-
วินทร์ เลียววาริณ0 วันที่ผ่านมา
วันก่อนพูดเรื่องภาษาสวย บางทีเราก็เรียกว่าภาษากวี ซึ่งไม่จำเป็นต้องสัมผัสนอกสัมผัสในเสมอไป แต่หมายถึงภาษางดงาม
สมัยผมยังตอบรับคำเชิญไปพูดตามเวทีต่างๆ ผู้แนะนำมักประกาศว่า "นี่คือคุณวินทร์ กวีซีไรต์..."
ตรงนี้ผิดกันมาก เพราะผมไม่ใช่กวีซีไรต์ เป็นแค่นักเขียนซีไรต์ กวีซีไรต์หมายถึงกวีที่ได้รับรางวัลซีไรต์ เช่น เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ไพวรินทร์ ขาวงาม ฯลฯ
ผมไม่เคยทำงานสายกวีมาเลย แต่ชอบอ่าน กวีทั้งสองท่านที่เอ่ยนาม ก็มักส่งงานมาให้อ่าน
คนไทยเรียนบทกวีมาแต่เด็ก บางคนนึกไม่ออกว่าเรียนไปทำไม บ้างรู้สึกว่ามันคร่ำครึ โบราณ
ภาษาไทยแตกต่างจากหลายๆ ภาษาในโลก มันเอื้อให้เขียนเป็นบทกวีคล้องจองได้ง่าย เมื่อรวมวรรณยุกต์กับสัมผัสใน-นอก ภาษาไทยก็เหมือนเพลงดีๆ นี่เอง
หากคิดว่าบทกวีหมดยุคไปแล้ว ก็ลองอ่านงานของไพวรินทร์บทนี้
"คิดไม่ถึงจะคิดถึงถึงเพียงนี้
คิดไม่ถึงใจจะมีที่คิดถึง
เพียงแค่คิดไม่คิดว่าจะตราตรึง
คิดที่นี่อีกทีหนึ่งคิดถึงกัน"พ.ศ. ไหนก็เอาไปใช้จีบสาวได้
กลับมาที่คำถามเดิม เรียนกวีไปทำไม
คำตอบของผมคือ มันทำให้เรารู้จักความงามของชีวิต
ความงามมีอยู่ในทั้งธรรมชาติ และงานที่เราสร้างขึ้น เช่น อาคารบ้านช่อง ภาพเขียน ประติมากรรม บทกวี ดนตรี
ถ้าเรารู้จักสัมผัสความงาม ก็จะมองโลกด้วยสายตาอีกคู่หนึ่ง มันอิ่มเอิบ เต็มตื้น เข้าใจว่าการมีชีวิตในโลกไม่ได้มีแค่กินอิ่ม นอนหลับ ทำงาน เก็บเงิน
การอ่านบทกวีเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยกล่อมเกลาต่อมรับความงามของเรา
ยกตัวอย่าง เช่น การอยู่ในบ้านงาม (ซึ่งไม่จำเป็นต้องแพง) ช่วยทำให้จิตของเราสงบขึ้น
การฟังดนตรีดีๆ ทำให้วิญญาณนิ่งขึ้น
ผมไม่ว่าอะไรสำหรับคนทั่วไปที่ไม่เข้าถึงบทกวี แต่คนที่ทำงานในวงการศิลปะไม่มีข้ออ้างเลย
สถาปนิก นักออกแบบ และคนทำงานศิลปะไม่น้อยมองไม่ออกว่าความเป็นกวีเกี่ยวกับงานที่ทำอย่างไร อาจารย์แสงอรุณ รัตกสิกร อาจารย์สถาปัตย์ฯที่สอนผม แสดงให้เห็นตลอดเวลาว่ามันเกี่ยวกันอย่างยิ่ง ศิลปะแต่ละสายสอดคล้องกัน
บทกวีมีการใช้จังหวะ สัมผัส สมดุล ซึ่งก็คือหลักเดียวกับที่ใช้ในงานออกแบบแขนงอื่น ตั้งแต่สถาปัตยกรรม ประติมากรรม จิตรกรรม ดนตรี
ผมจึงไม่ยอมรับคำอ้างของสถาปนิกที่ออกแบบตึกไม่สวย โทษโน่นโทษนี่ ไม่สวยก็คือไม่สวย
