-
วินทร์ เลียววาริณ4 เดือนที่ผ่านมา
(ต่อจาก https://www.facebook.com/photo?fbid=1238521357636553&set=a.208269707328395)
เรื่องกบฏบวรเดชนั้นเล่าได้ยาว เพราะมีรายละเอียดบันทึกไว้มากมาย
ฉบับหนึ่งคืองานของพระยาศราภัยพิพัฒ เล่าถึงวันที่ถูกจับ
“คดีข้าพเจ้ามีจำเลยด้วยกัน ๗ คนคือ นายหลุย คีรีวัต, หลวงมหาสิทธิโวหาร (สอ เศรษฐบุตร), นายเทอญ มหาเปารยะ, นายเทิ้ม วาทิน, นายบุญเยี่ยม สุทธิถวิล และนายอำพัน สมุทศิริ คำฟ้องซึ่งขุนวิศุทธจรรยา เป็นอัยการพิเศษกล่าวว่า ‘จำเลยกับพรรคพวกได้เกลี้ยกล่อมทหารประจำการ ทหารกองหนุน และพลเรือนในพระราชอาณาจักร มีกรุงเทพฯ จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดสระบุรี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และจังหวัดนครสวรรค์ เป็นต้น เพื่อทำลายล้มรัฐบาล’ กับอีกตอนหนึ่งมีคำว่า ‘จำเลยได้สมคบกันพิมพ์หนังสือให้ชื่อว่า คณะกู้บ้านเมือง มีใจความสำคัญว่า คณะรัฐบาลดำเนินการตามลัทธิคอมมิวนิสต์ ปล่อยให้ราษฎรดูหมิ่นพระบรมเดชานุภาพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คณะกู้บ้านเมืองจะให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอยู่เหนือกฎหมายตามเดิม’ ”
ในวันที่ ๕ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๗ จำเลยทั้งเจ็ดคนนี้ถูกคณะกรรมการศาลพิเศษ อันมีพลตรีพระยาประเสริฐสงครามเป็นประธานตัดสิน พระยาศราภัยพิพัฒ, สอ เศรษฐบุตร, หลุย คีรีวัต, บุญเยี่ยม สุทธิถวิล และ เทิ้ม วาทิน มีความผิดฐานกบฏ มาตรา ๑๐๑ ให้จำคุกไว้ตลอดชีวิต
สอ เศรษฐบุตร ก็คือคนแต่งพจนานุกรมอังกฤษ-ไทย ทำงานชิ้นนี้ในคุก
หากเห็นปกหนังสือเขียน สอ เสถบุตร ก็ไม่ต้องแปลกใจ เป็นภาษาวิบัติสมัยจอมพล ป. เรืองอำนาจ
ผมเขียนเรื่องของพระยาศราภัยฯไว้ในนวนิยายสองเรื่อง คือ ประชาธิปไตยบนเส้นขนาน กับ น้ำเงินแท้ ส่วน สอ เศรษฐบุตร มีบทบาทในนวนิยาย น้ำเงินแท้
หลังจากพระยาสุรพันธเสนีถูกส่งไปขังที่เกาะตะรุเตา ก็วางแผนหนี โดยหนีกันห้าคน รวมทั้งพระยาศราภัยพิพัฒ
ในนวนิยาย น้ำเงินแท้ ที่เขียนฉากหนีนี้อิงเรื่องจริง พระยาศราภัยบอกตัวเอกว่า “เราจะหนีไปลังกาวี คุณจะไปกับเราไหม?”
ข้าพเจ้า (ตัวละครเอกของ น้ำเงินแท้) นิ่งไป “แล้วจะไปได้ยังไงครับ?”
“นายหมียอมช่วยหาเรือให้เรา เราจะไปในวันที่ ๑๖ เดือนนี้”
ข้าพเจ้าว่า “ไว้ใจเขาได้หรือ?”
“ได้”
“ทำไมแน่ใจอย่างนั้น?”
พระยาศราภัยฯหัวเราะ “ผมแน่ใจอำนาจของเงิน! ตาหมีไม่ใช่คนโง่ เขาไม่ช่วยเราเปล่า ๆ หรอก เพราะถ้าพลาด เขาอาจต้องย้ายจากบ้านไปอยู่ในคุกแทน งานนี้เราได้ลูกเขยแกที่เป็นผู้คุมมาช่วยด้วย ตาหมีจะจัดการเตรียมเรือใบ เราให้เงินนายหมีมากพอที่เขาจะส่งเสียลูกเรียนจนจบ อีกอย่างเขาไม่ชอบขุนยมที่กลั่นแกล้งนักโทษสารพัด เขาอยากช่วยเรา”
“ตกลงเท่าไหร่?”
