-
วินทร์ เลียววาริณ7 เดือนที่ผ่านมา
ในเรื่อง Interstellar ตัวละครหลักพลัดเข้าไปในหลุมดำ หลุดลงไปใน ‘อุโมงค์’ บางอย่าง และโผล่เข้าไปในโครงสร้างสี่มิติ ที่เชื่อมกับโลกของเขา ข้ามเวลา ข้ามมิติ ข้ามดาราจักร เข้าไป ‘หลังบ้าน’ ของเขา เขาสามารถเคลื่อนผ่านแกนเวลาได้
โครงสร้างนี้เรียกว่า tesseract
tesseract ในทางเรขาคณิตและคณิตศาสตร์ หมายถึงบาศก์สี่มิติ เป็น hypercube ชนิดหนึ่ง พูดง่ายๆ คือมันเป็นบาศก์ hypercube ที่เกิดจากการคำนวณทางคณิตศาสตร์ เรายังสร้างมันขึ้นมาจริงๆ ไม่ได้
นิยายวิทยาศาสตร์มักใช้ tesseract เป็นรูหนอนชนิดหนึ่งในการเดินทางลัดข้ามจักรวาลและมิติ เช่น นวนิยายเรื่อง A Wrinkle in Time ของ Madeleine L’Engle เล่าถึงการเดินทางข้ามเวลาผ่าน tesseract และมิติที่ 5
จะบอกว่า tesseract เป็นบันไดยาวที่พาดมิติและเวลาต่างๆ ก็พอได้
แต่ tesseract เป็นเพียงหนึ่งในบรรดา hypercube ต่างๆ
ผมเคยเขียนเรื่องเกี่ยวกับ hypercube เช่นกัน ในนวนิยายไซไฟเรื่อง อัฏฐสุตรา (เขียนเมื่อ 16 ปีก่อน ก่อนหนังเรื่องนี้) ในเรื่องตัวละครหลักสัมผัสประสบการณ์ของ hypercube 8 มิติ เรียกว่า octaract ซึ่งซับซ้อนกว่า tesseract ที่มี 4 มิติ
อยากรู้ว่า octaract ในนิยายเป็นอย่างไร ก็อ่านได้จากนวนิยาย อัฏฐสุตรา ถือโอกาสขายหนังสือตรงนี้เลยก็แล้วกัน https://www.winbookclub.com/store/detail/68/อัฏฐสุตรา แค่ 165 บาท (หนังสือหมดเมื่อไร จะไม่ตีพิมพ์ใหม่แล้ว)
อย่างไรก็ตาม hypercube ที่นักเขียนนิยายวิทยาศาสตร์พูดถึงยังเป็นเพียงจินตนาการ และแม้จะเป็นเรื่องเหลือเชื่อ แต่เรายังไม่มีหลักฐานพิสูจน์ว่ามันเป็นไปไม่ได้
ในหนัง Interstellar โครงสร้าง tesseract ถูกสร้างโดย ‘พวกเขา’ เพื่อให้ตัวละครเอกสามารถใช้สื่อสารกับมนุษย์ในสถานที่และเวลาที่ต้องการ (คือเป็นบันไดยาวพาด) เมื่อการสื่อสารสำเร็จ tesseract ก็สลายตัว ตัวละครเอกก็ข้ามเวลาอีกครั้ง คราวนี้เขาเชื่อมกับคนในยานอวกาศ และ ‘จับมือ’ กับนักบินอวกาศหญิง และเดินทางกลับบ้าน ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปในระดับหนึ่ง
ฉาก tesseract ในหนังออกแบบได้ดี เพราะการแปลงคอนเส็ปต์ hypercube ให้เป็นภาพที่สื่อสารกับคนดูรู้เรื่องทำได้ยากมาก แต่หนังก็ทำออกมาสวยงาม ถือเป็นไฮไลท์หนึ่งของเรื่อง ยอดเยี่ยมครับ
