์เปลี่ยนไป

    ในสังคมโลกมนุษย์ที่จำนวนประชากรมากขึ้นเรื่อย ๆ ปัญหาเพศก็ทวีขึ้น คนเจ็ดพันกว่าล้านคนใน พ.ศ. นี้ อาจเพิ่มเป็นสองเท่าในศตวรรษหน้า และอีกหลายเท่าในศตวรรษถัดไป บางทีเมื่อจำนวนคนในโลกมากเกินกว่าที่ควรเป็น ทิศทางของการควบคุมประชากรอาจเปลี่ยนไปโดยไม่จำเป็นต้องเป็นสงคราม

    ถึงเวลานั้น มนุษยชาติอาจถูกบังคับให้ต้องควบคุมจำนวนประชากรโลกก่อนที่อาหารจะหมด และหากจำเป็น เราอาจต้องแปลงพันธุ์มนุษย์ให้มีเพศสัมพันธ์เป็นฤดูกาลเช่นเดียวกับพฤติกรรมทางเพศของสัตว์ เพื่อให้ระบบเพศเกิดความสมดุลกับระบบอื่น ๆ มากขึ้น

    บางทีวันหนึ่งการสืบทอดเผ่าพันธุ์อาจไม่ใช้กระบวนการสืบพันธุ์แบบเดิม เด็กยุคใหม่อาจเกิดมาจากการผสมยีนในห้องทดลอง และไม่จำเป็นต้องอยู่ในร่างกายของแม่นานหลาย ๆ เดือน

    ความสุขทางเพศนั้นแท้จริงแล้วมิได้เกิดขึ้นที่อวัยวะเพศ หากที่สมอง วันหนึ่งมนุษย์อาจไปถึงขั้นที่สามารถสร้างความรู้สึกทางเพศที่สมองโดยตรง สามารถถึงจุดสุดยอดทางเพศโดยไม่ต้องร่วมเพศ หรืออาจผสมรวมความสุขความบันเทิงแบบอื่น ๆ เข้าไปด้วย เมื่อนั้นการร่วมเพศเพื่อสืบทอดเผ่าพันธุ์อาจกลายเป็นเรื่องล้าหลังอย่างยิ่ง เมื่อวิทยาการของเราก้าวไปถึงจุด ๆ หนึ่งที่เราเป็น 'พรหม' ลิขิตชีวิตของเราเอง ควบคุมเลือกยีนของเราเองได้ เราสามารถที่จะมีอายุยืนยาวใกล้เคียงกับความเป็นอมตะ ความต้องการที่จะสืบทอดเผ่าพันธุ์ก็อาจไม่จำเป็นอีกต่อไป

    และตามหลักวิวัฒนาการ หากอวัยวะส่วนใดไม่ได้ใช้นานเข้า มันก็จะหายไปโดยอัตโนมัติ ผ่านไปอีกสักล้านปี วิวัฒนาการที่ถูกกระตุ้นโดยเทคโนโลยีก็อาจทำให้มนุษย์โลกเราไม่มีอวัยวะเพศอีกต่อไป หรือหากแนวโน้มของโลกเป็นระบบสังคมที่ต้องการความเป็นปัจเจกมากขึ้น ก็อาจทำให้มนุษย์โลกเราเหลือเพียงเพศเดียว หรือสองเพศในตัวคนเดียว หรืออาจไม่มีเพศอีกต่อไป

    ธรรมชาติก็คือความเปลี่ยนแปลง

    จาก หนังสือถ่างความคิด 'ปลาที่ว่ายในสนามฟุตบอล'

    สั่งซื้อได้จากเว็บ https://www.winbookclub.com/store/detail/182/ปลาที่ว่ายในสนามฟุตบอล 

    หรือซื้อในราคาพิเศษในชุดโปรโมชั่น https://www.facebook.com/photo/?fbid=1258378178984204&set=a.208269707328395 

    0
    • 0 แชร์
    • 5
  • วินทร์ เลียววาริณ
    0 วันที่ผ่านมา

    หลังจากโกดังสำนักพิมพ์ 113 ถูกฤทธิ์แผ่นดินไหว เราไม่สามารถนำหนังสือบางส่วนในชุดโปรโมชั่น 2,100 ออกมา จึงขอปรับเปลี่ยนรายการโปรโมชั่นชุดนี้ โดยเปลี่ยนเป็นเล่มที่มีราคาสูงขึ้น แต่ยังคงราคาลดเท่าเดิม

