-
วินทร์ เลียววาริณ1 ปีที่ผ่านมา
เมื่อคืนนี้ศาลโลกออกคำสั่งให้ประเทศอิสราเอล 'หลีกเลี่ยง' การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ และมันก็เข้ากับวันนี้พอดี เพราะทุกวันที่ 27 มกราคมของทุกปี เป็นวันรำลึกถึงเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวสากล (The International Holocaust Remembrance Day) ไว้อาลัยให้ชาวยิวที่ถูกนาซีฆ่าในสงครามโลกครั้งที่สอง
ชาวยิวเกลียดนาซี เพราะถูกฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ไปหกล้านคน จึงน่าจะเข้าใจเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น ณ ดินแดนปาเลสไตน์ได้ดีที่สุด
ก็หวังว่า The International Holocaust Remembrance Day 2024 จะเตือนให้ทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากัน
มิใช่ชาวยิวทุกคนอยากทำลายล้างปาเลสไตน์ และเช่นกัน ไม่ใช่นาซีทุกคนเลวร้ายอยากฆ่ายิว ในบรรดาฝูงอีกาดำ ก็มีอีกาขาวปะปนอยู่
อีกาขาวคนหนึ่งชื่อ ออสการ์ ชินด์เลอร์ เป็นสมาชิกพรรคนาซี ช่วยชีวิตชาวยิวไว้ราว 1,200 คน
วันนี้จะเล่าถึงอีกาขาวนาซีอีกคนหนึ่งชื่อ จอห์น ราเบ เมื่อต้นเดือนนี้เป็นวันครบรอบวันตายของเขา (5 มกราคม 1950) จอห์น ราเบ เป็นชาวเยอรมัน เป็นผู้นำพรรคนาซีในนานกิง
ราเบเป็นอีกาจริงๆ เพราะ Rabe แปลว่าอีกา
ในปี 1908 อายุยี่สิบหก จอห์น ราเบ บินไปถึงเมืองจีน ทำงานในตำแหน่งระดับล่างที่บริษัทซีเมนส์จีน งานของเขาทำให้ต้องเดินทางไปเมืองต่าง ๆ ในจีน มุกเดน (เสิ่นหยาง) เทียนจิน ปักกิ่ง นานกิง
ตำแหน่งของเขาคือผู้จัดการทั่วไปในนานกิง (เมืองหลวงของจีนในเวลานั้น) ดูแลสถานีไฟฟ้าของเมือง โดยใช้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าของซีเมนส์
บริษัทของเขาทำงานใหญ่หลายโครงการให้รัฐบาลจีน ดูแลระบบไฟฟ้านานกิง ระบบชุมสายโทรศัพท์ในกระทรวงต่าง ๆ ระบบสัญญาณเตือนภัยในสถานีตำรวจและธนาคารทั้งหลาย ไปจนถึงเครื่องเอกซเรย์ในโรงพยาบาลกลาง นอกจากนี้ซีเมนส์ยังขายโทรศัพท์และอุปกรณ์ไฟฟ้า
ราเบกลายเป็นเสาหลักของชุมชุนชาวเยอรมันในนานกิง เขาเปิดโรงเรียนชั้นประถมและมัธยมต้นสำหรับนักเรียนชาวเยอรมัน
วันที่ 3 สิงหาคม 1937 ญี่ปุ่นบุกเซี่ยงไฮ้ ทัพเจียงไคเช็กสู้สุดฤทธิ์ แต่ไม่สำเร็จ เซี่ยงไฮ้แตกในวันที่ 26 พฤศจิกายน สูญเสียชีวิตหลายแสนคน
เมืองต่อไปที่ญี่ปุ่นจะยึดคือนานกิง ญี่ปุ่นทิ้งระเบิดทางอากาศต่อเนื่อง คนต่างชาติพากันออกจากเมืองจีน คนจีนที่มีฐานะดีก็หนีเช่นกัน
