-
วินทร์ เลียววาริณ4 วันที่ผ่านมา
-1-
รีนาเป็นเด็กสาวชาวฟิลิปปินส์ วัยยี่สิบเศษ ไปทำงานเป็นแม่บ้านที่ประเทศสิงคโปร์ ครอบครัวที่เธอทำงานมีสามชีวิต พ่อ แม่ กับลูกสาววัยสองขวบ นายจ้างเธอทำงานค้าขาย นายสาวเป็นคนขายประกัน
ที่อยู่ของพวกเขาเป็นอพาร์ตเมนต์ขนาดสามห้องนอน เจ้านายนอนกับเด็กที่ห้องหนึ่ง แต่บ่อยครั้งนายผู้ชายก็ย้ายไปนอนอีกห้องหนึ่งเพราะเสียงร้องของเด็กรบกวนเขา ส่วนเธอนอนในห้องนอนเล็ก
รีนาดูแลเด็กหญิงที่กำลังน่ารัก เธอรักเด็ก เธอมีลูกสาวคนหนึ่งที่ฟิลิปปินส์เช่นกัน แต่ต้องจากลูกมาทำงาน เธอแยกทางกับพ่อของเด็ก หรือที่ถูกคือเขาจากเธอไปทันทีที่เธอตั้งครรภ์
รีนาหยุดทุกวันอาทิตย์ มักไปขลุกกับเพื่อนคนงานชาวฟิลิปปินส์ที่ศูนย์การค้าแห่งหนึ่งย่านออร์ชาร์ด
คืนหนึ่งขณะที่กำลังหลับ เธอสัมผัสร่างหนึ่งมาประชิด เธอดิ้นและจะร้อง แต่ถูกฝ่ามือปิดปาก เธอรู้ว่าเป็นนายจ้างชาย เธอสัมผัสการล่วงล้ำของเขา หลังจากนั้นเขาวางธนบัตรใบละ 100 เหรียญบนโต๊ะหัวนอน
เธอไม่ได้บอกใคร เธอต้องการงานที่นี่ เธอมีภาระต้องส่งเงินกลับบ้าน
เหตุการณ์เดิมเกิดขึ้นอีกหลายครั้ง ทุกครั้งเขาวางเงิน 100 ดอลลาร์บนโต๊ะ รีนาเริ่มยอมรับชะตากรรมของเธอ
วันหนึ่งหลังจากกลับจากจ่ายตลาด รีนาเห็นนายสาวกำลังรอเธออยู่ที่ห้องของเธอ ชูเงินเหล่านั้น ถามว่าเธอได้เงินมาจากไหน รีนาไม่ตอบ เธอไม่อยากบอกความจริง เพราะครอบครัวนี้จะแตกสลาย เธอรักเด็กหญิง เธอไม่อยากให้เด็กโตมาโดยพ่อแม่แยกกัน
นายจ้างสาวเชื่อว่ารีนาขโมยเงิน จึงยกเลิกสัญญาว่าจ้างในวันนั้นเอง สั่งให้สามีไปส่งรีนาที่สนามบิน ระหว่างเขาไม่พูดอะไร เมื่อถึงสนามบิน เขายื่นเงินปึกหนึ่งให้เธอ แล้วขับรถจากไป
รีนาโดยสารเครื่องบินกลับฟิลิปปินส์ ใช้เงินที่นายจ้างชายให้มาเป็นค่าทำแท้ง และดำเนินชีวิตต่อไป
...........................................
-2-
โลกเรามีเรื่องเลวร้ายอย่างหนึ่งคือ มนุษย์มักข่มเหงคนอื่นเมื่อมีโอกาส
ไม่เฉพาะในช่วงสงคราม แต่ในโลกทุกวันนี้ การรังแกข่มเหงคนที่ด้อยกว่าเกิดขึ้นทุกวัน
คนจำนวนมากถูกข่มเหง เพราะไม่มีทางสู้ หรือจนตรอก
เจ้านายด่าลูกน้องสาดเสียเทเสีย ลูกน้องก็อดทน ไม่ลาออก เพราะจำเป็นต้องพึ่งรายได้นั้น
...........................................
