-
วินทร์ เลียววาริณ1 วันที่ผ่านมา
ลูกค้าสองคนนี้เป็นขาประจำร้านพับผ่ามานานปี อายุคนทั้งสองก็พอกับข้าพเจ้า เป็นไม้ใกล้ฝั่ง
ข้าพเจ้าถามลูกค้า "คุยกันเรื่องอะไรครับ?"
"คุยว่าจะแก้ส่วนไหนดี แก้ท่อนบนหรือท่อนล่าง หรือแก้หมด"
ข้าพเจ้าหัวเราะ "นี่คุยเรื่องหนังโป๊แล้วหรือครับ?"
"เปล่า เรื่องแก้รัฐธรรมนูญ เรากำลังถกกันว่าเราควรแก้รัฐธรรมนูญหรือเปล่า?"
"จะแก้ท่อนบนหรือท่อนล่าง หรือแก้หมด อยู่ที่นักการเมืองไม่ใช่หรือ?"
"นักการเมืองบอกว่าให้ประชาชนตัดสิน ทำประชามติน่ะ”
"ถ้าประชามติไม่ให้แก้?"
"ก็เสนอใหม่ แล้วทำประชามติอีก"
"ดื่มเหล้าดีกว่ามั้ง"
ลูกค้าหัวเราะ "จริง มีอะไรน่าสนใจ"
ข้าพเจ้าว่า "มาทำประชามติค็อคเทลรัฐธรรมนูญดีกว่ามั้ง ดูว่าแก้วไหนดีที่สุด แก้วแรกคือค็อคเทลรัฐธรรมนูญ หรือ The Constitution cocktail ทำด้วย dry gin ผสม blueberry ผสมchamomile และขิง"
หลังจากลูกค้าดื่มรัฐธรรมนูญแก้วแรกเข้าไปแล้ว ข้าพเจ้าก็ผสมแก้วที่สอง Constitution Cooler ทำด้วยวิสกี้เบอร์เบิน ผสม cucumber syrup น้ำมะนาว น้ำผึ้ง น้ำแข็ง
การทำประชามติรัฐธรรมนูญแก้วที่สองหายจบลงท้องอย่างรวดเร็ว
ลูกค้าว่า "ดื่มรัฐธรรมนูญอร่อยกว่าทำประชามติจริงๆ นะ"
"เมืองไทยเราชอบแก้ที่ปลายเหตุ ดูเหมือนใครก็ตามที่ขึ้นมาเป็นใหญ่ เป็นต้องรื้อ อ้างเหตุผลเดิมๆ"
"เมืองไทยแก้รัฐธรรมนูญสำเร็จมาแล้ว 22 ครั้ง ผมอายุปูนนี้แล้ว ยังไม่เคยเห็นนักการเมืองทำอะไรเพื่อประชาชนจริงๆ และชอบขี่ช้างจับตั๊กแตน"
ข้าพเจ้าถาม "ยังไง?"
เขาย้อนถามกลับ "เราแก้รัฐธรรมนูญเพื่ออะไร?"
"เพื่อให้ประเทศดีขึ้น - มั้ง?"
"จริง แต่ความจริงมันมีวิธีแก้ที่ได้ผลดีกว่านั้น"
"ยังไง?"
"แก้นิสัยคนก่อน เพราะจากประวัติศาสตร์ ต่อให้รัฐธรรมนูญฉบับที่คนส่วนใหญ่บอกว่าดีที่สุด ก็ยังถูกปู้ยี่ปู้ยำ ปัญหาไม่ใช่ตัวหนังสือ ปัญหาคือคน"
"แล้วจะแก้คนอย่างไร?"
"การศึกษาที่สร้างปัญญา ให้คิดเป็น การสร้างคนรุ่นใหม่ให้รังเกียจคอร์รัปชั่น"
"ถ้าคุณเป็นคนร่างรัฐธรรมนูญ คุณจะเน้นอะไร?"