วินทร์ เลียววาริณ
5-1-251- แชร์
- 83
-
-1-
รีนาเป็นเด็กสาวชาวฟิลิปปินส์ วัยยี่สิบเศษ ไปทำงานเป็นแม่บ้านที่ประเทศสิงคโปร์ ครอบครัวที่เธอทำงานมีสามชีวิต พ่อ แม่ กับลูกสาววัยสองขวบ นายจ้างเธอทำงานค้าขาย นายสาวเป็นคนขายประกัน
ที่อยู่ของพวกเขาเป็นอพาร์ตเมนต์ขนาดสามห้องนอน เจ้านายนอนกับเด็กที่ห้องหนึ่ง แต่บ่อยครั้งนายผู้ชายก็ย้ายไปนอนอีกห้องหนึ่งเพราะเสียงร้องของเด็กรบกวนเขา ส่วนเธอนอนในห้องนอนเล็ก
รีนาดูแลเด็กหญิงที่กำลังน่ารัก เธอรักเด็ก เธอมีลูกสาวคนหนึ่งที่ฟิลิปปินส์เช่นกัน แต่ต้องจากลูกมาทำงาน เธอแยกทางกับพ่อของเด็ก หรือที่ถูกคือเขาจากเธอไปทันทีที่เธอตั้งครรภ์
รีนาหยุดทุกวันอาทิตย์ มักไปขลุกกับเพื่อนคนงานชาวฟิลิปปินส์ที่ศูนย์การค้าแห่งหนึ่งย่านออร์ชาร์ด
คืนหนึ่งขณะที่กำลังหลับ เธอสัมผัสร่างหนึ่งมาประชิด เธอดิ้นและจะร้อง แต่ถูกฝ่ามือปิดปาก เธอรู้ว่าเป็นนายจ้างชาย เธอสัมผัสการล่วงล้ำของเขา หลังจากนั้นเขาวางธนบัตรใบละ 100 เหรียญบนโต๊ะหัวนอน
เธอไม่ได้บอกใคร เธอต้องการงานที่นี่ เธอมีภาระต้องส่งเงินกลับบ้าน
เหตุการณ์เดิมเกิดขึ้นอีกหลายครั้ง ทุกครั้งเขาวางเงิน 100 ดอลลาร์บนโต๊ะ รีนาเริ่มยอมรับชะตากรรมของเธอ
วันหนึ่งหลังจากกลับจากจ่ายตลาด รีนาเห็นนายสาวกำลังรอเธออยู่ที่ห้องของเธอ ชูเงินเหล่านั้น ถามว่าเธอได้เงินมาจากไหน รีนาไม่ตอบ เธอไม่อยากบอกความจริง เพราะครอบครัวนี้จะแตกสลาย เธอรักเด็กหญิง เธอไม่อยากให้เด็กโตมาโดยพ่อแม่แยกกัน
นายจ้างสาวเชื่อว่ารีนาขโมยเงิน จึงยกเลิกสัญญาว่าจ้างในวันนั้นเอง สั่งให้สามีไปส่งรีนาที่สนามบิน ระหว่างเขาไม่พูดอะไร เมื่อถึงสนามบิน เขายื่นเงินปึกหนึ่งให้เธอ แล้วขับรถจากไป
รีนาโดยสารเครื่องบินกลับฟิลิปปินส์ ใช้เงินที่นายจ้างชายให้มาเป็นค่าทำแท้ง และดำเนินชีวิตต่อไป
...........................................
-2-
โลกเรามีเรื่องเลวร้ายอย่างหนึ่งคือ มนุษย์มักข่มเหงคนอื่นเมื่อมีโอกาส
ไม่เฉพาะในช่วงสงคราม แต่ในโลกทุกวันนี้ การรังแกข่มเหงคนที่ด้อยกว่าเกิดขึ้นทุกวัน
คนจำนวนมากถูกข่มเหง เพราะไม่มีทางสู้ หรือจนตรอก
เจ้านายด่าลูกน้องสาดเสียเทเสีย ลูกน้องก็อดทน ไม่ลาออก เพราะจำเป็นต้องพึ่งรายได้นั้น
...........................................