    นี่คือรายการที่อัปเดตใหม่

    รอยเท้าเล็ก ๆ ของเราเอง ราคาปก 195.-
    เบื้องบนยังมีแสงดาว ราคาปก 185.-
    อาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตก ราคาปก 185.-
    ท้องฟ้าไม่ปิดทุกวัน ราคาปก 195.-
    จุดเทียนทั้งสองปลาย ราคาปก 215.-
    ชีวิตเป็นเรื่องชั่วคราว ราคาปก 215.-
    ในหลุมรัก ราคาปก 210.-
    ยาเม็ดสีแดง ราคาปก 210.-
    สองปีกของความฝัน ราคาปก 190.-
    หลับถึงชาติหน้า ราคาปก 245.-
    1% ของความเป็นไปได้ ราคาปก 210.-
    รอยยิ้มใต้สายฝน ราคาปก 210.-
    ชีวิตคือปาฏิหาริย์! ราคาปก 195.-
    คำที่แปลว่ารัก ราคาปก 190.-
    เส้นสมมุติ ราคาปก 200.- (เรื่องสั้นรางวัล PEN)
    16 องศาเหนือ ราคาปก 320.- (ภาคขยาย ประชาธิปไตยบนเส้นขนาน)
    ยุทธจักรวาลกิมย้ง ราคาปก 275.- (ประวัติศาสตร์จีนเบื้องหลังนวนิยาย)
    ปลาที่ว่ายในสนามฟุตบอล ราคาปก 215.- (หนังสือสารคดีความรู้อัดแน่น)

    รวม 18 เล่ม ราคาปกรวม 3,860.- (เดิม 3,655.-)
    ลดเหลือ 2,100.- เท่าเดิม
    เฉลี่ยเล่มละร้อยกว่าบาทเท่านั้น และไม่คิดค่าส่ง

    ท่านที่ไม่สะดวกมางานหนังสือ หรือยังกลัวการออกจากบ้าน ก็สามารถสั่งซื้อออนไลน์ได้ เพราะหนังสือหมดเมื่อไร จะไม่ตีพิมพ์ใหม่แล้ว

    ..........................

    สั่งซื้อได้ทางเดียวคือ inbox เฟซบุ๊ค วินทร์ เลียววาริณ
    โอนเงินไปที่บัญชี "วินทร์ เลี้ยววาริณ ธนาคารกสิกรไทย สาขาพัฒน์พงศ์ 018-2-85554-5"
    ส่งภาพหลักฐานการโอนมาด้วย เพื่อให้รู้ว่าเป็นลูกค้าคนใด

    หมายเหตุ หากเล่มใดขาด จะแทนด้วยเล่มที่มีมูลค่าใกล้เคียง

    0
    • 0 แชร์
    • 11
  • วินทร์ เลียววาริณ
    0 วันที่ผ่านมา

    เมื่อไอน์สไตน์ยังเป็นหนุ่มในวัยยี่สิบกว่า เขาก็เริ่มสอนหนังสือในมหาวิทยาลัยแล้ว แต่ไม่มีนักศึกษามาฟังเขาสอนเลยสักคน ยกเว้นหญิงสาวคนหนึ่งไปฟังเขาเล็กเชอร์

    หญิงสาวคนนี้ไม่ใช่นักศึกษาวิชาของเขา แต่ไปฟังเขาเล็กเชอร์ เพื่อให้เห็นว่ามีคนสนใจวิชานี้

    เธอชื่อมายา นามสกุลไอน์สไตน์

    เป็นน้องสาวของ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์

    มายาเป็นเด็กฉลาด เรียนหนังสือเก่ง จบปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยเบิร์นในปี 1909 เธอสนใจด้านภาษา วรรณกรรม รู้ภาษาดีมาก ตั้งแต่ละติน ฝรั่งเศส ไปจนถึงสเปน

    มายายังเป็นนักใช้ชีวิต เธอเดินทางไปมาระหว่างหลายประเทศในยุโรป

    หลังแต่งงาน มายากับสามีย้ายไปอยู่ที่อิตาลีในปี 1924 ไอน์สไตน์ช่วยเหลือจ่ายหนี้สินค่าบ้านที่ค้างอยู่ให้หมด