“ห้าพันบาท”
“เป็นเงินจำนวนสูงมาก”
“ต้องสูงอย่างนี้ ตาหมีกับลูกชายจึงกล้าเสี่ยง”
“เอาเงินนี้มาจากไหนครับ?”
“ภรรยาเจ้าคุณสุรพันธฯให้เงินมาเป็นค่าจ้างและค่าใช้จ่ายในการหนี”
“มีใครไปบ้างครับ?”
“ก็มีคุณ หลุย สอ เจ้าคุณสุรพันธฯ ขุนอัคนีฯ และแฉล้ม แฉล้มคำนวณฤกษ์หนีไว้แล้ว วันที่ ๑๖ ตุลาฯ ตอนสองทุ่มตรง มันเป็นคืนขึ้นสามค่ำ เชื่อแฉล้มเถอะ เขารู้เรื่องโหราศาสตร์ดี เขาบอกว่าคืนนั้นฤกษ์ดี หนีรอดแน่ ผมรู้ว่าคุณไม่เชื่อเรื่องแบบนี้ แต่อย่าประมาทศาสตร์โบราณ ผมพิสูจน์มาแล้ว สองวันก่อนผมขอให้เขาพิสูจน์ความแม่นยำ เขาก็ทำนายว่าเมื่อวานตอนบ่ายสองฝนตกหนัก มันก็ตกตอนบ่ายสองจริง ๆ”
“แต่การทำนายว่าฝนตกไม่มีอะไรพิเศษนี่ครับ...”
“ผมก็บอกเขาอย่างนี้ แฉล้มจึงทำนายอีกเรื่องหนึ่ง บอกว่าบ่ายสองฝนตก บ่ายสามจะมีข่าวว่าคนเป็นอันตราย พอบ่ายสองเมื่อวานนี้ ฝนก็ตก และบ่ายสามก็มีข่าวว่าผู้คุมกับนักโทษสามัญที่ออกเรือหาปลาถูกปลากระเบนแทงบาดเจ็บ”
พระยาศราภัยพิพัฒเห็นสีหน้ากังวลของข้าพเจ้า บอกยิ้ม ๆ ว่า “ไม่ต้องห่วงน่า แฉล้มดูดวงไว้แล้ว เรารอดแน่ร้อยเปอร์เซ็นต์ เราจะหนีสำเร็จสมประสงค์ ต่อให้ถูกผู้คุมตามล่า ก็จะแคล้วคลาดอันตรายทั้งปวง”
สอ เศรษฐบุตร เอาต้นฉบับปทานุกรมไปฝากกับ ชุลี สารนุสิต บอกชุลีว่า “ตรงหัวนอนของผมฝนรั่วบ่อย ๆ กลัวต้นฉบับจะเสียหาย”
ข้าพเจ้ารู้ว่าสอจำเป็นต้องปิดบังชุลี ยิ่งชุลีรู้น้อยเท่าใด ก็เป็นประโยชน์ต่อเขาเท่านั้น หากทางการมีหลักฐานว่าชุลีรู้เรื่องการหนีก่อน เขาคงจะถูกลงโทษ
แต่นาทีสุดท้าย สอ เศรษฐบุตร ก็เปลี่ยนใจไม่หนี เพราะแม่ของเขาบอกว่าอย่าทำ
ส่วนนายหมีที่ช่วยพาคนหนีมีตัวตนจริง เป็นชาวบ้านที่เกาะตะรุเตา
..................................
