• วินทร์ เลียววาริณ
    0 วันที่ผ่านมา

    ปกติเพจนี้ไม่คุยเรื่องคนบันเทิง แต่ตอนนี้คนบันเทิงกำลังคุยกันเรื่อง #แบนสุพรรณหงส์ ก็ขอแจมหน่อย แต่ในมุมของคนดูหนังและรีวิวหนัง

    สรุปข่าวก่อน ผู้จัดงานสุพรรณหงส์เปลี่ยนกฎเกณฑ์การคัดเลือกใหม่ นั่นคือภาพยนตร์ที่จะเข้าชิงรางวัลต้องเข้าฉายอย่างน้อย 5 จังหวัด (กรุงเทพ ชลบุรี เชียงใหม่ นครราชสีมา และนครศรีธรรมราช) หรือต้องมีคนดูตั้งแต่ 50,000 คนขึ้นไป คนจำนวนมากเห็นว่ากฎนี้ "ไม่ยุติธรรม" เพราะหนังดีจำนวนมากหาโรงฉายไม่ได้

    ผมเชื่อว่ากติกาใหม่นี้น่าจะเลียนแบบรางวัลออสการ์  

    กติกาใหม่ของออสการ์คือ

    1 ต้องฉายติดต่อกันอย่างน้อย 7 วัน ในโรงภาพยนตร์ อย่างน้อยวันละสามรอบ

    2 ต้องฉายอย่างน้อยหนึ่งในหกเมืองใหญ่ (ลอสแองเจลิส นิวยอร์ก ซานแฟรนซิสโก ชิคาโก ไมอามี แอตแลนตา)

    3 การฉายครั้งแรกต้องเกิดขึ้นที่โรงภาพยนตร์เท่านั้น

    ทำไมออสการ์ต้องกำหนดกฎนี้? น่าจะเพราะหลายปีนี้มีหนังสตรีมมิงจำนวนมากต้องการเข้าเวทีออสการ์ด้วย ผู้จัดออสการ์จึงตั้งกฎใหม่มาขวาง อาจเพื่อต้องการรักษาชีวิตโรงภาพยนตร์ หรืออาจเพราะมีกรอบคิดว่าหนังต้องคู่กับโรงภาพยนตร์เท่านั้น

    ความเห็นของผม?

    ผมทำงานศิลปะมาตลอดชีวิต หลายสาย และพบว่าวงการศิลปะเต็มไปด้วยเปลือก ถ้าไม่ระวัง ก็จะหลุดจากหัวใจของศิลปะไป

    ยกตัวอย่าง เช่น สมัยก่อนเป็นหนังเงียบ ในกรอบคิดคนทั่วไปหนังก็ต้องเงียบ จนกระทั่งวันหนึ่งมีคนประดิษฐ์ระบบเสียงขึ้นมาสำเร็จ ถ้ายังยึดมั่นถือมั่นว่า หนังต้องเงียบ ก็ไปต่อไปไม่ได้

    เช่นกัน สมัยก่อนหนังเป็นขาวดำ ต่อมามีคนคิดค้นหนังสีสำเร็จ ถ้ายังยึดมั่นถือมั่นว่า หนังต้องเป็นสีขาวดำ ก็ไปต่อไปไม่ได้

    นานปีมาแล้วเมื่อหนังสือ สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าคน ได้รับรางวัลซีไรต์ ก็มีคนอยากให้ถอนรางวัล เพราะหนังสือรวมเรื่องสั้นเล่มนี้มีบทความแทรกอยู่ด้วย พวกเขาเห็นว่ารวมเรื่องสั้นก็ต้องเป็นรวมเรื่องสั้น เพิ่มเติมอย่างอื่นไม่ได้

    สาระหลักของหนังดี ดนตรีดี จิตรกรรมดี สถาปัตยกรรมดีคือความเป็นศิลปะ ไม่ใช่รูปแบบ เพราะรูปแบบเปลี่ยนไปเสมอ วันหนึ่งในอนาคตมันอาจไม่มีทั้งฟิล์มเก่าและดิจิตัล แต่เป็นสัญญาณที่ส่งเข้าสมองเราโดยตรง เมื่อนั้นศิลปะจะหายไปหรือ?

    กรอบคิดของคนให้รางวัล ทั้งฝั่งฮอลลีวูดกับบ้านเราคือ คิดว่าเปลือกคือศิลปะ

    การที่กำหนดว่าหนังต้องฉายกี่จังหวัด ก็เหมือนกำหนดว่าจิตรกรจะเป็นเลิศได้ ต้องวาดบนแคนวาสด้วยสีน้ำมันเท่านั้น วาดบนเศษกระดาษด้วยสีถ่านแล้วไม่เลิศ

    ถ้าเป็นนักดนตรีชั้นเลิศก็ต้องเล่นเปียโน ไวโอลิน ถ้าเป่าด้วยขลุ่ยไม้บนหลังควายกลางทุ่งนาแล้วไม่ใช่ศิลปะ

    ศิลปะก็คือศิลปะ การยกย่องศิลปะให้ดูที่เนื้องาน ไม่ใช่ที่เปลือก สถานที่จัดแสดง

    ระวังอย่าติดกับดักของกรอบคิด เพราะหากข้ามมันไม่พ้น เราก็ไม่มีทางยกระดับงานศิลปะอีกไปอีกขั้น หรือหลายขั้น