    หลังจากพวกยิวถูกกีดกันและต่อต้านในอิตาลี ในปีเริ่มสงครามโลกครั้งที่สอง มายาก็ย้ายถิ่นฐานไปอยู่ที่สหรัฐฯ แต่สามีเธอไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าสหรัฐฯด้วยเหตุผลด้านสุขภาพ มายาไปอยู่กับพี่ชายคือไอน์สไตน์ที่ถนนเมอร์เซอร์ ส่วนสามีเธออยู่ที่กรุงเจนีวา

    ไอน์สไตน์สนิทกับน้องสาวคนนี้มาก ทั้งสองมีอารมณ์ขันเหมือนกัน ชอบพูดตลก

    มายาเล่าว่าเมื่ออายุเจ็ดขวบ ไอน์สไตน์ขว้างลูกโบว์ลิงใส่ศีรษะเธอ เธอเขียนว่า “นี่แสดงว่าคนที่จะเป็นน้องสาวของนักฟิสิกส์ชื่อก้องโลกได้ ต้องหัวแข็งมาก”

    ทั้งสองเป็นมากกว่าพี่น้อง แต่เหมือนเพื่อนสนิท

    เมื่ออายุมากแล้ว มายาเป็นสโตรค ต้องนอนติดเตียงไปจนวันตาย เธอพูดไม่ได้ แต่ยังเข้าใจและรู้เรื่องสิ่งที่เป็นไปในโลกภายนอก

    ทุกวันไอน์สไตน์ในวัยชราไปเยี่ยมน้องสาว บ่อยครั้งเดินฝ่าลมหนาวจากแคมปัสพรินซตันไปหาเธอที่ห้อง เขามักพูดว่า “มายา เรามาคุยกันนะ”

    เขาอ่านหนังสือให้มายาฟัง ทั้งสองเป็นนักอ่าน ชอบงานวรรณกรรมของดอสโตเยฟสกี ชอบงานนักสืบ Ellery Queen

    เขาอ่านให้เธอฟัง แต่น้องสาวไม่สามารถพูดตอบได้

    มายาจากโลกไปในปี 1951 ไอน์สไตน์รู้สึกเศร้าใจอย่างยิ่ง

    คนเราไม่ว่าจะอยู่บนยอดเขาสูง หรือสถานะใด ท้ายที่สุดก็ต้องการชีวิตธรรมดาที่เรียบง่าย เพราะความเรียบง่ายเป็นข้อแม้แรกของความสุข

    ความสัมพันธ์ระหว่างคนเป็นเครื่องชี้ว่าเรามีความสุขหรือไม่

    การใช้ชีวิตก็คล้ายวิชาฟิสิกส์ คนจำนวนมากพยายามทำชีวิตให้ซับซ้อนอย่างวิชาสัมพัทธภาพ แต่ละทิ้งวิชาสัมพันธภาพระหว่างคน

    .............................

    จาก ปฏิบัติการผ่าสมองไอน์สไตน์ / วินทร์ เลียววาริณ

    สารคดีเกี่ยวกับวิถีชีวิตของไอน์สไตน์ มุมมองต่อโลกและชีวิต + ปรัชญาต่างๆ บางบทความอาจเปลี่ยนชีวิตคุณ

    21 บทความ ราคา 300 = บทความละ 14.2 บาท (ไม่คิดค่าส่ง)
    หนังสือหมดเมื่อไร จะไม่ตีพิมพ์ใหม่แล้ว

    https://www.winbookclub.com/store/detail/240/ปฏิบัติการผ่าสมองไอน์สไตน์ 

    มีโปรโมชั่นพิเศษไอน์สไตน์ + เล่มอื่น
    Shopee คลิกลิงก์ https://shope.ee/6KgvYw47A4?share_channel_code=6 

    0
    • 0 แชร์
    • 16
  • วินทร์ เลียววาริณ
    1 วันที่ผ่านมา

    (ต่อจาก https://www.facebook.com/photo/?fbid=1257024079119614&set=a.208269707328395)

    ถาม : คิดเห็นอย่างไรกับการอ่านในยุคนี้ ที่ไม่ได้จำกัดแค่ “อ่านหนังสือ” อีกต่อไป

    ตอบ : การอ่านหรือจะดู หรือด้วยวิธีการใดๆ ไม่สำคัญ สำคัญที่สาระของสารที่เสพเข้าไป

    ถ้าเสพสารไม่หลากหลาย ความคิดก็จะไม่กว้างเท่าที่ควร

    ถ้าเสพแล้วไม่สามารถย่อยหรือวิเคราะห์ ความคิดก็จะคับแคบ หรืออาจจะโง่ลงได้

    .........................................