ในนวนิยาย ประชาธิปไตยบนเส้นขนาน เสือย้อยถูกจับไปไว้ที่เกาะตะรุเตา เขาก็คิดหนีเช่นกัน แต่กลุ่มพระยาสุรพันธเสนีหนีไปก่อน ทำให้เขาหนีลำบากกว่าเดิม
ฉากนี้บรรยายการหนีของพระยาสุรพันธเสนีและพวกไว้ดังนี้
ดวงดาราเบื้องบนระยิบระยับ เหมือนกับภาพที่เขา (เสือย้อย) เคยมองอยู่เสมอเมื่อครั้งใช้ชีวิตนักปฏิวัติในป่า ต่างแต่ว่าที่นี่ไร้อิสรภาพ น้ำค้างเริ่มลงเผาะ ๆ ทำไมในนาทีนี้เขาจึงนึกถึง ตุ้ย พันเข็ม จำสายตาคู่นั้นที่มองเขาก่อนจากมาได้ดี นายตำรวจคนนั้นรู้แน่ว่าสถานที่แห่งนี้ไม่มีวันกักขังคนอย่างเขาได้ แต่ไม่พูดอะไรนอกจากทิ้งอะไรบางสิ่งไว้ในกองสัมภาระของเขาก่อนจากไป เขาพบมันเมื่อเดินทางมาถึงที่นี่แล้ว และขณะนี้มันกำลังอยู่ในมือของเขา
เป็นหนังสือพิมพ์ฉบับวันที่ 18 ตุลาคม 2482 หรือหลายเดือนมาแล้ว ออกในช่วงที่เขายังถูกขังอยู่ในคุกบางขวาง หน้าหนึ่งเป็นข่าวนักโทษการเมืองห้าคนหนีออกจากเกาะตะรุเตา พร้อมใบหน้าของคนทั้งห้าเด่นหรา เขารู้จักคนกลุ่มนั้น พระยาศราภัยพิพัฒ นักการเมืองผู้โชกโชนประสบการณ์การเมือง, พระยาสุรพันธเสนี อดีตสมุหเทศาภิบาลมณฑลราชบุรี, ขุนอัคนีรัถการ, นายหลุย คีรีวัต, นายแฉล้ม เลี่ยมเพ็ชรรัตน์ ทั้งหมดเป็นนักโทษคดีกบฏบวรเดช
หนังสือพิมพ์รายงานว่า ตีสองเศษในคืนวันที่ 16 ตุลาคม เสียงนกหวีดกรีดกังวานปลุกนักโทษทุกคนให้ตื่นขึ้นมากลางดึก เสียงตะโกนโหวกเหวกดังลั่นไปทั่วเกาะ เมื่อพบว่ามีนักโทษหนีออกจากเกาะ ผู้คุมทุกคนถือปืนเต็มอัตราวิ่งพล่านเหมือนฝูงสิงห์ได้กลิ่นสมัน สั่งให้นักโทษทุกคนขึ้นมาตั้งแถวตรวจนับอย่างเคร่งเครียดกลางดึก ไม่นานต่อมาเรืออาดังพร้อมผู้คุมและอาวุธเต็มพิกัดก็ออกตามล่านักโทษเดนตายกลุ่มนั้นอย่างกระชั้นชิดทั้งคืน และมันเป็นการจับตายเท่านั้น
เช้าวันต่อมา จุดดำจุดหนึ่งปรากฏที่ขอบฟ้า และค่อย ๆ ชัดขึ้นทุกขณะ กลุ่มนักโทษชะเง้อคอมอง ในใจทุกคนเต้นระทึกว่านักโทษทั้งห้านั้นรอดตายไปได้หรือไม่ ไม่นานต่อมาเรืออาดังก็ปรากฏเบื้องหน้าทุกคน ไร้เงาร่างนักโทษการเมืองทั้งห้า เรือใบที่แอบมารับคนทั้งห้าเมื่อคืนได้อันตรธานไปจากท้องทะเลแถบนั้นแล้วเหมือนเรือปิศาจ ท่ามกลางการถอนหายใจอย่างโล่งอกของเพื่อนนักโทษด้วยกัน ทุกคนรู้ว่าต่อแต่นี้ไปโอกาสที่จะหนีรอดออกจากเกาะนรกนี้มีค่าเท่ากับศูนย์เท่านั้น
ประวัติศาสตร์บันทึกไว้ บางครั้งเรื่องจริงที่เกิดขึ้นระทึกกว่านิยายเสียอีก
วินทร์ เลียววาริณ
7-3-25
.............................อ่านรายละเอียดใน น้ำเงินแท้
https://www.winbookclub.com/store/detail/118/น้ำเงินแท้ประชาธิปไตยบนเส้นขนาน
https://www.winbookclub.com/store/detail/145/ประชาธิปไตยบนเส้นขนาน%20%28ปกอ่อน%20ปรับปรุง%290- แชร์
- 57
-
หลังจากแต่งงานมานานปี คุณบริสุทธิ์ก็ต้องพึ่งบริการจิตแพทย์ แน่นอนปรึกษาเรื่องชีวิตคู่
จิตแพทย์ทักคุณบริสุทธิ์ “คุณบริสุทธิ์มีปัญหาอะไรอีกล่ะวันนี้?”
“ปวดหัวมากครับ” คุณบริสุทธิ์ตอบ
“ความสัมพันธ์ในชีวิตคู่ของคุณตอนนี้เป็นยังไง?”
“ชีวิตคู่กับใคร?”
“ถามใหม่ก็แล้วกัน ความสัมพันธ์ในชีวิตคู่ของคุณกับภรรยาตามกฎหมายตอนนี้เป็นยังไง?”
“น็อต โซ เวลล์” (Not so well.)
“แปลว่า?”
“น็อตแปลว่าเครียดอัดแน่นเหมือนขันน็อต โซแปลว่าโซเซเหมือนนักมวยเมาหมัด เวลล์แปลว่าเหมือนกำลังชดใช้เวรกรรมแห่งชีวิตคู่”
“ถึงขั้นเวรกรรมเลยหรือ?”