    ป.ล. ในความเห็นส่วนตัว เราไม่จำเป็นต้องเดินตามฝรั่งที่เริ่มกฎนี้ เพราะบริบทและเบื้องหลังต่างกัน (กฎใหม่นี้อาจจะมาจากการล็อบบี้ก็ได้) หากเราสร้างกฎนี้ วงการหนังไทยจะยิ่งตกต่ำลง มันไม่ได้ช่วยยกระดับหนังไทยแต่ประการใด ถ้าอยากช่วยจริงๆ เราควรหาทางเพิ่มรอบฉายให้หนังที่ด้อยโอกาสมากกว่า

    วินทร์ เลียววาริณ 31-3-23

    0
    • 0 แชร์
    • 16
  • วินทร์ เลียววาริณ
    0 วันที่ผ่านมา
    0
    • 0 แชร์
    • 6
  • วินทร์ เลียววาริณ
    0 วันที่ผ่านมา

    มีเรื่องเล่าของจีนโบราณ เด็กคนหนึ่งเจาะรูผนัง ให้แสงจากบ้านติดกันลอดเข้ามา เพื่อใช้อ่านหนังสือ เด็กก้าวหน้า ประสบความสำเร็จในชีวิต

    อับราฮัม ลิงคอล์น เดินไกล ๆ ไปโรงเรียน จนในที่สุดก็ข้ามอุปสรรค เป็นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา

    คนยากจนมาก ๆ ก้าวสู่จุดสูงสุดโดยว่ายทวนน้ำ แปลว่าต้องทำงานหนักกว่าคนอื่น ออกแรงมากกว่า และมุ่งมั่น

    คนจีนโพ้นทะเลมาเมืองไทย ทำงานหนัก ส่วนมากพอมีพอกิน ไม่มีเงินส่งเสียลูกให้เรียนสูง

    หากลูกต้องการก้าวข้ามวงจรความยากจน ก็ต้องหาทางเรียนต่อเอง จึงเห็นภาพปกติที่นักศึกษาสมัยนั้นทำงานตอนกลางวัน และเรียนตอนกลางคืน

    คนที่จะเปลี่ยนสายอาชีพเดิมไปทำสายใหม่ที่ตนไม่รู้มาก่อนเลย มิเพียงต้องว่ายทวนน้ำ ยังต้องออกแรงว่ายมากกว่าคนอื่น

    ไม่มีหนทางไปสู่ความก้าวหน้าที่ยั่งยืนทางใด เกิดขึ้นโดยไม่ออกแรงว่ายทวนน้ำ

    .........

    บางท่อนจากหนังสือ 'มากกว่าสามสิบสอง' ยังมีโปรโมชั่นพิเศษที่เว็บ Shopee (ค้นคำ namol113) และในงานหนังสือ

    0
    • 0 แชร์
    • 16
  • วินทร์ เลียววาริณ
    1 วันที่ผ่านมา
    0
    • 0 แชร์
    • 4
  • วินทร์ เลียววาริณ
    1 วันที่ผ่านมา

    เมื่อวานนี้ลงโพสต์ป้ายเลือกตั้ง บางคนถามว่าพรรคชื่ออะไร

    น่าจะประมาณ 'พรรคกระยาจก' นะ เพราะเป็นพรรคที่ไม่มีเงิน

    แต่ถึงจนเงิน ก็ไม่จนปัญญา

    ถ้าผมเป็นหัวหน้าพรรคกระยาจก คงเขียนนโยบายพรรคดังนี้

    1 เลือกเราแล้ว ท่านต้องทำงานหนักกว่าเดิม เพราะหากเราจะพัฒนาชาติ ทุกคนต้องทำงานหนักกว่าเดิม

    2 พรรคกระยาจกไม่มีเงิน แต่จะไม่นำเงินภาษีของท่านมาแจกให้ท่าน เราไม่เชื่อวิธีคิด "โกงแล้วแบ่งกัน" เราเชื่อว่าการแจกในโครงการประชานิยม ก็คือการเอาเงินภาษีคนไทยทั้งประเทศมาแบ่งกันใช้นั่นเอง เงินของท่านเอง

    3 พรรคกระยาจกไม่กำหนดค่าแรงขั้นต่ำ เพราะค่าแรงขั้นต่ำของแต่ละคนไม่เท่ากัน หากท่านขยัน ซื่อสัตย์ ค่าแรงขั้นต่ำของท่านก็อาจสูงกว่าค่าแรงขั้นสูงของคนอื่น

    4 พรรคกระยาจกไม่มีของฟรีแจก เราเชื่อว่าท่านอยากได้อะไร ก็ได้ทั้งนั้นหากท่านลงมือทำงาน แต่ที่สำคัญที่สุดคือ ท้ายที่สุดแล้วคนให้ของฟรีแก่ท่านก็คือลูกหลานของท่านเอง เพราะท่านไปปล้นชิงของฟรีจากลูกหลานท่านมาใช้ในวันนี้

    5 เลือกตั้งไม่ใช่การเลือกอนาคตของท่าน แต่คือการเลือกอนาคตของลูกหลานท่าน

    รักชาติจริง อย่าคิดถึงแต่ตัวเอง คิดถึงลูกหลานของท่าน

    เชื่อว่าปีนี้หรือปีไหน พรรคกระยาจกคงไม่ได้รับเลือกตั้งแน่นอน

    วินทร์ เลียววาริณ 30-3-23

    0
    • 0 แชร์
    • 28