-3-
หากผู้อ่านหยุดอ่านหลังเรื่องท่อน 1 หรือท่อน 2 ผู้อ่านอาจกดอิโมจิโกรธหรือเศร้า อาจแชร์ให้คนอื่นรับรู้ว่าโลกเลวร้ายอย่างไร อาจจดจำภาพร้ายๆ ในเรื่องนี้ไปนาน
แต่หากอ่านต่อไป อาจจะกดอิโมจิอันอื่น
เรื่องทั้งหมดที่ท่านอ่านมาเป็นเรื่องแต่ง ไม่ใช่เรื่องจริง เรื่องของรีนาแต่งขึ้นมาเพื่อทดสอบวิธีการเสพสื่อของท่าน
เรื่องแต่งนี้ออกแบบมาเพื่อสะกิดอารมณ์โกรธของผู้อ่าน ไม่มีอะไรง่ายไปกว่าให้ผู้หญิงอ่อนแอถูกกระทำ เมื่อนั้นผู้อ่านก็หลงเชื่อไปแล้วว่ามันเป็นความจริง
ในแง่ปัจเจก การกดอิโมจิหรือคอมเมนต์ทั้งที่อ่านไม่จบ อาจสร้างนิสัยลวก ตัดสินคนและเรื่องต่างๆ โดยที่มีข้อมูลไม่ครบหรือไม่มีข้อมูลจริง เพราะเรื่องท่อนแรกกับท่อนหลังอาจเป็นหนังคนละม้วน เราไม่รู้ถ้าอ่านไม่หมด หรืออ่านโดยไม่วิเคราะห์
ในแง่สังคม เรื่องของรีนาเรื่องนี้ชี้ให้เห็นพลังของการโกหกว่าไปไกลได้แค่ไหน ทุกวันนี้มีเรื่องราวต่างๆ มากมายที่ผ่านเข้ามาในชีวิต หากอ่านแล้วเชื่อเลย แชร์เลย ท่านก็อาจกลายเป็นเครื่องมือของการลวงโลกโดยไม่ตั้งใจ
เฟกนิวส์ไม่มีวันหมดไปจากโลก แต่ปัญหาไม่ใช่คนสร้างเฟกนิวส์ ปัญหาคือคนส่งต่อเฟกนิวส์ต่างหาก
แล้วทำอย่างไร?
ง่ายนิดเดียว อ่านอะไร วิเคราะห์ทุกครั้ง-ทุกเรื่อง ย้ำ! ทุกครั้ง-ทุกเรื่อง และถ้าไม่รู้จริง ไม่ได้ตรวจสอบจนแน่ชัดแล้ว อย่าส่งต่อให้ใคร เราจะเป็นคนช่วยทำร้ายสังคมเสียเอง
วินทร์ เลียววาริณ
6-8-252- แชร์
- 66
-
ไหนๆ คุยเรื่องวันชาติสิงคปร์แล้ว ก็ต่ออีกหน่อย จะได้ขายยาไปด้วย (เคี้ยกเคี้ยก!)
เหตุผลเพราะช่วงเวลาที่ผ่านมา เรารบกับเพื่อนบ้านอย่างไม่น่าจะเกิดขึ้น
โอกาสมันค่อนข้างน้อยจนเกิดวาทกรรม "ทหารมีไว้ทำไม"
ลีกวนยูคิดเรื่องนี้ยังไง?
เมื่อสร้างชาติใหม่ขึ้น สิงคโปร์พบว่าตนอยู่อย่างเดียวดาย เพราะทหารอังกฤษกำลังคิดยกกลับบ้าน
คำสั่งแรกๆ ของลีกวนยูคือ "สร้างกองทัพ" เหมือนก่อนซื้อเครื่องเรือนเข้าบ้าน ควรสร้างรั้วบ้านก่อน
หากไม่มีกองทัพ จะทำอย่างไรหากมาเลเซียเกิดคลั่งชาติ บุกยึดสิงคโปร์ด้วยกำลัง?