“ไม่เวรกรรมได้ไง เมียผมขู่ว่าจะวางยาพิษผมครับ”
“คุณเป็นคนเจ้าชู้ เธอก็คงพูดเป็นเชิงปรามคุณไม่ให้คุณออกไปเที่ยวข้างนอก”
“ไม่ใช่ครับ เธอคิดวางยาพิษผมจริง ๆ เธอขู่ผมหลายครั้ง บอกว่าซื้อยาพิษมาแล้วด้วย”
“จริงเรอะ?”
“จริงซีครับ ภรรยาวางยาพิษสามีนี่เป็นเรื่องคอขาดบาดตายนะครับ”
“คุณบริสุทธิ์ คุณมาหาผมทุกทีก็บ่นเรื่องเมียตลอด บอกตรง ๆ ผมไม่ค่อยเชื่อว่าเมียคุณแย่อย่างนั้น ผมเข้าใจนะ คุณเครียดก็บ่น แต่ระวังอย่าบ่นเรื่องไม่จริงจนมันกลายเป็นเรื่องจริงขึ้นมา”
“ถ้าคุณหมอไม่เชื่อผม ก็ลองคุยกับเมียผมดู เผื่อเธอจะเปลี่ยนใจ แล้วกลับมาดูแลผมดี ๆ เหมือนตอนเพิ่งแต่งงานกัน”
“ก็ได้ ผมจะลองคุยกับเมียคุณดู คุณให้เบอร์มา แล้วไปนั่งรอข้างนอก ผมคุยกับภรรยาคุณเสร็จแล้วค่อยเรียกคุณ”
“ขอบคุณครับ”
ผ่านไปชั่วโมงกว่า หมอคุยนานกว่าที่คุณบริสุทธิ์คิด ในที่สุดจิตแพทย์ก็เรียกเขาไปพบ
“คุณหมอคุยกับเมียผมแล้วใช่มั้ยครับ?”
“ใช่ครับ”
“ตกลงหมอแนะนำว่าไงครับ?”
จิตแพทย์กุมขมับ ถอนหายใจเบา ๆ กล่าวว่า “ผมว่าคุณกินยาพิษไปเถอะ”
วินทร์ เลียววาริณ
17-7-25.....................
เล่าใหม่จากขำขันที่ได้ยินมา รวมอยู่ในหนังสือนวนิยาย เรื่องรักของคุณบริสุทธิ์ฯ
(นวนิยายแนวใหม่ที่นำขำขันตลกๆ ระดับ ‘ขำกลิ้ง’ 400 เรื่องมายำเป็นนวนิยาย)
ค่าคลายเครียดแค่ 330 บาท เฉลี่ยขำละ 80 สตางค์ หนังสือหมดเมื่อไร จะไม่ตีพิมพ์ใหม่แล้วโปรโมชั่น https://www.winbookclub.com/store/detail/196/แพคเกจพิเศษ%203%20in%201
Shopee เดี่ยว https://s.shopee.co.th/1VjWGyXzed
1 วันที่ผ่านมา -
ในนวนิยายของกิมย้งเรื่อง กระบี่เย้ยยุทธจักร จอมยุทธ์ฝ่ายอสูรกลุ่มหนึ่งถูกฝ่ายธัมมะลวงเข้าไปในถ้ำแห่งหนึ่งแล้วปิดตายถ้ำนั้น พวกที่ถูกขังใช้อาวุธทลายผนังถ้ำ ด้วยคมอาวุธหลายชิ้นบวกกับพลังภายในระดับสูง พวกเขาเจาะถ้ำไปได้มาก แต่แล้วพวกเขาก็ล้มตายสิ้นเพราะหมดแรง เมื่อตัวละครเอก ‘เหล็งฮู้ชง’ ไปสำรวจถ้ำนั้นนานปีให้หลัง เขาพบว่าจอมยุทธ์เหล่านั้นทลายกำแพงถ้ำไปจวนสำเร็จแล้ว เหลือเพียงนิ้วสองนิ้วก็ทะลุ แต่พวกเขาตายเสียก่อน