ผมจึงไม่ยอมรับคำอ้างของคนแต่งเพลงที่แต่งเพลงแบบจับตัวโน้ตมาเขย่าด้วยกัน เป็นมลพิษทางเสียง แล้วบอกว่าเป็นศิลปะ
นี่ก็คือเหตุผลที่เราควรอ่านบทกวี มองโลกเป็นบทกวี และรู้จักลิ้มรสภาษาสวยเช่นที่เราชอบอาหารรสเลิศ
มันเปลี่ยนโลกภายในของเราได้จริงๆ
วินทร์ เลียววาริณ
17-9-25681- แชร์
- 13
-
วินทร์ เลียววาริณ1 วันที่ผ่านมา
รายงานความคืบหน้าโครงการ สี่ภพ นะครับ
ตอนนี้ทางโรงพิมพ์ได้ส่งหนังสือ pre-order ออกไปหมดแล้ว แต่เราจะยังไม่เปิดขายจริง ขอรอให้ทุกคนได้รับโดยไม่มีปัญหาก่อน เนื่องจากในสัปดาห์ที่ผ่านมา มีลูกค้าสองรายที่พบปัญหากล่องเปียกฝน หนึ่งรายที่กล่องบุบ และหนึ่งรายที่หน้าหาย
ก็แก้ไขปัญหาไปทีละราย และต้องขอโทษลูกค้าที่ต้องเจอเรื่องไม่สมควรเจอ นี่เป็นครั้งแรกที่เราทำ pre-order ที่เป็น boxset ในกล่องใหญ่ น้ำหนักมาก และใช้บริการของบริษัทขนส่งเอกชนที่ไม่เคยใช้มาก่อน อาจขลุกขลักไปบ้าง
ไม่ต้องห่วงนะครับ เราจะเคลียร์ให้ทุกคนจนเรียบร้อย ไม่ค้างคาใจ
ก็ขอรอให้ทุกคนได้รับโดยไม่มีปัญหาก่อน ค่อยประกาศขายจริงนะครับ น่าจะราวๆ ปลายเดือนนี้ และในงานหนังสือต้นเดือนหน้า
สำหรับคนที่สั่งไปนานแล้ว ชำระเงินแล้ว และยังไม่ได้รับจดหมายตอบรับทางอีเมล กรุณาแจ้งข้อมูลมาทางอีเมล namol113@gmail.com จะตามเรื่องให้ครับ
.........................
สองวันนี้เห็นผู้อ่านบางท่านเขียนมาบอกว่าอ่าน สี่ภพ จบแล้ว
แหม! อ่านเร็วมาก เขียนห้าปี อ่านวันเดียว!
ใครอ่านจบแล้ว อยากแชร์ อยากคอมเมนต์ อยากแนะนำ อยากถกสาระของเรื่อง ก็เชิญนะครับ (แต่ได้โปรดอย่าสปอยล์)
วินทร์ เลียววาริณ
16 กันยายน 25681- แชร์
- 21
Regnartsได้รับหนังสือชุด สี่ภพ เรียบร้อยแล้วครับ สภาพปกติดีครับ👍 -
วินทร์ เลียววาริณ1 วันที่ผ่านมา
ช่วงหลังนี้สุขภาพข้าพเจ้าเสื่อมลง เพราะมัวแต่หาเงิน เพื่อนคนหนึ่งชวนข้าพเจ้าไปตีเทนนิส ข้าพเจ้าก็ไป
วันนี้หลังจากเล่นเทนนิส ข้าพเจ้ากับเพื่อน ๆ ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ทันใดนั้นปรากฏเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นจากโทรศัพท์มือถือบนม้านั่ง
เพื่อนบอกว่า “โทรศัพท์ของมึง”
เนื่องจากกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้า ข้าพเจ้าจึงบอกเพื่อนว่า “ช่วยกดรับ แล้วเปิด speaker phone หน่อย”
เสียงผู้หญิงดังขึ้นมาในสาย “ที่รัก คุณอยู่ในยิมใช่ไหม?”