ความจริงก็คือเกิดความขัดแย้งบ่อย ๆ ระหว่างคนมาเลย์กับคนจีน ทั้งในมาเลเซียและสิงคโปร์ มีชาวมาเลย์จำนวนหนึ่งเห็นว่าไม่ควรให้สิงคโปร์แยกตัวไป ดังนั้นมันไม่ได้รับประกันว่า วันหนึ่งมาเลเซียจะไม่ยกทัพมาบุกยึดประเทศใหม่นี้
ตอนนั้นสิงคโปร์มีทหารราบสองกรม เป็นชาวอังกฤษ ทหารราบสองกรมเล็กเกินไปที่จะปกป้องประเทศ
ทีแรกลีกวนยูยังไม่ได้คิดถึงขั้นตั้งกองทัพเอง แต่หวังพึ่งอังกฤษ ลีกวนยูบินไปคุยกับผู้นำอังกฤษ บรรดาคนสำคัญในรัฐบาลและฝ่ายค้าน เพื่อหยั่งท่าทีเรื่องกองทัพอังกฤษในสิงคโปร์
ในปี 1966 ลีกวนยูกับรัฐมนตรีโกเคงซวีไปอังกฤษ เข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของอังกฤษ เดนิส ฮีลีย์ (Denis Healey) บอกว่าขอซื้อฝูงบิน Hawker Hunter เดนิส ฮีลีย์ หัวเราะ บอกว่า “พวกคุณจะเอาไปทำไม เราอังกฤษจะปกป้องพวกคุณเอง”
ลีกวนยูรู้สึกสบายใจขึ้นบ้าง แต่รู้ว่าวันหนึ่งอังกฤษจะไปแน่
ไว้ใจใครไม่ได้ทั้งนั้น พึ่งตนเองดีที่สุด
หน้าที่สร้างกองทัพตกเป็นของโกเคงซวี (Goh Keng Swee) เดิมเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เขาอาสาย้ายออกจากตำแหน่งการคลังเพื่อไปดูแลกลาโหม แล้วตั้งลิมกิมซัน (Lim Kim San) ขึ้นเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังแทน
พวกเขาตั้งกระทรวงที่รวมมหาดไทยเข้ากับกลาโหม เรียกว่า Ministry of Interior and Defense (MID กระทรวงมหาดไทยและกลาโหม) ฝึกตำรวจเป็นทหาร ทุกวันนี้ป้ายรถของกองทัพสิงคโปร์ก็ยังมีอักษรย่อ MID
ในเดือนมกราคม 1968 สิงคโปร์ซื้อรถถังขนาดเบาจากอิสราเอล เพราะอิสราเอลกำลังยกระดับอาวุธของตน ก็ขายให้ถูก ๆ ซื้อมา 72 คัน
สิงคโปร์ทาบทามอังกฤษให้ช่วยสร้างกองทัพ คำตอบคือ “ไม่”
ลีกวนยูบอกให้โกเคงซวีติดต่อทูตอิสราเอลที่กรุงเทพฯ มอร์เดอไค คีดรอน (Mordecai Kidron) ขอความช่วยเหลือ คีดรอนก็บินมาที่สิงคโปร์ พบลีกวนยู คุยกันเรื่องความเป็นไปได้ที่อิสราเอลจะช่วยสร้างกองทัพให้
ลีกวนยูบอกโกเคงซวีให้รอจดหมายตอบจากอียิปต์และอินเดียก่อน เพราะในเวลาใกล้กัน ลีกวนยูถามประธานาธิบดีอียิปต์ กามาล อับเดล นัสเซอร์ และนายกฯอินเดียที่เป็นเพื่อนเขา ลาล บาฮาดูร์ ชาสตรี ขอให้ช่วยสร้างกองทัพขนาดห้ากองพัน
ทั้งนัสเซอร์และชาสตรีปฏิเสธ
