• วินทร์ เลียววาริณ
    2 ปีที่ผ่านมา

    (ท่านสามารถคอมเมนต์เมื่อล็อคอินเข้าในระบบเว็บ โดยสมัครสมาชิก เพียงกรอกข้อมูลแค่ชื่อ อีเมลเท่านั้น)

    [เรื่องเกือบส่วนตัว ตอน 5]

    จุดตกต่ำ

    จุดตกต่ำของการเรียนเริ่มต้นเมื่อวันหนึ่ง ครูประจำชั้น ป. 5 บอกนักเรียนว่า “วันนี้จะครูพาไปรู้จักห้องสมุด”

    เพิ่งรู้ว่าโรงเรียนของเราก็มีห้องสมุด

    ครูให้เด็กทุกคนทำบัตรประจำตัวห้องสมุด เพื่อที่จะยืมหนังสือเมื่อไรก็ได้ ในวันแรกนั้น ผมก็ยืมหนังสือไปหนึ่งเล่ม เป็นนิทาน กลับถึงบ้านก็เริ่มอ่าน และติดใจรสอักษรทันที

    นับจากนั้นผมก็เป็นขาประจำห้องสมุดโรงเรียน ยืมหนังสือนิทานเรื่องอื่นๆ ต่อไป แล้วไล่อ่านหนังสือในห้องสมุด

    ครั้งหนึ่งผมยืมเรื่อง ของดีในอินเดีย ของหลวงวิจิตรวาทการมาอ่าน เพื่อนๆ เห็นเข้าก็พากันหัวเราะ

    ผมคงคบแต่เพื่อนทะลึ่ง

    ขึ้นชั้น ป. 6 ปีการศึกษา 2511 ผมอยู่ห้อง ก. ครูประจำชั้นชื่อนายเชื้อ สนธิกุล

    ปีนี้ผมหยุดเรียนถึง 21 วันจาก 460 วัน ในการสอบไล่ปลายปี ผมได้ที่ 6 คะแนน 88.10 เปอร์เซ็นต์

    ผมไม่เคยได้ที่ 1 อีกเลยในชีวิต

    ในชั้น ป. 6 นี่เอง เพื่อนคนหนึ่งชื่อ เอกดนัย ณ พัทลุง บอกผมว่า แถวสะพานลอย ก่อนถึงหาดใหญ่ใน มีห้องสมุดประชาชนอยู่ มีหนังสือเยอะ ผมสามารถไปยืมหนังสือจากที่นั่นได้

    ผมก็แวะไปที่ห้องสมุดประชาชนหาดใหญ่ เวลานั้นยังเป็นห้องซอมซ่อ เก่าๆ หนังสือกองเต็มไปหมด ล้วนเป็นหนังสือที่ผมไม่เคยพบเห็นมาก่อน จำนวนมากเป็นนวนิยายที่ผมไม่เคยอ่านมาก่อน จำนวนนิยายในห้องนี้มีมากกว่าในห้องสมุดโรงเรียนหลายเท่า

    ผมทำบัตรห้องสมุด แล้วยืมนวนิยายกลับบ้าน

    ผมเลิกอ่านนิทานเด็กตั้งแต่นั้น อ่านแต่นิยายของผู้ใหญ่ และมันเปลี่ยนชีวิตผมตั้งแต่นั้น

    นวนิยายชุดแรกๆ ที่อ่านเป็นงานของหลวงวิจิตรวาทการ อ่านแล้วจมตัวเองในอีกโลกหนึ่ง โลกที่ผมไม่เคยรู้ว่ามีอยู่ในจักรวาล

    ผมอ่านแบบบ้าคลั่ง เหมือนคนร่อนเร่กลางทะเลทรายแล้วพบน้ำกลางโอเอซิส

    โอเอซิสห้องสมุดประชาชนหาดใหญ่ให้ยืมหนังสือได้วันละสองเล่ม ปิดวันอาทิตย์ ผมก็ใช้สิทธินั้นเต็มที่เสมอมา

    ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ผมอ่านนิยายวันละสองเล่ม ความตั้งใจจะอ่านทั้งสองเล่มทำให้ผมฝึกการอ่านเร็วไปโดยปริยาย

    ผมทำการบ้านแบบผ่านๆ เรียนหนังสือพอให้เข้าใจ นอกเหนือจากนั้น ทุกลมหายใจคือนิยาย

    ห้องสมุดเก่าอยู่ที่ตรงนั้นไม่นานก็ถูกรื้อเพื่อสร้างใหม่ โชคดีที่ไม่ปิดบริการ ห้องสมุดย้ายไปที่ชั้นล่างสนามกีฬาหาดใหญ่ชั่วคราว ห่างจากบ้านของผมราวห้ากิโลเมตร ผมก็ขี่จักรยานบากบั่นไปถึง

    ผ่านไประยะหนึ่ง ห้องสมุดใหม่ก็สร้างเสร็จ สวยงาม ดูโอ่โถง  ผมขี่จักรยานไปห้องสมุดทุกวันที่เปิด การไปที่นั่นต้องปั่นจักรยานขึ้นสะพานข้ามทางรถไฟ ไม่ใช่เรื่องสนุกสำหรับเด็กขี้โรค ผอมแห้งแรงน้อย กว่าจะปั่นถึงบนสะพานก็หอบเหนื่อย แต่ก็ทำโดยไม่เกี่ยง ท้ายจักรยานหนีบหนังสือสองเล่มไปคืน และหนีบอีกสองเล่มใหม่มาอ่านต่อ ทำอย่างนี้ทุกวัน ยกเว้นวันอาทิตย์

    ผมไปห้องสมุดทุกวันไม่ว่าฝนตกแดดออก ฟ้าร้องฟ้าผ่า ขอเพียงแต่ประตูห้องสมุดไม่ถูกลั่นดาน บรรณารักษ์จะต้องเห็นหน้าเด็กคนนี้แน่นอน

    ผมอ่าน ผู้ชนะสิบทิศ ของยาขอบตอนอยู่ ป. 7 ฉากเซ็กซ์ในนิยายนี่อ่านตั้งแต่ก่อนขึ้นชั้นมัธยม

    แล้วผมก็เผลอไปอ่าน เพชรพระอุมา

    เพชรพระอุมา เป็นหนังสือที่ควรห้ามนักเรียนอ่านเด็ดขาด เพราะมันออกฤทธิ์แรงยิ่งกว่าเสพกัญชาร้อยต้นพร้อมกัน มันทำให้ไม่เป็นอันกินอันเรียน

    อ่านนิยายห้องสมุดวันละสองเล่มไม่พอ ผมหันไปยืนอ่านฟรีที่ร้านแพร่วิทยาอีก เจ้าของร้านหนังสือคงเขม่นหน้าเด็กคนนี้ แต่ก็ไม่ได้ตะเพิดออกจากร้าน (กราบขอบพระคุณย้อนหลัง ชาตินี้ไม่วันลืมบุญคุณ)

    ผมอ่านนิยายกวาดหมดห้องสมุด ตั้งแต่นวนิยายทั้งสั้นและยาวของหลวงวิจิตรวาทการ เช่น พานทองรองเลือด, กุหลาบเมาะลำเลิง, ห้วงรักเหวลึก ฯลฯ นวนิยายเดินป่า เช่น ล่องไพร ของ น้อย อินทนนท์ นิยายป่าของ ชาลี เอี่ยมกระสินธุ์ เพชรพระอุมา นิยายบู๊ของ พนมเทียน เศก ดุสิต ส. เนาวราช ฯลฯ