"ผมจะเขียนว่า การคอร์รัปชั่นคือการขายชาติ โทษต้องประหารชีวิตอย่างเดียว ประเทศไทยจะกลายเป็น failed state ก็เพราะคอร์รัปชั่นนี่แหละ"
ลูกค้าอีกคนว่า "เอ้า! ยังมีค็อคเทลให้ทำประชามติมั้ย?"
ข้าพเจ้าตอบ "มีอีกแก้ว ชื่อ Constitution Hound"
"Hound แปลว่าอะไร?"
"หมาล่าเนื้อ"
"โอ! แปลตรงตัวว่าสุนัขล่ารัฐธรรมนูญใช่ไหม?"
ข้าพเจ้าตอบ "ผมไม่รู้ ผมรู้แต่ว่ามันทำด้วยเหล้าไรย์ ผสม Campari ผสม Fernet Branca ผสม Bigallet China-China ผสม Absinthe"
สุนัขล่ารัฐธรรมนูญหมดลงท้องอย่างรวดเร็ว
ข้าพเจ้าถาม "ตกลงแก้วไหนผ่านประชามติ?"
"อืม! ผมเมารัฐธรรมนูญเกินไปที่จะตอบแล้ว"
วินทร์ เลียววาริณ
17-10-25..................
หมายเหตุ เหล้าทั้งหมดนี้มีจริง
พับผ่า! บาร์เทนเดอร์ (The Bartender Series 1) มีจำหน่ายแล้วในรูปอีบุ๊ค สนใจดูได้ในเว็บ The Meb
1- แชร์
- 29
-
วินทร์ เลียววาริณ1 วันที่ผ่านมา
ในงานหนังสือรอบนี้ มีผู้อ่านไม่น้อยไม่รู้ว่า สี่ภพ เป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร ทำไมอยู่ดีๆ นึกเขียนเรื่องแนวนี้
ก็ขอเล่าซ้ำหน่อย ท่านที่รู้แล้ว ก็ข้ามไปได้
ราวปี พ.ศ. ๒๕๔๕-๒๕๔๖ ผมเขียนคอลัมน์ชื่อ ำ (อำ) ที่มติชนสุดสัปดาห์ คอนเส็ปต์ของคอลัมน์นี้คือหาเรื่องมาอำผู้อ่าน ในรูปสารคดีผสมเกม
นั่นคือนานก่อนยุคเฟกนิวส์ระบาด
เกมคือให้ผู้อ่านคาดเดาว่าเรื่องที่ผมเขียนเป็นเรื่องจริงหรืออำ
ใน ำ ตอนแรกผมอำว่ามีนวนิยายกำลังภายในเรื่องหนึ่ง เป็นซีรีส์สี่เล่ม ชื่อ เป่ย หนาน ตง ซี เป็นงานนิยายกำลังภายในผสมไซไฟ โด่งดังมากที่ฮ่องกง และ น. นพรัตน์ กำลังแปลเป็นไทย จบเรื่องว่า นี่เป็นการอำเล่นสนุก ๆ ผลคือหลายคนหงุดหงิด
อำหนักไปหน่อย!