ลีกวนยูรู้สึกเสียใจที่เพื่อนปฏิเสธ ดังนั้นก็ไปติดต่อกับอิสราเอล แต่ทำแบบเงียบ ๆ ไม่ต้องการให้เกิดความรู้สึกกระทบกระทั่งกับมาเลเซียที่เห็นสิงคโปร์กำลังจะสร้างกองทัพ เพราะยังมีกลุ่มมาเลย์ที่ไม่ต้องการให้สิงคโปร์แยกตัว
อิสราเอลตกลงช่วยสร้างกองทัพให้แบบลับ ๆ เพราะสิงคโปร์รู้ดีว่าประเทศโดยรอบ เช่น มาเลเซีย อินโดนีเซีย เป็นมุสลิมซึ่งไม่ถูกกับอิสราเอล
อิสราเอลส่งเจ้าหน้าที่ของ The Israel Defense Forces (IDF) มาช่วยสร้างกองทัพจากศูนย์ เรียกว่า Singapore Armed Forces (SAF) นายทหารอิสราเอลใช้ชื่อเรียกว่า The Mexicans เพื่อไม่ให้ใครรู้ว่ามาจากอิสราเอล
The Mexicans เป็นผู้ฝึก หลักสูตรทุกอย่างใช้ของอิสราเอล แม้แต่เรื่องการเกณฑ์ทหารและทหารกองหนุน ก็ใช้วิธีของอิสราเอล
ถึงปี 1971 สิงคโปร์มีกำลังทหาร 17 กองพัน (16,000 คน) ทหารกองหนุน 14 กองพัน (11,000 คน)
นอกจากนี้ยังได้นิวซีแลนด์มาช่วยฝึกทหารเรือ
พวกเขาออกกฎหมายให้ผู้ชายสิงคโปร์อายุ 18 ปีทุกคนต้องเป็นทหารสองปี เรียกว่า National Service (NS) เป็นภาคบังคับ หลังจากปลดประจำการ ก็อาจถูกเรียกตัวไปฝึกสมรรถนะร่างกายใหม่ ดังนั้นผู้ชายสิงคโปร์จึงเรียนจบมหาวิทยาลัยช้ากว่าผู้หญิงวัยเดียวกันสองปี
แน่นอนมีคนที่ไม่อยากเป็นทหาร และหนีทหาร ลีกวนยูก็ส่งพวกที่ถามว่า "ทหารมีไว้ทำไม" เข้าคุกไปหาคำตอบเองว่ามีทหารไว้ทำไม
บางคนหนีทหารไปหลายปี พบว่าไม่คุ้ม ก็ยอมกลับบ้านติดคุก
หลังจากสร้างกองทัพแล้วก็ถึงขั้นต่อไป สร้างเศรษฐกิจ
วินทร์ เลียววาริณ
10 สิงหาคม 2025อ่านที่มาและที่ไปของเรื่องนี้ได้อย่างละเอียดในเล่ม สร้างชาติจากศูนย์
สารคดีเกี่ยวกับชีวิตและผลงานของลีกวนยู รัฐบุรุษผู้สร้างชาติสิงคโปร์จากศูนย์ ที่เหมาะสำหรับผู้นำองค์กร ผู้บริการ นักการเมือง
21 เรื่อง ราคา 300 บาท = เรื่องละ 14.2 บาท (ไม่คิดค่าส่ง)
หนังสือหมดเมื่อไร จะไม่ตีพิมพ์ใหม่แล้ว(ซื้อเดี่ยว) เว็บ https://www.winbookclub.com/store/detail/248/สร้างชาติจากศูนย์
Shopee https://shopee.co.th/product/90206829/29061345680/
อีบุ๊ค The Meb https://www.mebmarket.com/ebook-320521-สร้างชาติจากศูนย์
1 วันที่ผ่านมา -
วันนี้ 9 สิงหาคม เมื่อ 60 ปีก่อน ถนนในเมืองสิงคโปร์เงียบเหงา เพราะผู้คนกลัวว่าจะเกิดเหตุร้าย หลังจากทางการได้รับจดหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยของสหพันธรัฐมาเลเซีย สั่งให้ตำรวจเปลี่ยนเจ้านาย ไปขึ้นตรงต่อรัฐบาลสิงคโปร์แทน และเตรียมรับเหตุร้าย