-3-
หากผู้อ่านหยุดอ่านหลังเรื่องท่อน 1 หรือท่อน 2 ผู้อ่านอาจกดอิโมจิโกรธหรือเศร้า อาจแชร์ให้คนอื่นรับรู้ว่าโลกเลวร้ายอย่างไร อาจจดจำภาพร้ายๆ ในเรื่องนี้ไปนาน
แต่หากอ่านต่อไป อาจจะกดอิโมจิอันอื่น
เรื่องทั้งหมดที่ท่านอ่านมาเป็นเรื่องแต่ง ไม่ใช่เรื่องจริง เรื่องของรีนาแต่งขึ้นมาเพื่อทดสอบวิธีการเสพสื่อของท่าน
เรื่องแต่งนี้ออกแบบมาเพื่อสะกิดอารมณ์โกรธของผู้อ่าน ไม่มีอะไรง่ายไปกว่าให้ผู้หญิงอ่อนแอถูกกระทำ เมื่อนั้นผู้อ่านก็หลงเชื่อไปแล้วว่ามันเป็นความจริง
ในแง่ปัจเจก การกดอิโมจิหรือคอมเมนต์ทั้งที่อ่านไม่จบ อาจสร้างนิสัยลวก ตัดสินคนและเรื่องต่างๆ โดยที่มีข้อมูลไม่ครบหรือไม่มีข้อมูลจริง เพราะเรื่องท่อนแรกกับท่อนหลังอาจเป็นหนังคนละม้วน เราไม่รู้ถ้าอ่านไม่หมด หรืออ่านโดยไม่วิเคราะห์
ในแง่สังคม เรื่องของรีนาเรื่องนี้ชี้ให้เห็นพลังของการโกหกว่าไปไกลได้แค่ไหน ทุกวันนี้มีเรื่องราวต่างๆ มากมายที่ผ่านเข้ามาในชีวิต หากอ่านแล้วเชื่อเลย แชร์เลย ท่านก็อาจกลายเป็นเครื่องมือของการลวงโลกโดยไม่ตั้งใจ
เฟกนิวส์ไม่มีวันหมดไปจากโลก แต่ปัญหาไม่ใช่คนสร้างเฟกนิวส์ ปัญหาคือคนส่งต่อเฟกนิวส์ต่างหาก
แล้วทำอย่างไร?
ง่ายนิดเดียว อ่านอะไร วิเคราะห์ทุกครั้ง-ทุกเรื่อง ย้ำ! ทุกครั้ง-ทุกเรื่อง และถ้าไม่รู้จริง ไม่ได้ตรวจสอบจนแน่ชัดแล้ว อย่าส่งต่อให้ใคร เราจะเป็นคนช่วยทำร้ายสังคมเสียเอง
วินทร์ เลียววาริณ
6-8-251 วันที่ผ่านมา -
ขอแจ้งต่อผู้สั่งซื้อว่า เราไม่ได้ใช่เครื่องตอบอัตโนมัติ จะตอบลูกค้าทีละรายซึ่งใช้เวลา บางท่านอาจไม่ได้รับคำยืนยันทันที ก็รอสักนิด เราตอบทุกคนแน่นอน
สำหรับผู้อ่านที่ยังไม่รู้ นี่คือหนังสือใหม่ พ้นจากสภาวะ pre-order เป็นพิมพ์จริงแล้ว
เราจะสรุปยอดคนที่เข้าร่วมโครงการเติมหัวใจใส่ห้องสมุดจนถึงศุกร์นี้ อาทิตย์หน้าจะส่งงานเข้าโรงพิมพ์
................................
รายละเอียดหนังสือ
ชื่อเรื่อง : สี่ภพ (เป่ย หนาน ตง ซี)
ประเภท : นวนิยายจีนกำลังภายใน + ไซไฟ
ขนาดหนังสือ : 13.5 x 18.5 ซม.
ขนาดกล่อง : ประมาณ 14 x 19 x 10.5 ซม.
