• วินทร์ เลียววาริณ
    1 วันที่ผ่านมา

    สมัยก่อนเวลาเถ้าแก่ไปสู่ขอลูกสาวให้หนุ่มไหน พ่อแม่หญิงสาวจะถามไถ่เรื่องรายได้ของชายหนุ่มคนนั้นว่า มีเงินพอจะเลี้ยงดูลูกเมียไหม ความสามารถในการหาเงินเป็นมาตรวัดทางอ้อมว่าลูกสาวจะมีความสุขในชีวิตคู่

    ความรักอย่างเดียวไม่ว่าจะดูดดื่มแค่ไหนก็ไม่พอ การกัดก้อนเกลือกินบั่นทอนความรักให้จืดจางได้ง่าย ๆ กิน ‘เกลือ’ บ่อย ๆ นอกจากไตจะพังแล้ว หัวใจพลอยไปไม่รอดด้วย เงินจึงเป็นมาตรวัด ‘ความสุข’ ไปโดยปริยาย

    เคยได้ยินผู้หญิงพูดกันเล่น ๆ ไหมว่า “ฉันรักผู้ชายดี หลงผู้ชายเลว ชอบผู้ชายห่าม แต่ขอแต่งงานกับผู้ชายรวย!”

    ในสเกลใหญ่ระดับประเทศ เราก็วัดความเจริญรุ่งเรืองของชาติที่รายได้เหมือนกัน มาตรนี้เรียกว่า GDP - Gross Domestic Product

    จีดีพี หรือ จ.ด.พ. วัดความสำเร็จและความเจริญของชาติด้วยตัวเลขความเติบโตทาเศรษฐกิจโดยคำนวณจากมูลค่าตลาดของสินค้าและบริการที่ประเทศหนึ่ง ๆ ผลิตขึ้น เราใช้ จ.ด.พ. วัดมาตรฐานการครองชีพของประชากรในประเทศนั้น ๆ

    ผู้นำประเทศต่าง ๆ มักบอกประชาชนให้เข้าใจโดยนัยว่า ค่า จ.ด.พ. ยิ่งสูง คุณภาพชีวิตยิ่งดี แต่ค่า จ.ด.พ. สูงไม่ได้มีความหมายอะไรนอกจากจะบอกว่าประเทศนั้นมีเงิน

    ปัญหาคือ จ.ด.พ. ไม่สนใจว่าผลผลิตนั้นใช้ทรัพยากรของชาติใด ไม่แคร์ว่ากระบวนการได้ตัวเลขสูง  ๆ ทำลายธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหรือไม่ มันไม่ได้วัดว่าธรรมชาติเสื่อมโทรมลงเท่าไร ส่งผลกระทบต่อโลกในด้านลบแค่ไหน เช่น ปลดปล่อยธาตุคาร์บอนสู่ชั้นบรรยากาศจนทำให้โลกร้อนมากน้อยเพียงใด หรือไก่ที่ยืนในกรงแคบ ๆ ตลอดชีวิตจะทนทุกข์ทรมานแค่ไหน

    จ.ด.พ. จึงเป็นเพียงค่าทางตัวเงิน ไม่ใช่ค่าทางจิตใจ ไม่ใช่ค่าคุณภาพชีวิต มันไม่อาจวัดได้ว่าคนมีความสุขหรือไม่

    เช่นเดียวกับระบบความเชื่อที่ผูกคำว่า ‘ศีลธรรม’ เข้ากับคำว่า ‘ศาสนา’ ระบบเศรษฐกิจก็ผูกคำว่า ‘รายได้’ เข้ากับคำว่า ‘ความสุข’ เราจึงได้ยินแต่คนพูดเรื่องเศรษฐกิจและการสร้างหนี้เพื่อ ‘ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ’ กู้แล้วกู้อีก ใช้หมดแล้วก็กู้ใหม่ ประเทศเราไม่เคยว่างเว้นจากหนี้สิน และกู้กันหนักมือขึ้น มีคนคำนวณว่า เราต้องใช้เวลาห้าสิบปีในการจ่ายหนี้ก้อนใหญ่ล่าสุดที่กู้มา