ชาวตะวันตกในนานกิงหนีออกนอกเมืองหมด ในที่สุดก็เหลือแต่ จอห์น ราเบ เขาเลือกที่จะอยู่ต่อ เมืองจีนเป็นบ้านของเขา
เขามองเห็นว่านานกิงจะแตกแน่ จึงร่วมกับคนจำนวนหนึ่งก่อตั้งเขตปลอดภัยหลายแห่งในนานกิง เป็นที่พักพิงของคนจีน เพื่อไม่ให้ถูกทหารญี่ปุ่นฆ่า เขตปลอดภัยหลายแห่งตั้งบนพื้นที่ของสถานทูตต่าง ๆ และมหาวิทยาลัยนานกิง ให้ที่พักและอาหารแก่ชาวจีน
เขารู้ว่าสถานะนาซีของเขาอาจช่วยเจรจาเพื่อลดความสูญเสียชีวิตได้มากขึ้น เพราะญี่ปุ่นเป็นพันธมิตรกับนาซี
รัฐบาลญี่ปุ่นตกลงไม่บุกรุกเขตปลอดภัยนานาชาติเหล่านี้ โดยมีข้อแม้ว่าต้องไม่มีทหารจีนประจำอยู่
จอห์น ราเบ รู้จักพวกทูตญี่ปุ่นในนานกิง ซึ่งแนะนำให้เขาเดินทางออกไปเพื่อความปลอดภัย ทหารญี่ปุ่นคนหนึ่งถามเขา “คุณจะอยู่ต่อไปทำไม? คุณจะเกี่ยวข้องกับกิจการการทหารของเราทำไม? มันสำคัญกับคุณยังไง? คุณไม่มีอะไรต้องสูญเสียที่นี่”
เขาตอบว่า “ผมอยู่ในจีนมาสามสิบปี ลูกหลานผมเกิดที่นี่ ผมมีความสุขที่นี่ ผมประสบความสำเร็จที่นี่ คนจีนดูแลผมดี แม้แต่ในช่วงสงคราม ถ้าผมอยู่ที่ญี่ปุ่นสามสิบปี และคนญี่ปุ่นดูแลผมอย่างดี คุณก็แน่ใจได้ว่าในช่วงสถานการณ์ฉุกเฉิน เหมือนตอนนี้ในจีน ผมก็ไม่มีทางทิ้งคนญี่ปุ่นเหมือนกัน”
นายพันญี่ปุ่นพอใจคำตอบนั้น และโค้งคำนับ จอห์น ราเบ อย่างนอบน้อม เพราะมันเป็นวิถีลูกผู้ชาย เหมือนหลักซามูไร
อีกเหตุผลที่เขาไม่ไปจากเมืองจีน เพราะเชื่อว่าหากไปแล้ว ลูกจ้างบริษัทซีเมนส์ทั้งหมดจะถูกญี่ปุ่นฆ่าตาย อีกประการหนึ่ง คนเหล่านี้ยังมีหน้าที่ดูแลโรงไฟฟ้านานกิง ชุมสายโทรศัพท์ เพื่อให้นานกิงหายใจได้ต่อไป
เขาใช้บ้านและสำนักงานเป็นที่ซ่อนตัวของลูกจ้างและครอบครัวรวมทั้งชาวบ้านอื่น ๆ ที่หนีตายมาอยู่ด้วย มากที่สุดเท่าที่พื้นที่อำนวย
...........
ค่ำวันที่ 12 ธันวาคม 1937 ท้องฟ้าสว่างด้วยแสงเพลิง ญี่ปุ่นโจมตีนานกิงอย่างหนัก ทั้งเมืองจมในเปลวไฟ ชาวบ้านจำนวนมากมาออกันแน่นขนัดที่ประตูรั้วหน้าเขตปลอดภัย ทุกคนรู้ว่าเมืองกำลังแตก จึงมาขอหลบภัย แต่พื้นที่เขตปลอดภัยแน่นขนัดอยู่แล้ว
จอห์น ราเบ สั่งเปิดประตูรั้ว ชาวนานกิงห้าหมื่นคนยัดเข้าไปในพื้นที่เขตปลอดภัย 2.5 ตารางไมล์ กระจายไปทุกจุดของพื้นที่จนไม่มีที่ว่าง สนามหญ้า ทางเดิน นอนบนพื้น ทุกจุดที่พอเบียดเข้าไปได้ วันต่อมานานกิงก็แตก