สไตล์งาน : สไตล์เรโทร จำลองสไตล์การออกแบบและขนาดเหมือนนิยายจีนกำลังภายในสมัย 50 ปีก่อน จัดเป็นงานบูชาครูและช่างสมัยก่อน
- หนึ่งชุดประกอบด้วยหนังสือ 6 เล่ม (นวนิยาย 5 เล่ม สารคดีเบื้องหลัง 1 เล่ม) หนาเล่มละ 320 หน้า รวม 1,920 หน้า บรรจุในกล่อง box set กระดาษแข็งพิมพ์ลายจอมยุทธ์
- มีลายเซ็นนักเขียนทุกเล่ม 1
- อาจมีหนังสือแถมให้ ถ้ากล่องที่บรรจุมีพื้นที่พอ
- น่าจะได้รับหนังสือราวกลางเดือนกันยายน 2568
- ราคา pre-order 2,200 บาท (รวมค่าส่งแล้ว)
* จำหน่ายราคานี้จนถึง 31 สิงหาคม 2568 หลังจากนั้นจะจำหน่ายตามราคาปก 2,400 บาท ต้องโอนเงินภายในกำหนด *
- สั่งซื้อที่เว็บเท่านั้น คลิก https://www.winbookclub.com/store/detail/254/4%20%E0%B8%A0%E0%B8%9E
- ผู้จอง pre-order ต้องกรอกข้อมูลให้ครบถ้วน ชื่อ /ที่อยู่จัดส่ง /โทร. / อีเมล และแนบหลักฐานการโอนไปที่ namol113@gmail.com มิฉะนั้นเราจะไม่รู้ว่าเป็นลูกค้าคนไหน
ป.ล. อ่านที่มาของโครงการนี้ได้ที่ https://www.facebook.com/photo/?fbid=1348523389969682&set=a.208269707328395
2 วันที่ผ่านมา -
นิยายจีนกำลังภายในที่แปลเป็นไทยนั้น สร้างมรรคาใหม่หลายอย่างให้วงการ
เป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่ง
เช่น เสียงหัวเราะเคี้ยกเคี้ยก
เสียงหัวเราะเคี้ยกเคี้ยกเป็นสำนวนเฉพาะของนักแปลไทย เป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่ง ผมจึงคิดจะแต่งเรื่องให้มีที่มาของเสียงเคี้ยกเคี้ยก
อีกวลีหนึ่งคือ "อกอวบอูมแฝงพลังดีดสะท้อน"
คำนี้อ่านมาห้าสิบปีแล้วยังฝังหัว
ผมจึงบอกซือแป๋ น. นพรัตน์ ว่า จะใส่ "อกอวบอูมแฝงพลังดีดสะท้อน" ในเรื่องอย่างแน่นอน
แปลว่ามีฉากเซ็กซ์หรือ?
คงไม่ถึงขนาด Fifty Shades of Gray
นี่ก็เดินตามรอยปรมาจารย์กิมย้งที่ไม่เขียนฉากเซ็กซ์แบบโจ๋งครึ่ม
แกบอกว่า แต่แตะก็หยุด
เข้าใจตรงกันแล้วนะว่า สี่ภพ มีฉากสู้กันชุลมุน แต่ไม่มีฉากชุลมุนบนเตียง
วินทร์ เลียววาริณ
7-8-25อ่านรายละเอียดงานชุดนี้ได้ที่ https://www.facebook.com/photo/?fbid=1348523389969682&set=a.208269707328395
https://www.facebook.com/winlyovarin/posts/pfbid0gfTmtjbPjd6BaGuoy4gRMabaMGXoHMhXPsZahps8zMNVH8Efk8zXus7Tpjm8PH5Kl
ตอนนี้พิมพ์จริงแล้ว สั่งซื้อ คลิก https://www.winbookclub.com/store/detail/254/4%20%E0%B8%A0%E0%B8%9E
ในหน้า pre-order สามารถคลิกอ่านตัวอย่าง 2 บทได้ฟรี
2 วันที่ผ่านมา -
ชีวิตก็เช่นเดียวกับการออกแบบห้อง ชีวิตเราแต่ละคนประกอบด้วย ‘เครื่องเรือน’ หลายชิ้น
ตลอดชีวิตเราเปลี่ยน ‘เครื่องเรือน’ ไปเรื่อย ๆ บางชิ้นประณีต บางชิ้นธรรมดา บางชิ้นมีลวดลายมาก หยาบบ้าง ละเอียดบ้าง บางคนไม่เคยเปลี่ยนเครื่องเรือนเลยตลอดชีวิต ชีวิตบางคนมีพื้นที่ให้วางเครื่องเรือนมากชิ้นกว่า บางชีวิตมีพื้นที่ให้วางได้น้อยชิ้น