“ใช่ครับ”
“มิน่าเสียงไม่ชัดเท่าไหร่...”
“แต่ผมได้ยินคุณพูด ว่ามาเลยที่รัก”
“ตอนนี้ฉันอยู่ในห้าง เห็นชุดราตรีสีดำตัวนึง สวยมาก แต่ราคามันตั้งสองหมื่นสอง ฉันควรซื้อมั้ยคะ?”
“ถ้าคุณมีความสุข ก็ซื้อเลย ผมจ่ายให้ ไม่มีปัญหา”
เพื่อน ๆ มองข้าพเจ้า บางคนเลิกคิ้วยิ้มๆ
“ก่อนมาที่ห้าง ฉันเข้าไปที่โชว์รูมเบนซ์ รุ่นล่าสุดเพิ่งเข้ามา ราคา 15 ล้าน”
ข้าพเจ้าเอ่ยว่า “ซื้อไปเลย แต่ว่าบอกเซลส์แมนด้วยนะว่า ขอ ฟูล อ็อพชั่น”
“ขอบคุณค่ะ อีกเรื่องนึงคือเมื่อกี้เซลส์คอนโดฯโทร.มา บอกเรื่องคอนโดฯริมหาดหัวหิน ตอนนี้เขายอมลดราคาลงมาที่ 25 ล้าน คุณคิดว่าเราควรซื้อมั้ย?”
“ที่รัก ผมรู้ว่าคุณรักหัวหินมาก ซื้อเลยซี รออะไร? สิ่งใดที่ทำให้คุณมีความสุข ก็ทำไปเลย”
“ขอบคุณค่ะ ที่รัก เดี๋ยวคืนนี้เจอที่บ้านนะคะ”
เสียงโทรศัพท์จบเพียงนั้น
ข้าพเจ้ามองหน้าเพื่อน ๆ ในห้อง ทุกคนอ้าปากค้าง เพื่อนคนหนึ่งบอกข้าพเจ้า “ไอ้บริสุทธิ์ ตอนนี้กูเชื่อแล้วว่ามึงรวยจริง มึงนี่เป็นยอดสามีจริง ๆ เอาใจภรรยาขนาดนี้ เมียมึงโชคดีจริง ๆ”
“เปล่า นี่ไม่ใช่เมียกู ไม่รู้ใครโทร.มาผิดเบอร์”
(สวัสดีวันอังคาร ขอให้ถูกหวยวันนี้ จะได้มีเงินซื้อรถซื้อคอนโดนะจ๊ะ)
..........................
บางท่อนจาก เรื่องรักของคุณบริสุทธิ์ฯ
(นวนิยายแนวใหม่ที่นำขำขันตลกๆ ระดับ ‘ขำกลิ้ง’ 400 เรื่องมายำเป็นนวนิยาย)
ค่าคลายเครียดแค่ 330 บาท เฉลี่ยขำละ 80 สตางค์
หนังสือหมดเมื่อไร จะไม่ตีพิมพ์ใหม่แล้วโปรโมชั่น https://www.winbookclub.com/store/detail/196/แพคเกจพิเศษ%203%20in%201
Shopee
เดี่ยว https://s.shopee.co.th/1VjWGyXzed
https://s.shopee.co.th/9A8xPCjmLp1- แชร์
- 39
-
วินทร์ เลียววาริณ2 วันที่ผ่านมา
บทความเมื่อวานนี้ใช้วลี 'ประติมากรรมอักษร' ความหมายคือ การใช้ภาษาที่สวยงามก็ไม่ต่างจากประติมากรปั้นสลักเสลางานวิจิตร
บางคนอาจไม่เข้าใจว่า มันต่างอย่างไรกับการใช้ภาษาทั่วไป
ภาษาสวยมักเป็นภาษาที่มีการอุปมา มีการใช้สัญลักษณ์ รักษาจังหวะที่ดี สัดส่วนที่ดี ไม่ใช้คำฟุ่มเฟือย ไม่มากเกินไป ไม่น้อยเกินไป