เวลาสิบโมงเช้า เสียงประกาศทางวิทยุกระจายเสียงก้องไปทั่วคาบสมุทรมาลายา ทำให้คนมาเลย์และสิงคโปร์สะดุ้งตกใจ
มันเป็นคำประกาศของนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ตุนกู อับดุล ระห์มาน ข้อความว่า “สิงคโปร์จะยุติการเป็นรัฐหนึ่งของมาเลเซีย และจะเป็นประเทศเอกราชตลอดกาล เป็นอิสระจากมาเลเซีย และรัฐบาลมาเลเซียขอรับรองสถานะประเทศสิงคโปร์ และจะทำงานร่วมกันอย่างมีมิตรภาพ”
เป็นประกาศสามภาษา มาเลย์ อังกฤษ และจีนกลาง ออกอากาศซ้ำทุกครึ่งชั่วโมง และส่งข่าวไปให้สำนักข่าวทั่วโลก
แปลว่ามาเลเซียประกาศหย่าขาดกับสิงคโปร์
นี่เป็นข่าวที่ผู้นำรัฐสิงคโปร์ ลีกวนยูคาดไม่ถึง เขาแปลกใจว่าทำไม ตุนกู อับดุล ระห์มาน จึงรีบประกาศว่าประเทศแม่คือมาเลเซียประกาศตัดหางปล่อยวัดรัฐสิงคโปร์
มันเป็นเวลาสองปีหลังกำเนิดสหพันธรัฐมาเลเซีย ซึ่งรวมรัฐสิงคโปร์ด้วย มีความขัดแย้งกันหลายเรื่อง แต่ลีกวนยูไม่คาดว่าจะมีประกาศปุบปับอย่างนี้
ลีกวนยูเล่าว่า บางประเทศเกิดมาพร้อมเอกราช บางประเทศต้องต่อสู้เพื่อจะได้มา แต่สิงคโปร์ถูกโยนเอกราชมาให้
ธรรมเนียมปฏิบัติของคนมาเลย์คือผู้ชายสามารถหย่าภรรยาได้ โดยแค่เอ่ย “Talaq” (แปลตรงตัวว่าปลดปล่อย หมายถึง “ผมขอหย่าคุณ”) สามครั้ง ก็เท่ากับการหย่าเสร็จสิ้นโดยไม่จำเป็นต้องได้รับความยินยอมจากฝ่ายหญิง
มาเลเซียก็เอ่ย “Talaq” กับสิงคโปร์ในวันนั้น
ในปี 1965 สิงคโปร์ยังเป็นส่วนหนึ่งของมาเลเซีย แต่ความไม่ลงรอยระหว่างสองประเทศที่มีความขัดแย้งทางเชื้อชาติ ศาสนา วัฒนธรรม ทำให้ไปต่อไม่ได้
รัฐสภามาเลเซียโหวตให้ขับสิงคโปร์ออกไป
สิงคโปร์ไม่เคยคิดจะแสวงหาเอกราช หรือแยกทางกับมาเลเซีย แต่ในเมื่อมันเป็นหมากตาบังคับ พวกเขาก็ต้องเดินหมากต่อไป
เวลาก่อนเที่ยง ลีกวนยูปรากฏตัวที่สถานีวิทยุและโทรทัศน์สิงคโปร์เพื่อแถลงข่าว ผู้สื่อข่าวคนหนึ่งถามเขาว่า “คุณพอบอกได้ไหมว่ามีเหตุการณ์อะไรบ้างที่ทำให้เกิดการประกาศเช้านี้?”
ลีกวนยูอธิบายความขัดแย้งทางเชื้อชาติระหว่างมาเลย์กับสิงคโปร์ที่ดำเนินมานาน กล่าวว่า “ตลอดชีวิตของผม ผมเชื่อเรื่องการรวมตัวกัน และความเป็นหนึ่งของสองเขต ประชาชนเชื่อมกันทางภูมิศาสตร์ เศรษฐกิจ และความสัมพันธ์ฉันพี่น้อง...”