วันหนึ่ง น. นพรัตน์ บอกผมว่ามีคนถามเขาเสมอว่า เมื่อไรจะแปล เป่ย หนาน ตง ซี เสร็จ ตลอดหลายปีหลังจากนั้น มีผู้อ่านมาคาดคั้นผมให้ผมลงมือเขียนจริง ๆ
“เพื่อชดใช้บาปที่ไปอำคนไว้”
จนถึงวันหนึ่งผมก็ตกลงใจ
เขียนก็เขียน
เป็นที่มาของนวนิยาย สี่ภพ
นวนิยายเรื่องนี้มิใช่เกิดขึ้นเพื่อพิสูจน์ว่าตนเองเขียนงานตระกูลนี้ได้ แต่มันเป็น ‘love letter’ หรืองานแสดงความรักความลุ่มหลงต่องานนิยายกำลังภายในสมัยเก่า กิมย้ง โก้วเล้ง รวมทั้งสำนวนแปลของนักแปลรุ่นนั้น เช่น ว. ณ เมืองลุง น. นพรัตน์ มันเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงความหลังอันสวยงาม
โจทย์เรื่องนี้ยากมาก การทำงานแบบนี้ตามสไตล์ของผมคือทำไปตามขั้นตอนการคิดงานสร้างสรรค์
สิ่งแรกที่ทำคือคิดคอนเส็ปต์
ผมเริ่มงานเขียนในลักษณะการทำงานโฆษณา เริ่มที่การ ‘เบรนสตอร์ม’ หาไอเดีย
สิ่งแรกสุดที่ต้องทำคือหาคอนเส็ปต์หลักหรือกระดูกสันหลังของเรื่อง คอนเส็ปต์หลักนี้จะกำหนดลักษณะการเล่าเรื่อง องค์ประกอบเรื่อง โทน อารมณ์ เพราะถ้าไม่มีคอนเส็ปต์ เรื่องจะสะเปะสะปะ ไร้ทิศทาง
หลังจากได้คอนเส็ปต์แล้ว จึงคิดพล็อตย่อย (subplots) จำนวนหลายร้อยพล็อต เพื่อประกอบกันเป็นเรื่องรวม
โจทย์เรื่องนี้คือนิยายไซไฟ + กำลังภายใน ผมตั้งใจให้เป็นไซไฟจริง ๆ ไม่ใช่แฟนตาซี ต่อให้จินตนาการหลุดโลกแค่ไหน ก็อธิบายหลักวิทยาศาสตร์ได้ และมันควรใช้ประโยชน์จากความเป็นไซไฟ เพื่อสื่อสารบางอย่าง
หากฟังดูไม่ใช่นิยายกำลังภายในเท่าไร ก็เพราะคนส่วนมากตกอยู่ในกรอบว่านิยายกำลังภายในคือเรื่องการชิงอำนาจ การล้างแค้น ไปจนถึงเรื่องคุณธรรมน้ำมิตรของโก้วเล้ง
สิ่งที่ผมทำคือใช้นิยายกำลังภายในเป็นหลักหรือฉากหน้า แต่ฉากหลังเสียบไซไฟเข้าไปแบบ - พูดด้วยภาษาคนในวงการนี้คือ - ‘ไร้รอยตะเข็บ’
เนื่องจากนิยายกำลังภายในมักเกิดขึ้นในเมืองจีนยุคโบราณ สมัยที่ยังใช้ดาบเป็นอาวุธ การใส่ไซไฟเข้าไปจึงทำได้ยาก เพราะมิอาจอธิบายองค์ประกอบวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ตรง ๆ ใช้ศัพท์ฟิสิกส์ตรง ๆ ไม่ได้ ยกตัวอย่าง เช่น มิติ หลุมดำ โลกคู่ขนาน สสารมืด พลังงานมืด จะเล่าในนิยายกำลังภายในอย่างไร
นี่เป็นปัญหาใหญ่
แต่นี่เป็นเพียงองค์ประกอบเรื่อง สิ่งที่ต้องการลำดับแรกคือคอนเส็ปต์
และต้องเป็นคอนเส็ปต์ที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อนในโลกนิยายกำลังภายใน
ผมคิดคอนเส็ปต์ไว้มากมาย หลังจากคิดอย่างหนักนานหลายปี มองแทบทุกจุดที่เป็นไปได้ ในที่สุดผมก็สรุปได้ และพอใจกับทิศทางนี้
วินทร์ เลียววาริณ
๑๗-๑๐-๒๕๖๘...............