พวกเขาอาจตายเพราะหมดกำลังกาย หรืออาจหมดกำลังใจที่จะเดินหน้า เพราะภายในถ้ำมืดพวกเขาไม่มีทางรู้ว่าทลายกำแพงไปได้มากเพียงไรแล้ว หากพวกเขารู้ว่าเหลืออีกเพียงไม่กี่นิ้วเท่านั้น พวกเขาก็ย่อมมีกำลังใจทลายมันออกไปได้เพราะรู้ว่าอยู่ใกล้จุดหมาย
ในชีวิตคนเรา มีหลายเรื่องที่เราทำจวนถึงจุดหมาย แต่ล้มเลิก โดยไม่รู้ว่าอีกนิดเดียวเท่านั้นก็สำเร็จแล้ว
หากเราประสบเรือแตกกลางมหาสมุทร ลอยคออยู่เดียวดาย เรามีสองทางเลือกคือ หนึ่งลอยตัวอยู่ในน้ำจนความช่วยเหลือมาถึงหรืออาจไม่มาเลย และสองปล่อยตัวจมน้ำตายไปเลย เพราะว่ายไปก็เสียแรงเปล่า ในเมื่อจะต้องตายอยู่แล้ว มิสู้ตายให้พ้นทุกข์ไปเลยดีกว่า
แต่เราก็ไม่มีทางรู้ว่าจะมีเรือมาช่วยหรือไม่ และถ้ามี เรือที่มาช่วยอยู่ใกล้หรือไกลแค่ไหน
เราต้องตัดสินใจว่าจะเดินหน้าต่อไปหรือยอมแพ้ ซึ่งตัดสินใจได้ยากมากในสภาพมืดแปดด้าน
ในการวิ่งแข่ง นักวิ่งคนหนึ่งเห็นคนอื่นวิ่งแซงหน้าตนไปทีละคน ๆ จนเขารั้งท้าย เขาอาจคิดว่าไม่มีทางชนะแล้ว ก็ไม่ต้องดิ้นรนอะไรอีก แต่ความจริงอาจเป็นว่านักวิ่งคนอื่นก็กำลังหมดแรงและคิดยอมแพ้เช่นกัน ในกรณีนี้ คนที่คิดยอมแพ้ทีหลังสุดเป็นผู้ชนะ
บางครั้งชัยชนะก็มาจากความอดทน รอให้คนอื่นยอมแพ้ก่อน
จิตวิญญาณในการต่อสู้ของแต่ละคนไม่เท่ากัน บางคนจะสู้ตายจนถึงนาทีสุดท้าย บางคนจะประเมินและตัดสินยอมแพ้เมื่อถึงจุดที่เขาคิดว่าควรยอมแพ้ เรื่องนี้ย่อมไม่มีใครผิดใครถูก โง่หรือฉลาด มันเป็นเพียงทัศนคติการมองโลกและชีวิตเท่านั้น
โลกกีฬาเห็นสัจธรรมของเรื่องนี้ชัดเจน บ่อยครั้งที่ฝ่ายหนึ่งรั้งท้าย ดูท่าพ่ายแพ้แน่นอน กลับตีตื้นขึ้นมานำชัยได้ เพราะการกัดไม่ปล่อย สู้ไม่ถอย
บางทีก่อนยอมแพ้ นึกให้ดีก่อนว่า อาจเหลือกำแพงอีกเพียงนิ้วเดียวเท่านั้นที่ขวางเรากับความสำเร็จ
เราไม่รู้ว่าเหล่าจอมยุทธ์ในถ้ำลงแรงทลายถ้ำจนนาทีสุดท้ายของชีวิตหรือไม่ หากพวกเขาสู้จนจุดสุดท้าย พวกเขาก็เพียงพ่ายแพ้ในเกมนั้น แต่หัวใจของพวกเขาชนะเรียบร้อยแล้ว
วินทร์ เลียววาริณ
17-7-25..................