การเปลี่ยนหรือสลับเครื่องเรือนบ้างก็ทำให้ห้องแห่งชีวิตแปลกตาน่าสนใจขึ้น
หลายคนใส่เฟอร์นิเจอร์มากมายเข้าไปในห้องชีวิต เพียงเพื่ออวดคนอื่นหรือสนองอีโก้ของตัวเองว่าตนเองประสบความสำเร็จ จึงมีปัญญาจัดหา ‘เฟอร์นิเจอร์’ มาเต็มห้อง แต่เหล่านี้คือเปลือก เอาไว้หลอกตัวเอง
บ้านที่ดีที่สุด รถที่ดีที่สุด หากมีปัญญาหามาเพื่อสนองหน้าที่ใช้สอยในชีวิตก็เป็นเรื่องดี แต่หากมีเพื่อแสดงฐานะของตน ก็สะท้อนว่าใครคนนั้นอาจไม่มีค่า จึงต้องใช้วัตถุช่วย
ความงามของชีวิตขึ้นอยู่กับว่าเราใส่เฟอร์นิเจอร์อะไรเข้าไป เราไม่จำเป็นต้องให้ทุกชิ้นส่วนในชีวิตของเราสมบูรณ์ เพอร์เฟ็กต์อลังการ เพราะชีวิตที่ดีไม่ใช่การรวมกันของทุกส่วนที่ดีทุกชิ้นเสมอไป ชีวิตประกอบด้วยความสำเร็จ ความล้มเหลว ความผิดพลาด การเรียนรู้ องค์ประกอบชิ้นที่ ‘เลวร้าย’ ก็มีประโยชน์ถ้าวางถูกที่ ถูกเวลา ดูภาพรวมแล้ว ชีวิตนั้นก็ดูดี จังหวะถูกต้อง
องค์ประกอบควรหลากหลาย ไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งแพงที่สุด ก็สามารถเป็นชีวิตที่ดีได้ ความทุกข์ก็มีประโยชน์ต่อชีวิต หากมันอยู่ในตำแหน่งและจังหวะที่เหมาะสม
เครื่องเรือนแห่งชีวิตที่เราใส่เข้าไปคือการศึกษา ทักษะ ประสบการณ์ อารมณ์ขัน ความเมตตา แต่เครื่องเรือนที่ควรเอาออก เช่น นิสัยรักการพนัน อบายมุข นิสัยดูถูกคน ฯลฯ
ชีวิตเราประกอบด้วยเครื่องปรุงต่าง ๆ แห่งชีวิต ทั้งที่ดีมาก ดีปานกลาง ไปจนถึงไม่ค่อยดี แต่รวมกันแล้วอาจลงตัวได้ ถ้ารู้จักวางตำแหน่งให้ถูก และจัดองค์ประกอบลงตัว คนยากจนก็มีชีวิตที่งดงามได้
เพราะความงดงามเกิดขึ้นจากความเรียบง่าย พอดี
และเพราะความงดงามอยู่ในหัวใจ ไม่ใช่ฐานะ
วินทร์ เลียววาริณ
8-8-25จาก รอยยิ้มใต้สายฝน
35 บทความกำลังใจ ราคาเพียง 190 บาท = บทความละ 5 บาทเศษ
หนังสือหมดเมื่อไร จะไม่ตีพิมพ์ใหม่แล้ว
https://www.winbookclub.com/store/detail/139/รอยยิ้มใต้สายฝน
https://s.shopee.co.th/8Ke0htOJcm2 วันที่ผ่านมา -
ช่วงนี้มีสงครามทุกมุมโลก เสนาธิการทหารต้องคิดล่วงหน้าว่า จะเกิดอะไรขึ้นหากศัตรูบุกกะทันหัน หรือ ฯลฯ
ในห้องยุทธการ นักการทหารมักทำการสมมุติสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดที่อาจเกิดขึ้นได้ (worst-case scenario) เช่น หัวรบนิวเคลียร์ของฝ่ายตรงข้ามกำลังวิ่งข้ามทวีปมาหาพวกเขาในเวลายี่สิบวินาที หรือคนร้ายจับประธานาธิบดีไปเป็นตัวประกัน ฯลฯ
จะว่าไปแล้วหนังฮอลลีวูดจำนวนมากเขียนเรื่องโดยใช้ฐาน 'สถานการณ์สมมุติที่เลวร้ายที่สุด' นวนิยายหลายเรื่องก็ใช้หลักนี้ นักเขียนบางท่านเคยแต่งเรื่องให้ตัวละครขับเครื่องบินชนอาคาร นานหลายปีก่อนหน้าเกิดเหตุการณ์ 9-11 ที่สหรัฐอเมริกา