สี่ภพ เป็นนิยายจีนกำลังภายใน+ไซไฟ ผลงาน 5 ปีของ วินทร์ เลียววาริณ
จำหน่ายในงานหนังสือและทางออนไลน์
งานหนังสือบูธ F-21 (ราคา 2,300.- ถ้ารับกลับเอง)ซื้อผ่าน Shopee กดลิงก์ https://s.shopee.co.th/2LPBgEyqPg?share_channel_code=6
ซื้อผ่านเว็บไซต์ วินทร์ เลียววาริณ กดลิงก์
https://www.winbookclub.com/store/detail/255/%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A0%E0%B8%9Eอีบุ๊ค จัดจำหน่ายโดยบริษัท The Meb ทั้งแยกเล่มและรวมชุด (สำนักพิมพ์ 113 ไม่ได้จำหน่าย) https://www.theonebook.com/index.php?action=search_book&page_no=1
1- แชร์
- 21
-
วินทร์ เลียววาริณ2 วันที่ผ่านมา
ช่วงนี้กำลังมีงานหนังสือ ผมใช้เวลาหลายชั่วโมงต่อวันที่นั่น
ช่วงงานหนังสือ ไม่ได้อยู่ติดเครื่องคอมพิวเตอร์ จึงไม่สามารถเขียนงานอะไรได้ ต้องรอกลับบ้านก่อน ถ้าไม่ง่วง ก็เขียนงานตอนนั้น
ตารางเวลาทำงานรวนหมด
แต่งานหนังสือกลายเป็นส่วนหนึ่งของวิถีนักเขียนไปแล้ว ตามระบบเขียนเอง-ทำเอง-ขายเอง
ออกแบบปกเอง ทำอาร์ตเวิร์กเอง
นอกจากงานพวกนี้แล้วยังต้องซักผ้าเองอีก
นักเขียนสายวรรณกรรมหลายคนก็ทำโมเดลนี้ และค่อยๆ หายไปทีละคน ตอนนี้นอกจากผมแล้ว ก็เห็นแต่คุณพงศกร คุณกิ่งฉัตร กับนักเขียนค่ายนาครอีกไม่กี่คน
ไม่รู้จะยืนหยัดได้อีกนานเท่าไร
ก็ทำใจได้ครับ ถ้าโมเดลนี้ไปไม่รอด ตามสัจธรรม "เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป"
เอาละ ระหว่างที่ยังมาเปิดบูธในงานหนังสือ ใครอยากแวะมาเยี่ยม ก็เชิญที่ F-21 ผมประจำการตอนเที่ยงกับตอนเย็น (งานมีถึงวันอาทิตย์ที่ 19)
เวลาที่เหลือก็ดื่มเหล้า เอ๊ย! คิดงานเรื่องต่อไป
วินทร์ เลียววาริณ
17-10-251- แชร์
- 21
-
วินทร์ เลียววาริณ3 วันที่ผ่านมา
ผู้อ่านท่านหนึ่งส่งรูปบ้านของเขามาให้ดู ติดโปสเตอร์ สี่ภพ ความยาวเกือบเมตรบนผนัง
เขาบอกว่ามันเข้ากับสไตล์จีนของบ้านดี ก็จริงอย่างนั้น
แปลกดีครับ ไม่เคยคิดว่าจะมีคนเอาโปสเตอร์ไปติดจริง และติดแบบนี้
ถ้าติดในบ้านสมัยใหม่ อาจไม่เข้ากันก็ได้ (ไม่รู้มีใครลองติดหรือเปล่า)
โปสเตอร์นี้มีขนาดราว 24.5 x 90 ซม. กว้างประมาณบานประตู ม้วนใส่ในหลอดกระดาษแข็ง ผู้ที่สั่งซื้อตอนนี้ได้รับทุกคน
สี่ภพ boxset ยังมีจำหน่าย ขายไปช้าๆ เหตุผลหนึ่งเพราะไม่ทุกคนอ่านนิยายกำลังภายใน อีกเหตุผลหนึ่งอาจเพราะราคาค่อนข้างสูง แต่ราคานี้เกิดจากจำนวนพิมพ์น้อยและต้นทุนสูงมากๆ จัดเป็น rare item หรือ collection
รูปเล่มของหนังสือจำลองแบบมาจากหนังสือจีนกำลังภายในยุคห้าสิบปีก่อนเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ ผู้อ่านที่ทันยุคนั้นต่างร้องว่าจำได้
ท่านที่สนใจอยากเก็บ ก็สามารถซื้อได้หลายทาง รวมทั้งในงานหนังสือที่จะมีถึงวันที่ 19 ตุลาคม
สำหรับคนที่ไม่ขอเป็นเจ้าของ ก็สามารถอ่านได้จากห้องสมุด เพราะเราก็ยังอุตส่าห์เข็นออกมาจำนวนหนึ่งเข้าห้องสมุด จำนวนอาจไม่มากเท่าเล่มอื่นๆ แต่ก็ทำเท่าที่ทุนบริจาคพาไปได้
ไม่ว่าจะอ่านทางไหน นี่ก็เป็นบทหนึ่งของการหวนระลึกถึงความสวยงามของบรรยากาศการอ่านในอดีตเมื่อห้าสิบปีก่อน ซึ่งไม่มีวันกลับมาแล้ว
วินทร์ เลียววาริณ
16-10-25...............