    ถาม : เมื่อผลสำรวจบอกว่า “คนไทยอ่านหนังสือปีละ 8 บรรทัด” ในฐานะนักเขียนคิดเห็นอย่างไรกับผลสำรวจนี้

    ตอบ : อ่านหนังสือกี่บรรทัดไม่สำคัญ สำคัญที่อ่านอะไร อ่านเป็นไหม อ่านแตกไหม อ่านหลากหลายไหม

    อ่านหนังสือเป็นคืออ่านแล้วย่อย แตกหน่อความคิด แล้วฉลาดขึ้น

    อ่านหนังสือไม่เป็นคืออ่านแล้วเชื่อเลย ไม่คิด ไม่วิเคราะห์ การอ่านแบบนี้อาจทำให้โง่ลงได้ หรืออาจเลวร้ายกว่าไม่อ่านด้วยซ้ำ

    ร่างกายคนเราต้องการสารอาหารอย่างน้อยจำนวนหนึ่งจึงมีชีวิตอยู่ได้โดยไม่เป็นโรคภัย สมองก็เช่นกัน ต้องอ่านมากพอในปริมาณหนึ่ง ซึ่งบ่อยครั้ง 8 บรรทัดไม่พอ

    .........................................

    ถาม : การเขียนหนังสือกับเขียนบนสื่อออนไลน์ แตกต่างกันอย่างไร โดยส่วนตัวแล้วชอบแบบไหนมากกว่า

    ตอบ : ไม่แตกต่าง เหมือนสร้างหนังมาหนึ่งเรื่อง จะฉายที่โรงหนังหรือทางโทรทัศน์ก็ได้ ที่สำคัญคือเนื้อหาสาระของเรื่อง

    .........................................

    ถาม : เมื่อสื่อออนไลน์มีอิทธิพลมากขึ้น สไตล์การเขียนของคุณวินทร์เปลี่ยนไปหรือไม่ อย่างไร

    ตอบ : เปลี่ยนอย่างเดียวคือ สำหรับเรื่องออนไลน์ จะเขียนสั้นลง และจับเหตุการณ์ภายนอกมากขึ้น ส่วนงานเขียนอื่น ยังเป็นปกติ ไม่มีความเปลี่ยนแปลงอะไร

    .........................................

    ถาม : งานเขียนในยุคก่อนจะมีสื่อโซเชียลกับปัจจุบันที่สื่อโซเชียลมีอิทธิพลมากกว่าหนังสือ แตกต่างกันอย่างไร

    ตอบ : ผมมองไม่เห็นความแตกต่างชัดเจน เพราะนักเขียนแต่ละคนก็มีสไตล์ วิธีการทำงานที่ไม่เปลี่ยนมาก

    .........................................

    ถาม : ปัญหาของงานเขียนออนไลน์คืออะไร เพราะอะไร

    ตอบ : ไม่อยากเรียกว่า ‘ปัญหา’ แต่เป็นคุณลักษณะมากกว่า และคุณลักษณะของการเขียนออนไลน์คือ สั้น เร็ว ชกเข้าเป้าโดยเร็ว

    .........................................

    ถาม : งานเขียนแนวไหนที่ชอบเป็นพิเศษ และงานเขียนแนวไหนที่อยากเขียน แต่ยังไม่เคยเขียน เพราะอะไรถึงยังไม่ ได้เขียน

    ตอบ : ผมก็ชอบแทบทุกแนว งานเขียนที่ยังไม่ได้เขียนมีหลายแนวเช่น นวนิยายปรัชญา นวนิยายธรรมะ นิยายกำลังภายใน ถ้าพร้อมและยังมีแรง ก็คงได้เขียน

    .........................................

    ถาม : มีวิธีเติมแรงบันดาลใจในการเขียนให้ตัวเองอย่างไร

    ตอบ : เติมเรื่อยๆ อ่านเรื่อยๆ อ่านกว้างๆ แล้วคิดไปด้วย ก็เป็นวิธีหนึ่งที่เปิดความคิด และทำให้มีเรื่องเขียน

    .........................................