    ตามด้วยนิยายจีนกำลังภายใน ประเดิมด้วย อสูรจอมราชันย์ ซึ่งตอนแรกอ่านไม่รู้เรื่อง แต่ก็ไล่อ่านจนรู้เรื่อง ผาโลหิต มัจจุราชคะนอง บ้ออ้วงตอ กระบี่ดาวรุ่ง พญามารเงิน ฯลฯ ตามมาเป็นพรวน

    ผมอ่าน มังกรหยก ภาค 1 เล่มแรกหนาหนึ่งพันหน้าจบในคืนเดียว รุ่งขึ้นก็ไปยืมเล่ม 2 หนาพันหน้ามาอ่านต่ออย่างติดพัน เมื่ออ่านจบ ก็อ่านอีกรอบเพื่อให้ภูมิแน่น

    บางวันเมื่ออ่านนิยายไม่ทัน ผมก็ยัดหนังสือเริงรมย์ลงในกระเป๋านักเรียน ไปเปิดอ่านตอนครูสอน เพื่อนหลายคนมองผมตาค้าง ไอ้เด็กเวรนี่อ่านนิยายขณะที่ครูสอนวิชา ช่างกล้าจริงๆ! นึกไม่ออกจริงๆ ว่า หากครูจับได้จะเป็นอย่างไร

    วันหนึ่งบรรณารักษ์ถามผมเรียบๆ ว่า “นี่น้องไม่ต้องเรียนหนังสือหรือ?”

    ผมอึ้งไปครู่ใหญ่ ตาละห้อยเหมือนหมาที่ถูกเจ้าของดุ แต่ก็ตากหน้าไปยืมต่อ

    มาคิดดูตอนนี้ เหตุที่บรรณารักษ์ถามก็มีเหตุผล เพราะหากเราเป็นบรรณารักษ์ เห็นเด็กคนหนึ่งมายืมนิยายวันละสองเล่ม ย่อมเป็นห่วงว่าเด็กคนนั้นจะหมกมุ่นกับนิยายมากไปจนเสียการเรียน

    แล้วสิ่งที่บรรณารักษ์เป็นห่วงก็เกิดขึ้นจริง

    .........

    ครั้นขึ้น ป. 7 หายนะก็มาเยือน ผลกรรมตามสนองทันตาเห็น ผมสอบได้ที่ 25 ของชั้น ตกต่ำที่สุดในประวัติการเรียนของผม

    สำหรับคนเรียนแย่เสมอต้นเสมอปลาย อาจไม่เครียดนักเมื่อต้องยื่นสมุดพกให้พ่อแม่ แต่สำหรับคนที่เคยสอบได้ที่ 1 ต่อเนื่องกันสองปี คะแนนหล่นจากเลข 1 มาอยู่ที่เลข 25 ย่อมเป็นปรากฏการณ์พิสดารสะท้านปฐพี

    พ่อผมมองดูตัวเลข 25 บนสมุดพกอยู่นาน พ่อคงประหลาดใจ ผมก็ประหลาดใจ ไม่นึกเลยว่าชีวิตนี้จะสอบได้เลขสองตัว

    ครูประจำชั้น ป. 7 ก. ครูนิยม แสนทอง โรยเกลือบนบาดแผลซ้ำ โดยเขียนในสมุดพกว่า

    “รู้สึกว่าระดับการเรียนตกต่ำลงกว่าเดิม 
    ขอให้กระตือรือร้นเข้าให้มาก
    เห็นจะเล่นสนุกมากกว่าเรียน”

    ความรู้สึกตอนนั้นคือละอายใจ เหมือนขี้เมาถูกน้ำสาด

    จ๋อยแดก! แล้วตื่นเลย

    (ยังมีต่อ)

    31
    • 4 แชร์
    • 1273
    วว
    อ่านเพลินคับ อยากกลับไปอ่านนิยายอีก อารมณ์ที่จมไปกับตัวอักษรหายไปนานมากแล้ว
    ดูความเห็น 10 รายการ ...

บทความล่าสุด