• วินทร์ เลียววาริณ
    0 วันที่ผ่านมา

    วันก่อนเล่าเรื่องยุทธการแห่งแม่น้ำสินธุ เจ็งกิส ข่าน พบ จาลาล อัล-ดิน ก็ขยายความต่ออีกนิด

    หลังอาณาจักรควาเรซเมียนถูกมองโกลทำลายพินาศ จาลาล อัล-ดินพาไพร่พลไปทางตะวันออก แถวอินเดีย อัฟกานิสถาน

    เจ็งกิส ข่าน ส่งแม่ทัพ ชิกิ คูตูคู (Shigi Qutuqu) นำทัพสามหมื่นคนไล่ล่า ขุดรากถอนโคน

    เป็นที่มาของยุทธการปาร์วัน (The Battle of Parwan)

    จาลาล อัล-ดินเป็นฝ่ายหนี และมีคนน้อยกว่า แต่วางแผนอย่างชาญฉลาด ใช้ประโยชน์ของภูมิประเทศที่เป็นช่องเขาแคบ หลอกมองโกลไปติดกับ แล้วใช้พลธนูสังหารฝ่ายมองโกลจนแตกพ่าย

    เวลานั้นกองทัพมองโกลเกรียงไกรที่สุดในปฐพี ไม่เคยรู้จักคำว่าแพ้ ความพ่ายแพ้ของ ชิกิ คูตูคู ทำให้พวกมองโกลตกใจ คาดไม่ถึง

    พวกมองโกลรบต่างจากชนชาติอื่นคือคือ ทำสงครามเพื่อชัยชนะ ไม่ใช่เพื่อเกียรติยศหรือสร้างภาพลักษณ์ ดังนั้นการถอยไม่ใช่เรื่องน่าอับอายแต่อย่างใด

    แต่ความพ่ายแพ้ระดับนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

    ในหลายชนชาติ หากแม่ทัพพ่ายศึกกลับมา มักถูกประหาร

    เจ็งกิส ข่าน ไม่ได้สั่งประหารแม่ทัพผู้นี้

    นโยบายของ เจ็งกิส ข่าน คือไม่ลงโทษลูกน้อง ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ เพราะรู้ว่าการศึกมีแพ้และชนะ ถ้าฆ่าลูกน้องที่แพ้ศึกกลับมา ก็ไม่เหลือคน เพราะมองโกลรบทั้งปีทั้งชาติ

    ตำนานเล่าว่า เจ็งกิส ข่าน เรียกชิกิ คูตูคู มาคุยว่า วางแผนอย่างไร รู้ไหมว่าพลาดตรงไหน

    นี่อาจจัดเป็น 'soft power' อย่างหนึ่ง!

    หลังจากนั้นจอมข่านก็ยกทัพไปจัดการข้าศึกด้วยตัวเอง ที่ยุทธการแห่งแม่น้ำสินธุ

    เจ็งกิส ข่าน เป็นจอมโหดก็จริง แต่ใช้คนเป็น เมื่อผิดพลาด ก็ศึกษาจุดที่พลาด แล้วแก้ไข ลูกน้องจึงจงรักภักดี รบถวายหัว

    สำหรับแม่ทัพ ชิกิ คูตูคู ก็ทำงานรับใช้กองทัพต่อไปจนชรา ตายไปตอนอายุ 81

    วินทร์ เลียววาริณ
    17 สิงหาคม 2568

    ภาพจากหนังเรื่อง Mongol (2007)

    0
    • 0 แชร์
    • 13

บทความล่าสุด