จอห์น ราเบ สำรวจตัวเมืองนานกิง พบเห็นแต่ศพชาวจีนที่ถูกญี่ปุ่นสังหาร ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน
เมื่อยึดนานกิง ทหารญี่ปุ่นบุกเข้าค้นบ้านเรือนทีละหลัง ยิงพลเรือนทิ้งอย่างเหี้ยมโหด
จอห์น ราเบ สั่งให้ติดธงนาซีผืนใหญ่ เห็นเด่นชัดแต่ไกล ตราสวัสดิกะที่นาซีนำไปใช้ในทางชั่วร้ายกลายเป็นยันต์คุ้มกันชีวิต
ช่วงหลายวันต่อมา ทหารญี่ปุ่นฆ่า ข่มขืน ฆ่าหมดทั้งชาวบ้าน ทหาร ตำรวจ ญี่ปุ่นฆ่าคนจีนไปราวสามแสนคน ทั้งผู้ใหญ่และเด็ก มีการแข่งขันกันว่าใครฆ่าคนจีนได้มากกว่า
บ้านเมืองถูกเผา คนถูกฆ่า ผู้หญิงถูกข่มขืน มันคือนรกบนดิน บางวันทหารญี่ปุ่นข่มขืนผู้หญิงพันกว่าคน ทั้งหมดเป็นเด็กนักเรียนหญิงในโรงเรียนของพวกมิชชันนารีแห่งหนึ่ง มีการประเมินว่า ทหารญี่ปุ่นน่าจะข่มขืนผู้หญิงจีนไม่น้อยกว่าสองหมื่นคน
จอห์น ราเบ รู้สึกว่าต้องทำบางอย่างมากกว่าแค่เฝ้าดู จึงขับรถตระเวณเมืองนานกิง ป้องกันไม่ให้เกิดเรื่อง หยุดยั้งการข่มขืนและการฆ่า
บางวันเขาก็ขับรถพาผู้หญิงที่ถูกข่มขืนหมู่และถูกทำร้ายสาหัสไปโรงพยาบาล บางวันเขาไล่ทหารญี่ปุ่นที่กำลังหาเหยื่อข่มขืนไป บางครั้งก็กระชากร่างทหารที่กำลังข่มขืนออกมา
จอห์น ราเบ โทรเลขรายงานส่งไปให้ฮิตเลอร์ เรื่องทหารญี่ปุ่นปล้น ฆ่า ข่มขืนชาวเมืองนานกิง และโทรเลขหาเพื่อนที่มีเส้นสายถึงระดับบนให้ช่วยโน้มน้าวใจฮิตเลอร์ นอกจากนี้ยังเขียนจดหมายบอกรัฐบาลญี่ปุ่นด้วย แต่ไม่ได้ผล การเข่นฆ่าดำเนินต่อไป
จอห์น ราเบ สั่งให้ผู้หญิงหลายร้อยคนมาหลบภัยเตรียมการเตือนภัยจากการข่มขืน ถ้าทหารญี่ปุ่นบุกเข้ามาหมายข่มขืน ให้เป่านกหวีด เขาก็ออกมาไล่ทหารญี่ปุ่นไป มันเกิดขึ้นบ่อยจนเขาแทบไม่ได้หลับไม่ได้นอน
คืนหนึ่งทหารญี่ปุ่นบุกเข้ามาในเขตบ้านของเขา จอห์น ราเบ ส่องไฟฉายใส่หน้าทหารญี่ปุ่น คนหนึ่งชักปืนขึ้นมาจะยิงเขา แต่เมื่อเห็นปลอกแขนติดตราสวัสดิกะ ก็หยุดชะงัก และถอยไป
เมื่อเกิดการเผชิญหน้า จอห์น ราเบ จะชี้ไปที่ปลอกแขนพิมพ์ตราสวัสดิกะ ขู่ทหารญี่ปุ่นว่า “เฮ้ย! มึงรู้ไหมว่านี่คืออะไร?” มันใช้ได้ผล
ทหารญี่ปุ่นไม่กล้ายุ่งกับพวกนาซี เนื่องจากเป็นพันธมิตรสงครามกัน การทำร้ายหรือฆ่านาซีอาจทำให้เบื้องบนลงโทษสถานหนัก
ชาวจีนเห็นเขาเป็นดังเทพเจ้าผู้มาโปรด ผู้หญิงหลายคนตั้งท้องเมื่อเข้ามาในเขต และคลอดลูก หากเป็นลูกชาย มักได้ชื่อ จอห์น ลูกสาวได้รับชื่อ ดอรา ตามชื่อภรรยาของเขา
