• วินทร์ เลียววาริณ
    1 วันที่ผ่านมา

    พรุ่งนี้ว่าจะหาเวลาไปดูหนังใหม่ 28 Years Later

    เป็นหนังเรื่องที่สามต่อจาก 28 Days Later และ 28 Weeks Later

    เรื่องแรกกับเรื่องสามเป็นงานของ Danny Boyle + บทของ Alex Garland

    เรื่องแรก 28 Days Later ดีมาก เรื่องที่สอง 28 Weeks Later ธรรมดา เพราะคนทำคนละทีม

    เรื่องที่สามใช้ทีมเดียวกับเรื่องแรก จึงต้องไปดู แล้วค่อยมารีวิว

    ตอนนี้อ่านรีวิว 28 Days Later ไปพลางก่อน

    ส่่วนหนังเรื่อง ซอมบี้ชายแดนเขมร ผมขอผ่านนะ

    ..............................

    [รีวิว 28 Days Later]

    หนังเกี่ยวกับซอมบี้ในโลกภาพยนตร์มีมากมายแทบนับไม่ถ้วน จนบางคนจัดซอมบี้เป็นหนังอีกตระกูลหนึ่งไปแล้ว มีความพยายามสร้างความแปลกใหม่ให้งานตระกูลนี้ ทั้งสายทริลเลอร์ สายโรแมนติก ไปจนถึงแนวตลก ฯลฯ

    ที่น่าสนใจ เช่น World War Z (2006) การหาต้นตอไวรัสซอมบี้

    Zombieland (2009) หนังซอมบี้แนวตลก

    Warm Bodies (2010) หนังซอมบี้แนว 'zombie romance'

    Kingdom (2019-2020) ซอมบี้สัญชาติเกาหลี เป็นนิยายประวัติศาสตร์พีเรียด เล่นกับประเด็นอำนาจทางการเมือง

    แต่หลายปีก่อนหน้านี้ มีหนังเรื่องหนึ่งที่เล่นประเด็นหลุดออกไปทุกราย นั่นคือ 28 Days Later

    28 Days Later เป็นงานกำกับของ Danny Boyle เขียนโดย Alex Garland สองคนนี้เคยร่วมงานกันมาก่อนใน The Beach (2000) ต่อด้วยเรื่องนี้ แล้วตามด้วย Sunshine ในปีเดียวกันนั่นเอง

    หลังจากนั้น Alex Garland ก็หันไปทำงานกำกับหนังดีหลายเรื่อง เช่น Ex Machina, Annihilation ส่วนใหญ่เป็นไซไฟ

    28 Days Later เปิดเรื่องดี เกิดเหตุบางอย่างที่ย้อนแย้งและขันขื่น เมื่อกลุ่มคนองค์กรพิทักษ์สิทธิ์ของสัตว์หวังดีไปปล่อยชิมแปนซีในห้องแล็บของมหาวิทยาลัย แต่กลับปลดปล่อยเชื้อไวรัสในลิงออกไปสู่โลกภายนอก ตามด้วยตัวละครเอกตื่นขึ้นมาจากโคมาเมื่อ 28 วันต่อมา แล้วพบความเปลี่ยนแปลงในโลกภายนอก สร้างความพิศวง ความสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น และพาผู้ชมไปผจญภัยตายดาบหน้าด้วยกัน

    ขณะที่หนังซอมบี้ทั่วไปเล่นกับความรุนแรงความน่ากลัวของซอมบี้ 28 Days Later กลับเล่นกับความน่ากลัวของคนด้วยกันเอง นี่เป็นจุดหักมุมของเรื่องตระกูลนี้

    จุดหักมุมนี้สร้างแรงสะเทือนอารมณ์ และเป็นจุดที่ยกระดับ 28 Days Later ขึ้นมาเป็นงานดีทันที

    ใน คหสต. รู้สึกว่าหนังช่วงต้นช้าไปนิด ขณะที่ช่วงท้ายเร็วไปหน่อย แต่โดยรวมมันเป็นหนังที่แรง คอนเส็ปต์ดี มุมมองน่าสนใจ และสดใหม่กว่าหนังซอมบี้จำนวนมาก

    เป็นหนังซอมบี้น้อยเรื่องมากที่ทำให้เราต้องขบคิดต่อหลังจากออกจากโรงหนังไปแล้ว เชื้อโรคอยู่ในโลกนี้มาหลายพันล้านปีแล้ว ขณะที่ โฮโม เซเปียนส์ เพิ่งปรากฏตัวบนโลกเมื่อสองแสนปีมานี้เอง แต่สามารถเปลี่ยนแปลงธรรมชาติทั้งโลก บางทีอาจเป็นคนนี่เองที่ก่อให้เกิดเชื้อซอมบี้

    แต่ที่สำคัญที่สุดคือ 28 Days Later ทำให้เราต้องมองเปรียบเทียบระหว่างซอมบี้กับคนว่าใครร้ายกว่ากัน

    บางทีสิ่งที่น่ากลัวที่สุดในโลกไม่ใช่เชื้อโรค แต่คือคนด้วยกันนี่เอง

    9.5/10

    วินทร์ เลียววาริณ
    18-6-25

    0
    • 0 แชร์
    • 10

บทความล่าสุด