ยกตัวอย่างจดหมายรักที่เขียนด้วยภาษาประติมากรรมอักษร
คาลิล ยิบราน เขียนถึง Mary Haskell
(จดหมายรักของยิบราน)“ฉันรักหุบเขาในฤดูหนาว แมรี เมื่อเราสองนั่งข้างกองไฟ กลิ่นท่อนสนในเตาผิงอวลอยู่ในบ้าน และหิมะร่วงโปรยปรายอยู่นอกบ้าน ลมกำลังพัด โคมไฟที่แขวนนอกกระจกหน้าต่าง เสียงน้ำไหลจากแม่น้ำไกลออกไป และเสียงของพายุหิมะก้องอยู่ในหูของเรา
แต่หากคนรักของฉันไม่ได้อยู่ใกล้ ๆ มันก็ไม่มีหุบเขา ไม่มีหิมะ ไม่มีกลิ่นท่อนสน ไม่มีโคมไฟที่ผลึกน้ำแข็งเกาะ ไม่มีเสียงเพลงจากแม่น้ำ ไม่มีพายุที่น่าครั่นคร้าม ขอให้ทุกสิ่งนี้หายไป ถ้าคนรักของฉันอยู่ไกลจากพวกมันและจากฉัน” ...................................
Ogden Nash เขียนถึง Frances Leonard (1931)
“เจ็ดไมล์ตามปกติไม่ใช่ระยะทางไกล เจ็ดชั่วโมงก็ไม่ยาวนาน แต่เมื่อมันขวางคั่นระหว่างเรา ก็ดูไกลและยาวนานไม่สิ้นสุด หัวใจของฉันพองโตด้วยความปรารถนาจะพบเธอ และความคิดฉันบรรจุด้วยภาพเธอที่บอบบางและเปล่งปลั่ง มีเสียงสะท้อนสดใสของน้ำเสียงเธอในหูของฉัน และร่างกายฉันปวดแปลบเมื่อรำลึกถึงความพลุ่งพล่านเกี่ยวกับเธอ”
...................................
Katherine Mansfield เขียนถึง John Middleton Murray
“มันเพิ่งทำให้ฉันฉุกคิดเมื่อค่ำนี้ว่า บางทีเธอจะไม่มาที่นี่อีกนาน เธอจะไม่เห็นดอกเดเลียในช่วงนี้ของปี สะท้อนในกระจกเงาของเธอ และดอก เลมอน เวอร์บีนา ในแจกันบนโต๊ะของฉันจะโรยและแห้ง
ขณะที่ฉันคิด นั่งลง สูบบุหรี่ในห้องหม่นมืด เจ้าลูกแมวดำชื่อ ปีเตอร์ วิลคินส์ เดินเข้ามา ปากคาบใบไม้แห้งใบหนึ่ง แล้วฉันก็จำได้ว่าดอกมิเคิลมาส เดลซี บานไปทั่ว โอ! มันเป็นฤดูใบไม้ร่วงแล้ว”
...................................
Major Sullivan Ballou เขียนถึง ซาราห์ ภรรยาของเขา
“ฉันจะอยู่ใกล้เธอเสมอ ในวันที่ดีใจที่สุด ในราตรีที่มืดมิดที่สุด เสมอมาและเสมอไป ถ้าหากมีสายลมอ่อนสัมผัสแก้มของเธอ มันก็คือลมหายใจของฉัน”
...................................