นาซีเป็นกลุ่มคนที่เลวร้ายที่สุดกลุ่มหนึ่งในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ แต่นาซี จอห์น ราเบ กลับนำสัญลักษณ์นี้มาใช้ช่วยชีวิตคน
เอกสารทางการของนานกิงในเวลาต่อมาบ่งว่าเขาช่วยชีวิตพลเรือนชาวจีนราว 200,000 - 250,000 คน ชาวจีนยกย่องนาซีคนนี้เป็นพระโพธิสัตว์ยุคใหม่
อีกาทำงานกับบริษัทซีเมนส์ต่อจนสิ้นสงครามโลก ปลายสงครามฝั่งยุโรป โซเวียตบุกเข้าเบอร์ลิน ฮิตเลอร์ฆ่าตัวตาย จอห์น ราเบ ถูกโซเวียตจับ ต่อมาถูกส่งไปให้พวกอังกฤษ หลังจากสอบสวนอย่างหนัก อีกาก็เป็นอิสระในสภาพสิ้นเนื้อประดาตัว
เมื่อไม่มีงานทำ ก็ไม่มีเงินเลี้ยงครอบครัว จอห์น ราเบ ใช้เงินเก็บจนหมด เขากับครอบครัวอยู่ในอพาร์ตเมนต์ห้องเดียว กินอาหารไม่พอจนเป็นโรคขาดอาหาร ครอบครัวอด ๆอยาก ๆ
ในปี 1948 ข่าวความยากลำบากของ จอห์น ราเบ เดินทางไปถึงหูชาวนานกิง จึงพากันเรี่ยไรเงินให้เขาสองพันเหรียญสหรัฐฯ นายกเทศมนตรีนานกิงเดินทางไปพบเขาที่เยอรมนี มอบอาหารให้ครอบครัวเขา ทุกเดือนชาวนานกิงตอบแทนบุญคุณโดยส่งอาหารให้เขา จนกระทั่งเขาตายในวันที่ 5 มกราคม 1950
สี่สิบเจ็ดปีต่อมา ป้ายหลุมศพของเขาถูกย้ายจากเบอร์ลินไปตั้งที่นานกิง เป็นอนุสรณ์สถานซึ่งชาวนานกิงไม่มีวันลืม
อีกาบินข้ามโลกกลับไป ณ สถานที่ที่มีคนมากมายรักเขา และไม่เคยลืมสิ่งที่เขาทำ
............
ย่อความจากหนังสือ วีรบุรุษที่เราลืม วันนี้ยังมีโปรโมชั่นคุ้มที่สุด ชุด S1 ประวัติศาสตร์ที่เราลืม 5 เล่ม + วีรบุรุษที่เราลืม รวม 6 เล่ม ราคาปก 1,605.- เหลือเพียง 1,000 บาท ทุกเล่มมีลายเซ็นนักเขียน สั่งได้ที่เว็บ winbookclub.com หรือ Shopee (ค้นคำ namol113)
0- แชร์
- 81
-
คอมพิวเตอร์บอกผมว่า วันนี้ผมอยู่ในโลกนี้เป็นวันที่ 25,296
ตามแนวเซน เมื่อคืนนี้เป็น 'การตาย' ครั้งที่ 25,295
และวันนี้เป็นวันเกิดครั้งที่ 25,296
โชคดีที่ได้มองดูโลกอีกครั้ง
สำหรับคนทั่วไป ใช้ชีวิตมาสองหมื่นกว่าวัน ถือว่าไม่น้อย
สองหมื่นกว่าวันทำอะไรได้มากมาย
นานๆ ทีเราก็ควรถามตัวเองว่าเราอยู่มานานเท่าไร เรามีความสุขไหม ถ้าไม่ ทำไมจึงไม่มีความสุข
นานๆ ทีเราก็ควรถามตัวเองว่าเราอยู่มานานเท่าไร ทำอะไรมาบ้าง และจะทำอะไร ถ้าไม่เคยทำอะไรดีๆ เลย ก็น่าจะใช้โอกาสนี้บอกตัวเองว่า ทำอะไรสักหน่อยดีไหม
Today is the first day of the rest of your life.
สุขสันต์วันเกิดครับ
เริ่มต้นวันเกิดใหม่ด้วยรอยยิ้มดีไหม?
วินทร์ เลียววาริณ
วันเกิดครั้งที่ 25,296.......................