    ถาม : มองว่าตัวเองประสบความสำเร็จแล้วหรือยัง ถ้ายังแล้วอะไรคือความสำเร็จของคุณวินทร์

    ตอบ : ถ้าวัดด้วยมาตรของความฝันวันแรกที่เขียนหนังสือ ก็ถือว่าสำเร็จ มาไกลกว่าที่คิดไว้หลายปีแสง

    ตอนแรกแค่เขียนสนุกๆ และทำงานด้วยความยากเย็นแสนสาหัส จนคิดว่าไม่น่ารอดแน่ แต่เมื่อถึงจุดหนึ่งก็รู้สึกว่า ‘เอาอยู่’ และมั่นใจขึ้นมาก ประกอบกับผลตอบรับทั้งคนอ่าน รางวัล และรายได้ที่พอเลี้ยงตัวได้จากการเขียนหนังสืออย่างเดียว ก็ถือว่าสำเร็จ ซึ่งอาจต่างจากระดับความสำเร็จของนักเขียนดังระดับโลกหลายล้านปีแสง แต่แค่นี้ก็พอใจแล้ว

    .........................................

    ถาม : ฝากข้อคิดการใช้ชีวิตในแบบฉบับของ ‘วินทร์ เลียววาริณ’

    ตอบ : ใช้ชีิวิตให้สมกับค่าใช้จ่ายที่ธรรมชาติมอบให้เรา

    0
    • 0 แชร์
    • 17
  • วินทร์ เลียววาริณ
    1 วันที่ผ่านมา

    การสอบเข้าเรียนคณะสถาปัตย์ฯในสมัยผมนั้น มีวิชาคณิตศาสตร์ด้วย ทั้งที่ดูเผินๆ วิชาออกแบบไม่น่าจะต้องใช้การคำนวณ

    แต่เรามีวิชาคำนวณโครงสร้างตั้งแต่เทอมแรก ได้แก่วิชา Structure in Architecture วิชา Timber & Steel Design และวิชา Building Materials & Construction อีกหกเทอม

    หลายวิชาสอนโดยอาจารย์จากคณะวิศวกรรรมศาสตร์ จุฬาฯ

    ถึงจะเป็นสถาปนิก ไม่ต้องเซ็นรับรองแบบก่อสร้างก็จริง แต่ต้องรู้เรื่องโครงสร้างในระดับหนึ่ง

    เรายังต้องเรียนวิธีการผูกเหล็ก แรงต่างๆ ที่กระทำต่อตึก ไม่ว่าแรงดึง แรงอัด แรงเฉือน

    วันนี้มีข่าวกระทรวงอุตสาหหกรรมเผยผลตรวจตัวอย่างเหล็กตึก สตง. พบว่าเหล็กข้ออ้อยขนาด 20 และ 32 มิลลิเมตร ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน มอก. 

    เรื่องจะมีเบื้องหลังอย่างไรหรือไม่ ก็ต้องตรวจสอบจนรู้ความจริง เพราะไม่รู้ว่ามีอีกกี่อาคารที่ไม่ผ่านมาตรฐาน

    กลับมาที่การเรียนคณะสถาปัตย์ฯ มีอยู่ปีหนึ่ง หนังเรื่อง The Towering Inferno มาฉาย อาจารย์สั่งให้ลูกศิษย์ไปดู

    ไม่ใช่เพราะนักแสดงรูปหล่อ (พอล นิวแมน กับ สตีฟ แม็คควีน) แต่ให้ดูพล็อตเรื่องการสร้างตึกสูง ตัวร้ายเปลี่ยนวัสดุก่อสร้าง ทำให้ตึกเกิดไฟไหม้อย่างรุนแรง

    เนื้อเรื่องแบบนี้ใช้บ่อย และดูเหมือนเราจะเชื่อว่ามีแต่ในหนัง

    แต่ในชีวิตจริงก็มี อยู่ที่จะพบหรือไม่พบ และพบเมื่อสายเกินไปแล้วหรือไม่

    ส่วนหนังจริงเรื่องนี้จะจบแบบคนร้ายตาย หรือจับคนร้ายผิดตัว หรือไม่มีคนร้าย ก็โปรดติดตาม

    ป.ล. นักแสดงเป็นตัวร้ายคือ ริชาร์ด แชมเบอร์เลน เพิ่งเสียชีวิตไม่กี่วันที่ผ่านมา ส่วนคนเขียนบทเรื่องนี้เป็นฝรั่งมาอยู่กรุงเทพฯ แต่ตายไปก่อนเห็นตึกถล่มของจริง จึงไม่เห็นว่าเรื่องจริงโหดร้ายกว่าในหนังเยอะ

    วินทร์ เลียววาริณ
    1-4-25

    0
    • 0 แชร์
    • 29