ในห้องประชุมธุรกิจไม่น้อย มีการถามถึงสถานการณ์สมมุติที่เลวร้ายที่สุดที่อาจเกิดกับบริษัทเป็นระยะ ๆ เพื่อที่จะได้เตรียมตัวป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์นั้น หรือลดทอนความรุนแรงของมันหากเลี่ยงไม่พ้น
worst-case scenario ของธนาคารอาจคือการที่ลูกค้าถอนเงินทั้งหมดจากธนาคาร
worst-case scenario ของกรุงเทพมหานครอาจเป็นน้ำท่วมทั้งเมือง
worst-case scenario ของสถานีดับเพลิงอาจคือไฟไหม้สถานีดับเพลิง
ฯลฯ
การสมมุติ worst-case scenario นี้เป็นการมองโลกในแง่ร้ายแบบดี ช่วยทำให้เราไม่ประมาท และประเมิน-วางแผนตอบโต้วิบัติด้วยสติ
วิบัติภัยสึนามิเมื่อไม่นานมานี้เป็นข้อพิสูจน์ว่า การปฏิเสธ worst-case scenario โดยความเชื่อที่ว่ามันเป็นไปไม่ได้ ไม่เคยเกิดขึ้น หรือความน่าจะเป็นต่ำมาก นำมาซึ่งราคาที่ต้องจ่ายแพงมหาศาล
ในการดำเนินชีวิตวันต่อวันของปัจเจกบุคคล หากเราลองพิจารณาดูว่าอะไรที่เลวร้ายที่สุดที่อาจจะเกิดขึ้นกับเรา จะพบว่าวิบัติสมมุติของแต่ละคนไม่เหมือนกัน
สิ่งเลวร้ายที่สุดที่อาจเกิดขึ้นกับคนคนหนึ่งอาจเป็นการตกงาน ของอีกบางคนอาจเป็นความตายของคนที่รัก, สอบเอนทรานส์ไม่ติด, แฟนทิ้ง, ไม่มีเงินซื้อข้าวสารกรอกหม้อ, บ้านถูกยึด, ลูกติดยา ไปจนถึงการผ่อนรถยนต์ราคาสิบล้านบาทไม่สำเร็จ ฯลฯ
เมื่อรู้ว่าอะไรเป็นสิ่งเลวร้ายที่สุดที่อาจเกิดขึ้น ก็ลองคิดต่อว่า 'ราคา' ของมันแพงแค่ไหน
ราคาที่แพงที่สุดของการผ่อนบ้านไม่สำเร็จ คือถูกยึดบ้าน ไปจนถึงติดคุก หรือตายในคุก
ราคาที่แพงที่สุดของการถูกแฟนทิ้งคือ อกหัก ไปจนถึงตรอมใจตายคารูปถ่ายแฟน ฯลฯ
โดยทั่วไปราคาที่แพงที่สุดของทุกสถานการณ์คือ ความตาย เพราะเมื่อเราตายไปแล้ว ก็คงไม่มีใครตัดหัวเหม็น ๆ ของเราไปปักไว้กลางเมือง หรือโคลนนิ่งเราขึ้นมารับกรรมต่ออีกห้าร้อยปี
หลายคน - เมื่อกำลังพานพบสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด - จึงเอ่ยคำว่า "อย่างมากก็แค่ตาย (โว้ย!)" ความวิตกทุกข์ร้อนก็อาจทุเลาลงบ้าง
ที่ตลกก็คือ ยิ่งเตรียมพร้อมรับมือกับมัน เจ้าวิบัติสมมุตินี้มักไม่มาเยือนจริง ๆ ! วินทร์ เลียววาริณ
7-8-25....................
จาก รอยเท้าเล็ก ๆ ของเราเอง
หนังสือเสริมกำลังใจ 46 บทความ 175 บาท เรื่องละ 3.8 บาท
หนังสือหมดเมื่อไร จะไม่ตีพิมพ์ใหม่แล้ว
https://www.winbookclub.com/store/detail/108/รอยเท้าเล็กๆ%20ของเราเอง%20เวอร์ชั่น%202
เซ็ทโปรโมชั่นพิเศษ https://www.winbookclub.com/store/detail/235/R4%20%E0%B8%8A%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%A3%204
Shopee https://shope.ee/Vj8bA8a4u?share_channel_code=62 วันที่ผ่านมา