จาก 1 เปอร์เซ็นต์ของความเป็นไปได้
61 บทความ 190.- บทความละ 3.1 บาท
หนังสือหมดเมื่อไร จะไม่ตีพิมพ์ใหม่แล้ว
https://www.winbookclub.com/store/detail/150/1%20เปอร์เซ็นต์ของความเป็นไปได้1 วันที่ผ่านมา -
ช่วงนี้เจอใคร มีแต่คนชวนคุยเรื่อง Colour Crow เฮ้อ! เหนื่อยใจ
ความจริงพูดถึงเรื่องพระ สตรี และโลกีย์ ผมเคยเขียนเรื่องสั้นเรื่องหนึ่งชื่อ โลกีย-นิพพาน เรื่องพระกับหมอนวด
เรื่องสั้นเรื่องนี้จัดว่าแรงและหมิ่นเหม่ในยุคนั้น ผมเองก็กลัวว่าตีพิมพ์ที่ไหน อาจโดนด่า หาว่าเป็นมารศาสนา
ลังเลอยู่นาน แต่ในที่สุดก็ส่งออก ได้รับตีพิมพ์ครั้งแรกในนิตยสารช่อการะเกด (2535)
ก็ค่อยสบายใจหน่อยว่าคงไม่โดนด่าแล้วละ
ต่อมาเรื่องสั้นเรื่องนี้ได้รับรางวัลช่อการะเกดยอดนิยมประจำปี 2535 ยิ่งโล่งใจเมื่อรวมในชุด อาเพศกำสรวล (2537) ก็ได้รับรางวัลรวมเรื่องสั้นดีเด่นจากคณะกรรมการพัฒนาหนังสือแห่งชาติ ปี 2538 แล้วเข้ารอบสุดท้ายรางวัลซีไรต์ปี 2539
แม้เรื่องสั้นจะแตะประเด็นหมิ่นเหม่ แต่จัดเป็นงานศิลปะแนวทดลอง เป็นเรื่องแรกที่ผมใช้กราฟิกมาผสมวรรณกรรม
ส่วนประเด็นหมิ่นเหม่นั้น มาถึง พ.ศ. นี้ถือว่าอ่อนมาก
วินทร์ เลียววาริณ
16-7-251 วันที่ผ่านมา -
ในบทรีวิว Dept. Q ผมพูดถึงซีรีส์สองชุดของผู้สร้างคนเดียวกันคือ Godless และ The Queen's Gambit
ข่าวดีคือยังสามารถดูได้จาก Netflix
จึงถือโอกาสนำรีวิวย้อนหลังมาให้อ่าน
..........................
(รีวิว Godless)คาวบอยหนุ่มลูบไล้ม้าป่าอย่างอ่อนโยน สัมผัสลำตัวม้าเหมือนลูบคนรัก นานเท่านาน ม้าป่านิ่ง และในที่สุด ด้วยสัมผัสเบา ๆ มันก็คู้เข่าลงนอนราบกับพื้น
มันเป็นวิธีหนึ่งที่ทำให้ม้าป่าเชื่อง มันยังเป็นวิธีบอกม้าว่า ต่อไปนี้เขาจะเป็นผู้ดูแลมัน ให้อาหารและน้ำแก่มัน เป็นการสร้างความไว้วางใจต่อกัน
ในโลกโหดร้ายของการแสวงหาดินแดนใหม่ทางตะวันตก คนกับม้าต้องหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว
ทว่าม้าป่าที่แท้สามารถปราบได้จริงหรือ?
นี่เป็นภาพยนตร์ซีรีส์ 7 ตอนเรื่อง Godless มันไม่ใช่หนังชีวิตของม้า มันเป็นชีวิตของคน ทว่าหนังอาจอยากบอกว่า คนบางประเภทก็เหมือนม้าป่า ไม่สามารถทำให้เชื่องได้
Godless เป็นหนังคาวบอย (ฝรั่งเรียกตระกูลนี้ว่า western) ฉากคือสหรัฐอเมริกายุคบุกเบิกดินแดนใหม่ แกนหลักของเรื่องความขัดแย้งของคน โดยใช้องค์ประกอบของฉากอเมริกายุคนั้น รถไฟ การปล้น การฆ่า โสเภณี ฯลฯ มารองรับ
มันเป็นเรื่องของการต่อสู้ การหักหลัง การทรยศ การแก้แค้น บนเส้นแบ่งอันรางเลือนระหว่างความดีกับความชั่ว
ที่หลุดจากหนังคาวบอยอื่น ๆ คือ นี่อาจเป็นหนังคาวบอยเรื่องแรกที่เน้น feminism แสดงบทบาทของสตรีเท่าเทียมบุรุษ
และนี่ก็อาจเป็นเรื่องแรก ๆ ที่ให้เวลากับฉากม้าเยอะมาก คนรักม้าน่าจะชอบ
หนังให้ความบันเทิงสูง รุนแรง เลือดสาด ตัดกับฉากหลังที่สงบงาม
บทกระชับ ถ่ายสวย ฉากสวย ฉากเกี่ยวกับม้าสวย เช่น ม้าข้ามน้ำ ฉากกองโจรม้าไล่ล่าม้าพระเอก สวยงามอย่างยิ่ง ไปจนถึงฉากประจันหน้ายิงสนั่นในตอนท้าย (ฝรั่งเรียก showdown)
แซ่บอีหลี ดีลิเฌียส!
9.5/10
..........................