งานพวกนี้ไม่ได้แค่สื่อสารเนื้อความ หากยังสื่ออารมณ์ความรู้สึก เหมือนจดหมายที่พรมด้วยน้ำหอม
และนี่คือความแตกต่างของงานเขียนทั่วไปกับ 'ประติมากรรมอักษร'
วินทร์ เลียววาริณ
15-9-251- แชร์
- 25
-
วินทร์ เลียววาริณ3 วันที่ผ่านมา
เมื่อวานนี้ผมไปนั่งเซ็นหนังสือในวัด
ฟังไม่ผิดหรอกครับ แจกลายเซ็นในวัด หน้าเมรุนั่นแหละ
นี่อาจจัดเป็น 'เซ็น-ณานุสติ' อย่างหนึ่ง เซ็นไปปลงไป
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทำ เมื่อญาติพี่น้อง รวมทั้งญาติของมิตรสนิทจากไป ผมมักมอบหนังสือเป็นของแจกผู้มาร่วมพิธี
และมักนั่งเซ็นในวันสุดท้าย
ปีนี้จัดไปสองรอบ ต้นปีเป็นงานศพญาติผู้ใหญ่ ส่วนเมื่อวานนี้เป็นงานศพของแม่ของเพื่อนสนิทคนหนึ่ง
หน้าที่ของผมคือเขียนคำไว้อาลัย (eulogy) และถ้อยคำที่จะพิมพ์เป็นสติกเกอร์ติดบนหนังสือ รวมทั้งออกแบบจัด layout ทำอาร์ตเวิร์กงานให้
เนื่องจากงานศพจัดกันไม่กี่วัน จึงเป็นงานที่ต้องคิดเร็ว ทำเร็ว
เท่าที่ผ่านมา เสร็จทุกอย่างหลังได้รับโจทย์ไม่เกิน 4-6 ชั่วโมง
คำพูดที่เขียนเฉพาะเจาะจงถึงผู้วายชนม์ เป็นงาน personalised
คำไว้อาลัยที่ใช้สำหรับวันสุดท้ายอาจมีเวลาทำมากหน่อย แต่เท่าที่ผ่านมา ก็จบงานในเวลา 3 ชั่วโมง
ถ้าเป็นบทความไว้อาลัยที่ตีพิมพ์ในหนังสืองานศพ ก็ใช้เวลานานหน่อย อาจมีเวลา 1-2 วัน
งานพวกนี้จะใช้ภาษาสละสลวย ประณีตบรรจง เป็นประติมากรรมอักษรชิ้นสุดท้ายที่ทำให้ผู้จากไป จึงต้องพิถีพิถันทั้งคอนเส็ปต์และภาษา
หลายปีนี้ผมก็มักได้รับคำขอให้ช่วยเขียนคำไว้อาลัย (eulogy) เพราะผู้ต้องกล่าวคำพูดอาจไม่สันทัดในเรื่องนี้ หรือจิตไม่นิ่งพอจะเขียน ผมก็ยินดีทำให้
เคยคิดเล่นๆ ว่าทำธุรกิจของชำร่วยงานศพ เขียนคำ ออกแบบให้เสร็จสรรพ ก็เคยทำอยู่ครั้งเดียว แต่ไม่เคยโปรโมตและยังไม่เคยทำเป็นเรื่องเป็นราว
ผมเองทำหนังสือแจกงานศพของตัวเองเสร็จแล้ว ชื่อ ชีวิตที่ดี วางขายมาสองสามปีแล้ว แต่สั่งเสียไว้แล้วว่าตอนตายให้ตีพิมพ์เล่มนี้ใหม่เพื่อแจกแขกที่มาร่วมงาน
ใครอยากได้เล่มนี้ฟรี ก็อดใจรอนิด คงอยู่อีกไม่นาน แต่ไม่มีลายเซ็นนะ
และหวังว่าในงานศพผม ใจคอคงไม่ปลุกให้ลุกมาเซ็นนะ วงแตกแน่!
แต่ก็ไม่แน่ หากในงานศพผม มีคนกล่าวคำไว้อาลัยโดยใช้ภาษาพวก ปังปัง ป่ะป่ะ ฝุดฝุด ฟินฟิน แอ๊บแบ๊ว จุงเบย... คงได้ยินเสียงผมเคาะจากโลงแน่
เฮ้อ! ตายแล้วยังเรื่องมากจุงเบย
วินทร์ เลียววาริณ
14 กันยายน 25681- แชร์
- 30