เว็บไซต์ที่คำนวณอายุเป็นจำนวนวัน
https://jalu.ch/coding/days/en0 วันที่ผ่านมา -
ข่าวที่จะเล่าต่อไปนี้ไม่ค่อยเผยแพร่ในวงกว้างเท่าไร คือข่าวอิหร่านโจมตีฐานทัพอเมริกันในกาตาร์
หลังจากทรัมป์ทิ้งระเบิดหลายลูกใส่ 'ฐานนิวเคลียร์' ที่อิหร่าน อิหร่านก็ยิงขีปนาวุธหกลูกใส่ฐานทัพอเมริกันที่ Al-Udeid กาตาร์เพื่อสั่งสอน ให้รู้ว่าไผเป็นไผ
ก่อนยิงก็แจ้งฝ่ายสหรัฐฯว่า "กูจะยิงแล้วนะ"
ดังนั้นสหรัฐฯก็ถอนคนออกไปทัน
จึงถือว่านี่เป็นการตอบโต้เชิงสัญลักษณ์
ที่ตลกก็คือทรัมป์ยังออกมาขอบคุณอิหร่านที่เตือนก่อน!
หลังจากนั้นก็ประกาศว่าสองฝ่ายตกลงยุติการตบตีกันแล้ว
ชาวโลกก็มีอาการงงว่าเกิดอะไรขึ้น นี่มันละครหรือเปล่า เพราะพล็อตเรื่องนี้มันแปลกๆ
ผมก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เดี๋ยวจะไปถามท่านรัฐมนตรีรักชาติ เชื่อมั่นว่าท่านน่าจะรู้ เพราะผลตรวจ MRI สมองท่านน่าจะผิด
ราตรีสวัสดิ์
วินทร์ เลียววาริณ
24-6-251 วันที่ผ่านมา -
(ความจริงดูหนังและรีวิวเรื่องนี้มาตั้งแต่วันแรกที่ฉาย แต่มัวติดพันเรื่องการเมืองโลกอยู่หลายวัน ค่อยมานำลงวันนี้)
28 Years Later เป็นเรื่องที่สามต่อจาก 28 Days Later และ 28 Weeks Later
และเป็นภาคต้นของ 28 Years Later ตอนต่อไป (ฉายต้นปีหน้า)
นี่เป็นงานเขียนบทของ Alex Garland คนทำหนังไซไฟดีๆ หลายเรื่อง เช่น Ex Machina, Annihilation ไปจนถึงเรื่องล่าสุดที่เราดูคือ Civil War
ทั้งสามเรื่องนี้ดี ดังนั้นคอหนังจึงมีความคาดหวังพอสมควรสำหรับ 28 Years Later
และจะว่าไปแล้ว ก็ไม่ผิดหวัง
ไม่ผิดหวังกับความแปลกใหม่นะครับ ไม่ได้บอกว่านี่เป็นหนังดีเลิศเมื่อเทียบกับ 28 Days Later หรือ Ex Machina
เหตุที่ว่าแปลกใหม่ก็เพราะ 28 Years Later ตอน 1 พาหนังซอมบี้เข้าไปในพื้นที่ของปรัชญา และเสนอมุมมองอื่นที่น่าขบคิด เช่น การเกิดและการตาย ฯลฯ ทำให้มันดูเหมือนหลุดจากหนังซอมบี้ทั่วไป
แกนของเรื่องมีส่วนคล้ายการเดินเรื่อง Civil War คือเป็นการเดินทางของตัวละครหลัก พบเหตุการณ์ต่างๆ
หนังมีความตื่นเต้นเป็นระยะ ภาพน่าสนใจ (ความแปลกใหม่อีกอย่างหนึ่งคือเป็นหนังที่ถ่ายด้วย iPhone) แต่จุดเด่นที่สุดน่าจะเป็นการเปลี่ยนหนังซอมบี้เป็นหนังกึ่งปรัชญา
หนังมีความ morbid (สยดสยอง ชวนแหวะ) มากกว่าหนังซอมบี้ทุกเรื่องที่ดูมา หนังรุนแรงมาก ใครไม่ชอบจุดนี้ ก็คงต้องหลับตา หรือข้ามเรื่องนี้ไป แต่ถ้าเคยชินกับภาพการเกาะตำแหน่งของรัฐมนตรีบ้านเราซึ่งชวนแหวะมากกว่าหลายเท่า ก็คงดูหนังเรื่องนี้ได้สบาย
8/10
ฉายในโรงภาพยนตร์วินทร์ เลียววาริณ
24-6-25วินทร์ เลียววาริณ รวมบทรีวิวหนังจำนวนหลายร้อยเรื่องในหนังสือใหม่ บ้าหนัง 1-4 มีจำหน่ายในรูปอีบุ๊คที่เว็บไซต์ winbookclub.com และที่ MEB (คีย์คำว่า วินทร์ เลียววาริณ)