(รีวิว Queen's Gambit)
ผมเริ่มเล่นหมากรุกฝรั่งตอนเรียนมหาวิทยาลัยชั้นปีสอง เพื่อนๆ เล่นกันและกรุณาสอนให้ พวกเราเล่นทั้งหมากรุกไทย จีน และฝรั่ง ผมชอบหมากรุกฝรั่งมากกว่า เพราะก้าวของหมากไปไกลกว่า ต้องคิดกว้าง ส่วนหมากรุกจีนนั้นไม่ไหว ยอมแพ้
อย่างไรก็ตาม ผมเล่นหมากรุกฝรั่งเพื่อผ่อนคลาย ไม่ใช่เล่นเอาชนะ เพราะไม่มีสติปัญญามองเกมหลายหมากล่วงหน้า แต่ในเมื่อเล่นเองไม่รอด ก็ให้ตัวละครเล่นหมากรุกเก่ง ก็คือตัวเอกในนวนิยายเรื่อง ปีกแดง ที่ใช้ฉากโซเวียต แผ่นดินแห่งเซียนหมากรุก
ภาพยนตร์เกี่ยวกับหมากรุกมีมากมายนับไม่ถ้วน เช่น Searching for Bobby Fischer, Dangerous Moves, Pawn Sacrifice, Knights of the South Bronx ฯลฯ
ล่าสุดเป็นมินิซีรีส์เจ็ดตอนของ Netflix ชื่อ The Queen's Gambit
วลี Queen's Gambit เป็นชื่อเรียกวิธีการเปิดเกมรูปแบบหนึ่งของหมากรุกสากล ใช้มานานตั้งแต่ศตวรรษที่ 15 (Queen คือหมากสำคัญที่สุดของเกม)
Queen's Gambit ในชื่อเรื่องอาจมีนัยเพิ่มอีกนิดคือ Queen อาจหมายถึงตัวเอกของเรื่องที่เป็นผู้หญิง
หนังเล่าการเดินทางในชีวิตของเด็กหญิงคนหนึ่งในโลกที่หดหู่หม่นหมองและด้อยโอกาส กับการเดินทางหนีโลกแห่งความจริงเข้าไปในโลกของเกมที่เก่าแก่ที่สุดเกมหนึ่งของมนุษยชาติ
พื้นที่ในโลกของเธอแบ่งออกเป็นตาราง 64 ช่อง และเธอก็จมชีวิตอยู่ในนั้น และมีแต่คนที่จมทั้งชีวิตภายใน 64 ช่องนั้น จึงอาจจะได้เป็นเซียน
มันจึงเป็นหนังดรามาที่ใช้ฉากหมากรุก หรือเป็นหนังหมากรุกที่เป็นดรามา
นี่ไม่ใช่เรื่องจริง The Queen's Gambit สร้างมาจากนวนิยายชื่อเดียวกันของ Walter Tevis เรื่องของเด็กหญิงกำพร้าวัยแปดขวบที่เป็นอัจฉริยะทางหมากรุก และการเล่นหมากรุกเปลี่ยนชีวิตเธอ
มันเป็นทั้งหนังดรามา หนังทริลเลอร์ หนังกีฬา หนังนิยายจีนกำลังภายใน และกึ่งหนังซูเปอร์ฮีโร
แต่หากวิเคราะห์โครงสร้างของหนัง มันก็คือ Seabiscuit เวอร์ชั่นหมากรุก ใช้ฉากย้อนยุคเช่นกัน เล่าถึงความลำบากของการฝึกฝนเพื่อขึ้นมาเป็น 'จอมยุทธ์' ในยุทธจักรหมากรุก
แม้ไม่ใช่คอนเส็ปต์ใหม่ แต่หนังและบทสร้างได้กระชับ จังหวะจะโคนลงตัว เก็บรายละเอียดและเกร็ดต่างๆ นักแสดงหลักเล่นได้ดี และหนังทำได้สนุกมาก
หนังให้เกร็ดความรู้หลายเรื่องเกี่ยวกับโลกของหมากรุกฝรั่ง และทำได้สมจริง เพราะได้ที่ปรึกษาเป็นเซียน คือแกรนด์มาสเตอร์ แกร์รี คาสปารอฟ
บางท่อนอาจจะเป็นดรามามากไปนิด หลุดๆ ไปบ้าง แต่โดยรวมเป็นหนังชุดที่ดูสนุกอย่างยิ่ง แลเห็นความพิถีพิถันของงาน แต่ที่สำคัญที่สุดคือการกำกับที่เอาอยู่ ทำให้เป็นแม่เหล็กดูแล้วหยุดไม่ได้
The Queen's Gambit เป็นบทพิสูจน์ว่า การทำหนังที่ดีไม่ได้อยู่ที่ไอเดียใหม่สดอย่างเดียว มันอยู่ที่การเคลื่อนจังหวะแต่ละก้าวของหนัง เหมือนการเล่นหมากรุกของแกรนด์มาสเตอร์ และนี่ก็ทำให้หนังที่ดูเหมือนสูตรสำเร็จธรรมดากลายเป็นหนังสนุกและจับคนดูอยู่
เมื่อวัดด้วยมาตรนี้ มันก็สมควรได้คะแนน 10/10
...................................