พูดถึงตรงนี้เขาก็กลั้นก้อนสะอื้น บอกว่า “ผมขอหยุดสักครู่ได้ไหม?” ความรู้สึกท่วมท้นภายในทำให้เขาน้ำตาซึม และพูดต่อไม่ได้
มันไม่ใช่การถ่ายทอดสด สถานีจะแพร่ภาพตอนหกโมงเย็น ลีกวนยูขอให้ผู้อำนวยการสถานีวิทยุและโทรทัศน์สิงคโปร์ตัดท่อนที่เขาซับน้ำตาออก แต่ผู้อำนวยการบอกว่าไม่สมควรอย่างยิ่ง ประการหนึ่งเพราะผู้สื่อข่าวทั่วโลกจะรายงานข่าวนี้ การตัดภาพท่อนนี้ออกไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น อีกประการ มันแสดงถึงความจริงใจ
รายงานข่าวผู้นำสิงคโปร์ท่วมท้นด้วยความรู้สึกภายในแพร่ไปทั่วโลก หลายคนในมาเลเซียมีความเห็นว่า การร้องไห้ของผู้ชายส่อถึงความอ่อนแอ แต่ผู้ชมทางตะวันตก อังกฤษ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ดูเข้าใจดีกว่า
9 สิงหาคมจึงกลายเป็นวันชาติสิงคโปร์แบบถูกโยนมาให้
ไม่มีใครในโลกในวันนั้นเชื่อว่าประเทศใหม่นี้ไปรอด
แต่เกมพลิก สิงคโปร์กลายเป็นชาติที่รุ่งเรืองที่สุดชาติหนึ่งในเอเชีย พาสพอร์ตที่ดีที่สุดในโลก ปลอดคอร์รัปชั่น ปลอดยาเสพติด สิงคโปร์โมเดลกลายเป็นโครงสร้างที่เติ้งเสี้ยวผิงนำไปใช้เปลี่ยนจีนหน้ามือเป็นหลังมือ
เป็นไปได้อย่างไร?
คำตอบคือเพราะสิงคโปร์มีจุดเดียวที่แตกต่างจากรัฐอื่น
นั่นคือผู้นำที่ชาญฉลาด ไม่โกงกิน และทำงานเพื่อชาติจริงๆ
ก็ขอแสดงความยินดีต่อวันเกิดครบรอบ 60 ปีของประเทศสิงคโปร์ในวันนี้ วินทร์ เลียววาริณ
9 สิงหาคม 2025อ่านที่มาและที่ไปของเรื่องนี้ได้อย่างละเอียดในเล่ม สร้างชาติจากศูนย์
สารคดีเกี่ยวกับชีวิตและผลงานของลีกวนยู รัฐบุรุษผู้สร้างชาติสิงคโปร์จากศูนย์ ที่เหมาะสำหรับผู้นำองค์กร ผู้บริการ นักการเมือง
21 เรื่อง ราคา 300 บาท = เรื่องละ 14.2 บาท (ไม่คิดค่าส่ง)
หนังสือหมดเมื่อไร จะไม่ตีพิมพ์ใหม่แล้ว
(ซื้อเดี่ยว) เว็บ https://www.winbookclub.com/store/detail/248/สร้างชาติจากศูนย์Shopee https://shopee.co.th/product/90206829/29061345680/
อีบุ๊ค The Meb https://www.mebmarket.com/ebook-320521-สร้างชาติจากศูนย์
1 วันที่ผ่านมา -
บทความใหม่วันเสาร์ คลิกลิงก์อ่านได้เลย https://www.blockdit.com/posts/67fbe2b028ef0945bef36cbe
1 วันที่ผ่านมา -
นวนิยาย สี่ภพ มีองค์ประกอบเรื่องมากมาย เพื่อให้ผู้ที่ยังไม่ได้อ่าน อ่านได้ลื่นขึ้น ผมจะแนะนำบางองค์ประกอบในเรื่อง เพื่อปูพื้นให้คนอ่าน โดยไม่สปอยล์เรื่องแต่อย่างใด
เริ่มจากบทที่ 1 มีคำว่า คากาน