(มาตรการให้คะแนนของ วินทร์ เลียววาริณ : ความคิดสร้างสรรค์ + สาระ + ศิลปะการเล่าเรื่อง)
1 วันที่ผ่านมา -
จากโพสต์ก่อน บางคนถามว่า สหรัฐฯเคยก่อรัฐประหารในไทยบ้างไหม
คำตอบคือ โดยตรงๆ ยังไม่ชัด ตัวอย่างที่เห็นชัดที่สุดน่าจะเป็นกรณีจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์
จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ก่อรัฐประหารยึดอำนาจจากจอมพล ป. พิบูลสงคราม แต่ติดเรื่องสุขภาพและภาพลักษณ์ จึงให้คนอื่นเป็นนายกฯขัดตาทัพก่อน
เช้าตรู่ ๐๗.๓๕ น. ปลายเดือนมกราคม พ.ศ. ๒๕๐๑ จอมพลสฤษดิ์บินจากประเทศไทยไปสหรัฐอเมริกา
หัวหน้าคณะปฏิวัติเดินทางไปถึงกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. วันที่ ๒๗ มกราคม เป็นการเยือนอย่างไม่เป็นทางการ เหตุผลเพื่อเข้ารับการผ่าตัดม้ามที่โรงพยาบาล Walter Reed Army Medical Center
การเดินทางเที่ยวนี้ นอกจากการรักษาสุขภาพ ยังเป็นการเข้าพบผู้นำและรัฐมนตรีสหรัฐฯหลายคน เช่น ประธานาธิบดีไอเซนฮาวร์ (Dwight D. Eisenhower) นีล แมคเอลรอย (Neil H. McElroy) รัฐมนตรีกลาโหม จอห์น ฟอสเตอร์ ดัลเลส (John Foster Dulles) รัฐมนตรีต่างประเทศฝ่ายสหรัฐฯคุยเรื่องความช่วยเหลือด้านการทหาร การพัฒนาเศรษฐกิจแก่ไทยและแผนต่อต้านคอมมิวนิสต์
สหรัฐฯจ่ายค่ารักษาจอมพลสฤษดิ์ทั้งหมด และยังมอบเงินช่วยเหลือไทยจำนวนมาก
มีทฤษฎีว่าสหรัฐฯไม่ปลื้มกับจอมพล ป. และหนุนหลังจอมพลสฤษดิ์ แต่ไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าสหรัฐฯเกี่ยวข้องโดยตรง
แต่การที่จอมพลสฤษดิ์สามารถเข้าพบประธานาธิบดีไอเซนฮาวร์ได้ ก็บอกอะไรหลายอย่าง ชิมิ?
วินทร์ เลียววาริณ
24-6-25....................
อ่านรายละเอียดการยึดอำนาจของจอมพลสฤษดิ์ได้จากชุด ประวัติศาสตร์ที่เราลืม
1 วันที่ผ่านมา -
เช้านี้ตื่นขึ้นมาเห็นข่าวทรัมป์ประกาศว่า สงครามอิสราเอล-อิหร่านจบแล้วนะ ก็คอยดูกันต่อไป เพราะที่ถูกน่าจะเรียกว่าสงครามสหรัฐฯ-อิหร่าน
สิ่งหนึ่งที่ชาวโลกจำนวนมากไม่รู้คือ ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ-อิหร่านเริ่มมานานก่อนเหตุการณ์อิหร่านจับชาวเมริกัน 66 คนเป็นตัวประกันในปี 1979 (ถูกสร้างเป็นหนังเรื่อง Argo)
หลายคนไม่รู้ว่าเหตุการณ์ปี 1979 มีรากมาจากเหตุการณ์ปี 1953 คือรัฐประหารในอิหร่านในปี 1953 โดยสหรัฐฯและอังกฤษ
ฟังไม่ผิดหรอกครับ คนทำรัฐประหารคือ CIA + MI6
เหตุการณ์นี้ก็ถูกสร้างเป็นหนังสารคดีชื่อ Coup 53
แม้เป็นหนังสารคดี แต่มีการแสดงบางส่วน เล่นโดย Ralph Fiennes หนังได้รับรางวัลมากมาย และเช่นเคย หนังแบบนี้ไม่เข้าบ้านเรา
เอาละ คำถามคือเกิดอะไรขึ้น?