วินทร์ เลียววาริณ
15-7-25วินทร์ เลียววาริณ รวมบทรีวิวหนังจำนวนหลายร้อยเรื่องในหนังสือใหม่ บ้าหนัง 1-4 มีจำหน่ายในรูปอีบุ๊คที่เว็บไซต์ winbookclub.com และที่ MEB (คีย์คำว่า วินทร์ เลียววาริณ)
(มาตรการให้คะแนนของ วินทร์ เลียววาริณ : ความคิดสร้างสรรค์ + สาระ + ศิลปะการเล่าเรื่อง)
2 วันที่ผ่านมา -
ลูกน้องเก่าคนหนึ่งมาพบคุณบริสุทธิ์ เพื่อมอบบัตรเชิญพิธีมงคลสมรส
“ผมจะแต่งงาน”
คุณบริสุทธิ์ถอนใจยาว
“พี่ถอนใจทำไมครับ?”
“เหนื่อยใจว่ะ”
“พี่กลุ้มใจ’ไรหรือครับ?”
“กลุ้มใจแทนมึงว่ะ”
“พี่มีคำแนะนำอะไรมั้ยครับ?”
“ถ้าผมแนะนำว่าอย่าแต่ง คุณจะฟังหรือ?”
“ไม่ฟังครับ”
“นั่นน่ะซี”
“ชีวิตแต่งงานเลวร้ายขนาดนั้นเชียวหรือครับ?”
“ด้วยความหวังดี ผมจะแสดงให้คุณเห็นของจริงดีกว่า คุณจะได้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น”
หลังเลิกงาน ลูกน้องเก่าขับรถมารับคุณบริสุทธิ์กลับบ้าน
“บ้านพี่สวยครับ พี่นี่มีวาสนาจริง ๆ”
“ขอบใจ แต่เดี๋ยวคุณอาจอยากถอนคำพูด”
“ผมไม่เข้าใจครับ”
“เดี๋ยวก็เข้าใจเอง”
คุณบริสุทธิ์บอกภรรยา “ที่รัก ผมชวนเพื่อนมากินข้าวเย็น”
เสียงของหล่อนสูงปรี๊ดขึ้นมาทันที
“จะบ้าหรือ? ฉันไม่ชอบเซอร์ไพรซ์แบบนี้นะ ไม่ได้บอกล่วงหน้ามาก่อน ฉันไม่ได้เตรียมพร้อม ผมของฉันยังไม่ได้เซ็ท หน้าก็ยังไม่ได้แต่ง เสื้อผ้าก็ยังไม่ได้แต่ง บ้านก็รกไปหมด พื้นยังไม่กวาด แม่บ้านก็ไม่อยู่ อีกอย่างคุณก็รู้ว่าฉันไม่ชอบทำอาหารเลี้ยงใคร ทำไมจึงทำบ้า ๆ อย่างนี้? เพื่อนคุณไม่ใช่เพื่อนฉันนะ แย่จริง ๆ เลย คุณทำอย่างนี้กับฉันได้ยังไง? คุณเห็นฉันเป็นคนใช้หรือไง? นี่คุณไม่นึกถึงหัวจิตหัวใจของฉันบ้างเลยหรือ?...”
“ไม่ต้องทำอาหารหรอกจ้ะ เพื่อนของผมกำลังจะแต่งงาน ผมจึงพาเขามาดูชีวิตคู่ของจริงก่อนที่จะตัดสินใจแต่งงานจ้ะ”
วินทร์ เลียววาริณ
16-7-25.....................
เล่าใหม่จากขำขันที่ได้ยินมา รวมอยู่ในหนังสือนวนิยาย เรื่องรักของคุณบริสุทธิ์ฯ
(นวนิยายแนวใหม่ที่นำขำขันตลกๆ ระดับ ‘ขำกลิ้ง’ 400 เรื่องมายำเป็นนวนิยาย)
ค่าคลายเครียดแค่ 330 บาท เฉลี่ยขำละ 80 สตางค์ หนังสือหมดเมื่อไร จะไม่ตีพิมพ์ใหม่แล้วhttps://www.winbookclub.com/store/detail/188/เรื่องรักของคุณบริสุทธิ์กับนางสาวภุมรี%20ศจีรมย์%20สมถวิล%20จินตหรา%20พารัก%2520ปักเสน่ห์%20เรวดี%20ศรีสกาว
โปรโมชั่น https://www.winbookclub.com/store/detail/196/แพคเกจพิเศษ%203%20in%201
Shopee เดี่ยว https://s.shopee.co.th/1VjWGyXzed
https://s.shopee.co.th/9A8xPCjmLp
2 วันที่ผ่านมา