    ว่าก็ว่าเถอะ เหล่านี้เป็นหนี้สินที่พอชำระคืนได้

    แต่หนี้ที่สำคัญที่สุดซึ่งเราไม่มีปัญญาชดใช้คือความเสื่อมของธรรมชาติและความหมดสิ้นของทรัพยากร เราตัดป่าด้วยอัตราเร็วเหมือนว่าต้นไม้สามารถงอกคืนได้ภายในวันเดียว เราเอาของทุกอย่างมาจากธรรมชาติ ขุดน้ำมัน เหล็ก ทอง เพชร ฯลฯ แต่ไม่อาจชดใช้คืนให้ธรรมชาติ เพราะกระบวนการของธรรมชาติกินเวลานานกว่าอารยธรรมของมนุษยชาติ

    มันก็คือการขโมยทรัพยากรจากลูกหลานของเรานั่นเอง ทุกครั้งที่ตัดป่าทำลายธรรมชาติ เปลี่ยนสภาพดินฟ้าอากาศให้วิปริต โลกอนาคตของลูกหลานเราก็หดแคบลง ลูกหลานเราเป็นคนที่รับกรรมจากการแข่งกันสร้าง GDP ของเราในวันนี้

    และเมื่อน้ำมันหมดโลก ป่าเหี้ยนหายเมื่อไร จ.ด.พ. อาจย่อมาจาก ‘จนดีพี่’, ‘เจ๊งดีพี่’ และ ‘ เจ็บดีพี่’

    GDP โดยตัวมันเองไม่ใช่เรื่องดีหรือเรื่องร้าย มันเป็นแค่ตัวเลข เหมือนตัวเลขในบัญชีธนาคารของเรา ตัวเลขเหล่านี้ไม่มีความหมายอะไรเลยจนกระทั่งเราเชื่อว่าต้องมีตัวเลขสูง ๆ จึงจะมีความสุข

    เมื่อมองทุกอย่างเป็นตัวเงิน ก็ได้คำตอบแบบตัวเลข ดูเหมือนว่าเราพูดแต่เรื่องเศรษฐกิจ ไม่เคยพูดถึงเรื่องความสุขทางใจเลย

    คนที่มีรายได้สูงอาจสามารถจับจ่ายได้มากกว่า คล่องตัวกว่า แต่ไม่ได้แปลว่ามีความสุขมากกว่า

    หากมนุษยชาติต้องการจะเหลือโลกที่ลูกหลานเราพออยู่อาศัยได้อย่างมีความสุข และเหลือพื้นที่ให้สิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ด้วย เราอาจต้องคิดไปไกลกว่าแค่ประกวดตัวเลข GDP เหมือนกับที่เราใช้ตัวเลขประกวดสิ่งอื่น ๆ ทั้งหลาย ตั้งแต่สัดส่วนนางงาม, ‘ความใหญ่ที่สุดในโลก’

    บางทีเราควรหันไปแข่งขันตัวเลขของความสุขหรือ จ.ด.พ. หัวใจมากกว่า

    จ.ด.พ. =  จิตดีพี่

    จ.ด.พ. =  เจริญ(ทางใจ)ดีพี่

    จ.ด.พ. =  แจ่มดีพี่

    เพราะ จ.ด.พ. ทางเศรษฐกิจหรือจะสู้ จ.ด.พ.  ของความสุข

    วินทร์ เลียววาริณ
    22-5-25

    ....................
    บางท่อนจากหนังสือ รอยยิ้มใต้สายฝน
    35 บทความกำลังใจ หนังสือหมดเมื่อไร จะไม่ตีพิมพ์ใหม่แล้ว

    โปรโมชั่นทางแพ็คเกจทาง Shopee 
    https://shope.ee/AKD4JG1XZy?share_channel_code=6 

    0
    • 0 แชร์
    • 31

บทความล่าสุด