สี่ภพ เป็นนิยายจีนกำลังภายใน+ไซไฟ ผลงาน 5 ปีของ วินทร์ เลียววาริณ
จำหน่ายในงานหนังสือและทางออนไลน์
งานหนังสือบูธ F-21 (ราคา 2,300.- ถ้ารับกลับเอง)ซื้อผ่าน Shopee กดลิงก์ https://s.shopee.co.th/2LPBgEyqPg?share_channel_code=6
ซื้อผ่านเว็บไซต์ วินทร์ เลียววาริณ กดลิงก์
https://www.winbookclub.com/store/detail/255/%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A0%E0%B8%9Eอีบุ๊ค จัดจำหน่ายโดยบริษัท The Meb ทั้งแยกเล่มและรวมชุด (สำนักพิมพ์ 113 ไม่ได้จำหน่าย) https://www.theonebook.com/index.php?action=search_book&page_no=1
1- แชร์
- 36
-
วินทร์ เลียววาริณ3 วันที่ผ่านมา
พ่อบอกให้เดชาเรียนแพทย์ แม่อยากให้เขาเรียนกฎหมาย แต่เขาอยากเรียนศิลปะ เดชาบอกพ่อแม่ว่าเขาโตแล้ว เลือกทางเดินตัวเองได้ แต่เขารู้สึกแย่หากไม่ทำตามคำแนะนำของพ่อแม่ และยิ่งรู้สึกแย่กว่าเมื่อต้องทำตามคำแนะนำที่เขาไม่ชอบ ท้ายที่สุดเขาก็ตามใจแม่ เขาทำตามบทบาทของ ‘ลูกกตัญญู’ เขาไม่มีความสุขในอาชีพของเขาเลย
ถาวรทำงานออกแบบโฆษณา เขาใส่รูปสินค้าเล็ก ๆ แต่เจ้านายบอกว่าอยากให้รูปสินค้าใหญ่ ๆ เขารู้สึกแย่หากไม่ทำตามคำแนะนำของเจ้านาย แต่รู้สึกแย่กว่าหากทำตามคำแนะนำที่เขาไม่ชอบ ท้ายที่สุดเพื่อรักษาบรรยากาศของการทำงาน เขาตามใจเจ้านาย
เขาไม่เคยประสบความสำเร็จในสายงานของเขาเลย
นารีไปซื้อกระเป๋าสะพายกับเพื่อนสาวสองคน เธอชอบใบสีเหลือง เพื่อนคนหนึ่งบอกว่าใบสีแดงเหมาะกับเธอมากกว่า เพื่อนอีกคนว่าน่าจะเป็นกระเป๋าหนังมากกว่า เธอไม่ชอบทั้งสองแบบที่เพื่อนแนะนำ นารีรู้ว่าเพื่อนของเธอมีรสนิยมดี เธออยากเอาใจเพื่อน แต่เธอรู้สึกว่าทำแล้วไม่มีความสุข
ฯลฯ
มนุษย์เรามีสัญชาตญาณกลัวว่าคนอื่นจะไม่ชอบ เราอยากรู้ว่าคนอื่นจะมีปฏิกิริยาอะไรเมื่อเราทำเรื่องหนึ่ง ๆ คนอื่นจะคิดอะไรเมื่อเราสวมเสื้อไม่เหมือนคนอื่น สีไม่ตรงใจพวกเขา กินไม่เหมือนพวกเขา เราอยากให้คนอื่นชอบเรา