คากาน (可汗 Khagan) ก็คือตำแหน่งสูงสุดของข่าน เป็นข่านแห่งข่าน หรือจอมข่าน
มองโกลมีธรรมเนียมเลือกผู้นำโดยสภาเกอรูไต (忽里勒台 Kurultai) เป็นสภากรมการการเมืองและการทหารของมองโกล มาจากคำว่า ‘เกอ’ แปลว่ารวมกัน เกอรูไตจึงแปลว่าการรวมกัน ประชุมกัน
จอมข่านทั้งหลาย เช่น เจ็งกิส ข่าน โอโกได ข่าน ล้วนต้องผ่านการเลือกจากสภาเกอรูไต
จากบันทึกประวัติศาสตร์บันทึกพิธีการเลือกจอมข่านในก๊กกระโจมทอง (ซึ่งเป็นกลุ่มย่อยของมองโกล) ว่า เมื่อเลือกผู้นำคนใหม่ พวกเขาจะให้ผู้นำคนใหม่นั่งบนผ้าขาว ยกเขาขึ้นสามครั้งจากนั้นแบกผู้นำคนใหม่เดินรอบกระโจม แล้ววางเขาบนบัลลังก์ ยื่นดาบทองใส่ในมือของเขา และผู้นำคนใหม่จะกล่าวคำสาบาน
พิธีเลือกผู้นำคนใหม่รวมการกินเลี้ยงและการละเล่นด้วย เช่น มวยปล้ำ ยิงธนู
การเลือกจอมข่านเป็นพิธีสำคัญ ผู้นำเผ่าต่าง ๆ จะต้องมาร่วมพิธี ครั้งที่ เจ็งกิส ข่าน ตาย ผู้นำที่กำลังรบอยู่ในดินแดนต่าง ๆ ก็สั่งถอยทัพ กลับไปร่วมพิธี ไม่ว่าจะรบไกลถึงยุโรปหรือเปอร์เซีย ก็ต้องกลับไปร่วมพิธี
..........................
องค์ประกอบอีกหนึ่งที่ปรากฏบ่อยๆ ในเรื่องนี้คือ เคชิก
หน่วยเคชิก (怯薜 Kheshig) คือหน่วยรักษาความปลอดภัยของมองโกล มีอยู่จริงในประวัติศาสตร์
เคชิกทำหน้าที่ป้องกันอันตรายให้ เจ็งกิส ข่าน ต่อมาก็ขยายไปสู่บรรดาผู้นำ การลอบสังหารผู้นำเผ่าเกิดขึ้นเสมอ เพราะชาวมองโกลอาศัยอยู่ในกระโจม หอกดาบแทงทะลุได้
เคชิกไม่เข้ารบในสงคราม เป็นเพียงองครักษ์เท่านั้น แบ่งเป็นสองกลุ่ม กลุ่มองครักษ์กลางวันกับกลุ่มองครักษ์กลางคืน
เจ็งกิส ข่าน มีเคชิกถึงหมื่นคน ส่วนหลานชายของเขา กุบไล ข่าน มีเคชิกถึง ๑๒,๐๐๐ คน
..........................
องค์ประกอบที่สามคือ ฮัซซาซิน ปรากฏในภาคหลังๆ ของเรื่อง
ฮัซซาซิน (Hashshashin) เป็นนักฆ่า มีอยู่จริงในประวัติศาสตร์ Hashshashin เป็นที่มาของคำศัพท์อังกฤษ assassin แปลว่านักลอบสังหาร
ต้นคำเป็นภาษาอาหรับ Hashishi
ทฤษฎีหนึ่งว่า Hashish คือสารเสพติดอย่างหนึ่ง hashishi หมายถึงคนที่ใช้ยาเสพติดชนิดนี้ ทฤษฎีนี้บอกว่านักฆ่าสำนักนี้ใช้ยาเสพติดกล่อมประสาทตนเองก่อนฆ่าคน
อีกทฤษฎีคือ คำนี้มาจากคำอาหรับอียิปต์ hashasheen แปลว่าพวกตัวป่วน
บันทึกประวัติศาสตร์เกี่ยวกับคนกลุ่มนี้ไม่ชัดเจน แต่เชื่อว่ากลุ่มฮัซซาซินเป็นพวกอิสลามนิกายชีอะห์ ผู้ก่อตั้งคือ Hasan-i Sabbah ตั้งเครือข่ายกำลังต้านอำนาจรัฐ มีการลอบสังหารศัตรู