ตอบสั้นๆ คือน้ำมัน
ความวุ่นวายในตะวันออกกลางมาจากน้ำมัน ถ้าตะวันออกกลางไม่มีน้ำมัน อเมริกัน อังกฤษก็ไม่เข้าไปให้เมื่อย
ตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 20 อังกฤษไปกอบโกยน้ำมันจากอิหร่านจำนวนมหาศาล ก่อตั้งบริษัท BP Oil หรือ British Petroleum
ปัญหาเกิดขึ้นเมื่อนายกฯอิหร่าน Mohammad Mosaddegh ต้องการให้น้ำมันเป็นผลประโยชน์ของคนทั้งชาติ (nationalist policies)
อังกฤษเห็นว่าหาก Mohammad Mosaddegh ทำให้น้ำมันเป็นของชาติอย่างเดียวได้สำเร็จ จะเป็นตัวอย่างที่ทำให้ชาติที่มีน้ำมันอื่นๆ ทำตาม เช่น คูเวต ซาอุดิอาระเบีย อินโดนีเซีย ฯลฯ จะคุมประเทศอื่นได้ยาก ยอมไม่ได้เด็ดขาด
ยอมไม่ได้ก็ต้องล้มรัฐบาล
อังกฤษเข้าหาสหรัฐฯ ขอให้ช่วยที ตอนนั้นเป็นยุคของทรูแมน (คนสั่งทิ้งระเบิดที่ฮิโรชิมาและนางาซากิ) ทรูแมนลังเล พอนายพล ดไวต์ ดี. ไอเซนฮาวร์ ขึ้นมาเป็นประธานาธิบดี ก็ตกลง อนุญาตให้ดำเนินการ ส่งซีไอเอไปทำงานร่วมกับ MI6 ชื่อปฏิบัติการ Operation Ajax
ซีไอเอที่ส่งไปเป็นหลานประธานาธิบดีรูสเวลต์ ชื่อ Kermit Roosevelt Jr.
Kermit Roosevelt ไม่รู้เรื่องอิหร่านใดๆ ทั้งสิ้น แต่รับเครดิตไปเต็มๆ ส่วนคนทำงานจริงๆ คือ MI6 เป็นคนอังกฤษที่โตที่ตะวันออกกลาง ชื่อ Norman Darbyshire (ในหนังสารคดีเรื่อง Coup 53 แสดงโดย Ralph Fiennes)
การก่อรัฐประหารครั้งนี้ สหรัฐและอังกฤษว่าจ้างนักเดินขบวน ใช้ลูกเล่น กลอุบายทุกชนิด สร้างสถานการณ์ว่าพวกคอมมิวนิสต์กำลังจะมา เกิดความรุนแรง มีคนตาย
รัฐประหารสำเร็จ สหรัฐฯให้ชาห์ขึ้นมามีอำนาจ
จะเห็นว่าประชาธิปไตยในอิหร่านหายไปได้อย่างไร เพราะใคร และเพราะอะไร
หลังจากปฏิบัติการครั้งนี้สำเร็จ อเมริกันก็ช่วยก่อรัฐประหารอีกหลายประเทศ เช่น กัวเตมาลา (1954) ชิลี (1973) เวียดนาม (นายพลเวียดนามใต้ทุกคนที่จะก่อรัฐประหารต้องขออนุญาตวอชิงตันก่อน) ฯลฯ บางครั้งก็ไม่สำเร็จ เช่น ปฏิบัติการ Bay of Pigs โดย จอห์น เอฟ เคนเนดี
ใช่ เจ้าพ่อรัฐประหารตัวจริงก็คือพี่เบิ้มของเรานี่เอง
อุดมคติทางการเมืองเป็นแค่ภาพมายา ทุกอย่างอยู่ที่ผลประโยชน์ ทุกอย่างเป็นธุรกิจการเมือง
วินทร์ เลียววาริณ
24-6-251 วันที่ผ่านมา