เรารู้สึกว่าเราเป็นคนมีค่าก็เมื่อคนอื่นชอบเรา ยิ่งมากคน ยิ่งดี
ถ้าเราไม่ทำสิ่งที่ขัดกับความชอบของคนอื่น เราก็ไม่สบายใจ เพราะกลัวจะได้ยินคำติเตียนของคนอื่น
ปัญหาคือถ้าเราทำตามใจคนอื่น เราก็ไม่สบายใจ
มนุษย์แต่ละคนมีความฝัน ความคิด ความต้องการ และวิถีทางของตัวเอง แต่ละคนเชื่อว่าตนเองถูกต้อง คนส่วนใหญ่ชอบหาคำตอบสุดท้ายคำตอบเดียวในทุกเรื่อง
พวกเขาเห็นว่าคนที่แตกต่างจากตนคือคนประหลาด ทั้งนี้เพราะคนส่วนใหญ่กลัวความแตกต่างจากความเคยชินของพวกเขา พวกเขาคิดว่าอะไรที่ไม่เคยเห็นหรือไม่เคยทำเป็นเรื่องไม่ถูกไม่ดี
ประสบการณ์ชีวิตต่างกันปรับหลอมโลกทัศน์และมุมมอง และเมื่อใช้มุมมองแบบหนึ่งไปมองอีกคนหนึ่ง ย่อมเห็นความแตกต่าง และหากใจไม่กว้างพอ ก็จะวิพากษ์และตัดสินคนอื่นด้วยมุมมองและกรอบคิดแคบ ๆ ของตัวเอง
ดังนั้นเราจึงมักถูกคนที่เห็นต่างจากเราตัดสิน และพยายามชี้ทางที่เขาเชื่อว่าถูกต้องหรือดีที่สุดให้เราเดิน
หากเราทำตามใจเขา ก็เท่ากับเราพยายามเอาใจเขาคนนั้น
แต่ความจริงคือ ไม่ใช่ทุกเรื่องในชีวิตที่ต้องมีคำตอบเดียว หรือต้องมีคำตอบ
ความจริงคือ มีคนนับล้าน ๆ ที่เห็นต่างกัน ความเห็นหรือคำแนะนำนับล้านที่ขัดแย้งกัน ไม่อาจถูกต้องพร้อมกัน
นี่แปลว่าความเห็นเป็นความคิดส่วนตัว ไม่ใช่สัจธรรม
เรื่องหลายเรื่องในโลกเป็นรสนิยมส่วนตัว เป็นนานาจิตตัง ดังนั้นไม่มีวิถีทางใดที่ถูกต้องสูงสุด
จึงย่อมเป็นไปไม่ได้ที่เราจะเอาใจทุกคน
และเป็นเรื่องปกติที่เมื่อเราไม่ทำตามใจคนอื่น เราจะถูกวิพากษ์
วินทร์ เลียววาริณ
16-10-25.........
ท่อนหนึ่งจาก ตัวสุขอยู่ในหัวใจ
หนังสือเสริมกำลังใจ
260 บาท 49 บทความ เรื่องละ 5.3 บาท
หนังสือหมดเมื่อไร จะไม่ตีพิมพ์ใหม่แล้ว
https://www.winbookclub.com/store/detail/211/ตัวสุขอยู่ในหัวใจ1- แชร์
- 32