องค์ประกอบเหล่านี้จะปรากฏในเรื่อง
ข้อมูลที่เล่ามานี้ ไม่ได้ใส่ในหนังสือทั้งหมด เพราะมันไม่ใช่สารคดี แต่บอกให้คนอ่านรู้เป็นความรู้รอบตัว เพื่อที่เวลาอ่านจะเห็นภาพชัดขึ้น
วินทร์ เลียววาริณ
8-8-25อ่านที่มาของงานชุดนี้ได้ที่ https://www.facebook.com/photo/?fbid=1348523389969682&set=a.208269707328395
อ่านรายละเอียดหนังสือได้ที่
https://www.facebook.com/photo?fbid=1352241359597885&set=a.208269707328395ตอนนี้พิมพ์จริงแล้ว สั่งซื้อ คลิก https://www.winbookclub.com/store/detail/254/4%20%E0%B8%A0%E0%B8%9E
ในหน้า pre-order สามารถคลิกอ่านตัวอย่าง 2 บทได้ฟรี
2 วันที่ผ่านมา -
ขอแจ้งต่อผู้สั่งซื้อว่า เราไม่ได้ใช่เครื่องตอบอัตโนมัติ จะตอบลูกค้าทีละรายซึ่งใช้เวลา บางท่านอาจไม่ได้รับคำยืนยันทันที ก็รอสักนิด เราตอบทุกคนแน่นอน
สำหรับผู้อ่านที่ยังไม่รู้ นี่คือหนังสือใหม่ พ้นจากสภาวะ pre-order เป็นพิมพ์จริงแล้ว
เราจะสรุปยอดคนที่เข้าร่วมโครงการเติมหัวใจใส่ห้องสมุดจนถึงศุกร์นี้ อาทิตย์หน้าจะส่งงานเข้าโรงพิมพ์
................................
รายละเอียดหนังสือ
ชื่อเรื่อง : สี่ภพ (เป่ย หนาน ตง ซี)
ประเภท : นวนิยายจีนกำลังภายใน + ไซไฟ
ขนาดหนังสือ : 13.5 x 18.5 ซม.
ขนาดกล่อง : ประมาณ 14 x 19 x 10.5 ซม.
สไตล์งาน : สไตล์เรโทร จำลองสไตล์การออกแบบและขนาดเหมือนนิยายจีนกำลังภายในสมัย 50 ปีก่อน จัดเป็นงานบูชาครูและช่างสมัยก่อน
- หนึ่งชุดประกอบด้วยหนังสือ 6 เล่ม (นวนิยาย 5 เล่ม สารคดีเบื้องหลัง 1 เล่ม) หนาเล่มละ 320 หน้า รวม 1,920 หน้า บรรจุในกล่อง box set กระดาษแข็งพิมพ์ลายจอมยุทธ์
- มีลายเซ็นนักเขียนทุกเล่ม 1
- อาจมีหนังสือแถมให้ ถ้ากล่องที่บรรจุมีพื้นที่พอ
- น่าจะได้รับหนังสือราวกลางเดือนกันยายน 2568
- ราคา pre-order 2,200 บาท (รวมค่าส่งแล้ว)
* จำหน่ายราคานี้จนถึง 31 สิงหาคม 2568 หลังจากนั้นจะจำหน่ายตามราคาปก 2,400 บาท ต้องโอนเงินภายในกำหนด *
- สั่งซื้อที่เว็บเท่านั้น คลิก https://www.winbookclub.com/store/detail/254/4%20%E0%B8%A0%E0%B8%9E
- ผู้จอง pre-order ต้องกรอกข้อมูลให้ครบถ้วน ชื่อ /ที่อยู่จัดส่ง /โทร. / อีเมล และแนบหลักฐานการโอนไปที่ namol113@gmail.com มิฉะนั้นเราจะไม่รู้ว่าเป็นลูกค้าคนไหน
ป.ล. อ่านที่มาของโครงการนี้ได้ที่ https://www.facebook.com/photo/?fbid=1348523389969682&set=a.208269707328395
5 วันที่ผ่านมา