• วินทร์ เลียววาริณ
    2 ปีที่ผ่านมา

    คุยเรื่องซีอีโอโลกต่อจากเมื่อวานนี้อีกนิด

    มีคนถามว่า ทำไมอาตี๋จีนจึงอยากขึ้นมาเทียบบารมีกับซีอีโอมะกันด้วย ทำไมไม่สงบเสงี่ยมเจียมตัว ก้มหน้าก้มตาทำมาหากินไปวันๆ ไม่ต้องไปยุ่งกับใคร ทำไมต้องสร้างแสนยานุภาพทางกองทัพด้วย

    เป็นคำถามน่าสนใจ ผมเองก็ไม่มีคำตอบ แต่จะคุยด้วยข้อมูลที่อ่านมา นี่ไม่ใช่บทสรุป ถือว่าเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดกัน

    เท่าที่ศึกษาและอ่านมา มีทฤษฎีหนึ่งที่น่าเป็นไปได้ นั่นคือเพราะตะวันตกเหยียบหัวคนจีนมานาน คนจีนขออนุญาตเงยหน้ายืดอกบ้าง

    ประวัติศาสตร์จารึกว่า ปลายราชวงศ์ชิง จีนถูกกระทำมาโดยตลอด จีนโดนอังกฤษกับฝรั่งเศสเหยียบย่ำในสงครามฝิ่นสองรอบ ต้องยกเกาะฮ่องกงให้อังกฤษนานถึง 150 ปี

    ตอนเกิดกบฏนักมวย (1899-1901) 8 ชาติรุมสหบาทาจีน ส่วนใหญ่เป็นตะวันตก กลุ่มนี้เรียกว่า The Eight-Nation Alliance ประกอบด้วยเยอรมนี อังกฤษ ฝรั่งเศส สหรัฐฯ อิตาลี ออสเตรีย-ฮังการี รัสเซีย ญี่ปุ่น

    จีนไม่มีทางลืมเรื่องนี้

    ตอนที่อังกฤษต้องคืนเกาะฮ่องกงให้จีนนั้น นายกฯอังกฤษ มาร์กาเร็ต แธตเชอร์ บินไปหาเติ้งเสี่ยวผิง เสนอตัวขอปกครองฮ่องกงต่อไป เติ้งเสี่ยวผิงบอกว่า ไปไกลๆ xกูเลย อยู่ต่อวันเดียวก็ไม่ได้

    150 ปีนี้ถือว่าเจ็บช้ำมากพอแล้ว

    ก่อนเกิดสงครามโลกครั้งที่สอง ญี่ปุ่นก็ไปกระทำชำเราจีน ที่เลวร้ายที่สุดคือเหตุการณ์ที่นานกิง

    โดนเหยียบมาตลอด

    การที่อาตี๋ขอก้าวขึ้นมาเทียบเคียงบารมีซีอีโอก็เพราะอยากให้โลกเห็นว่าจีนไม่ใช่พรมเช็ดเท้า จีนก็ยิ่งใหญ่มาแต่อดีต ใหญ่มาก่อนชาติตะวันตกนานหลายพันปี

    นี่เรียกว่า pride (ความทระนง ศักดิ์ศรี) หรือภาษากำลังภายในว่า ฆ่าได้หยามไม่ได้

    นี่ทำให้ต้องพูดถึงสงครามยูเครนและไครเมียที่ปูตินก่อ มันก็คล้ายกันคือปูตินรู้สึกว่าความล่มสลายของสภาพโซเวียตนั้นเหมือนการสิ้นชาติ อยากกลับไปสู่ความยิ่งใหญ่อย่างเก่า อยากให้โลกกลัวรัสเซียเหมือนสมัยก่อน

    และก็ต้องพูดถึงการขึ้นมาของฮิตเลอร์ ฮิตเลอร์ก็เห็นว่าชาติของตนถูกกระทำจากสงครามโลกครั้งที่ 1 การเซ็นสัญญาบนรถไฟนั้นเสียศักดิ์ศรี รับไม่ได้ ต้องการรู้สึกเป็นใหญ่เหมือนก่อน จึงสะสมกำลัง และพร้อมก่อสงครามเพื่อบรรลุเป้าหมาย

    เมื่อยึดปารีสได้ ฮิตเลอร์ก็จับพวกฝรั่งเศสมาเซ็นยอมแพ้บนรถไฟขบวนเดียวกัน แล้วระเบิดรถไฟทิ้ง

    นี่ก็คือ pride

    ปัญหาคือฮิตเลอร์มี pride เยอะเกินไปจนโลกวุ่นไปหมด เยอรมนีจึงพังพินาศ

    ทั้งสามกรณีนี้คล้ายกัน ความวุ่นวายเกิดขึ้นเมื่อรู้สึกว่าชาติของตนถูกกระทำ จึงขอแสดงฝีมือให้เห็น

    หากทฤษฎีนี้เป็นความจริง ก็แสดงให้เห็นว่าศักดิ์ศรีเป็นเรื่องใหญ่ และกงล้อประวัติศาสตร์หมุนตามรอยเดิมเสมอ

    เรื่องยุ่งเพราะบังเอิญจีนเป็นคอมมิวนิสต์ ซึ่งเป็นระบอบ authoritarianism (อำนาจนิยม) ที่ตะวันตกรับไม่ได้ พวกเขาอาจกลัวว่าอาตี๋อาจบ้าขึ้นมาแบบฮิตเลอร์

    บางทีหากซีอีโอรู้จักใช้ไม้อ่อนในการจัดระเบียบโลกบ้าง ไม่ใช่เหยียบอย่างเดียว โลกอาจไม่ยุ่งแบบนี้

    วินทร์ เลียววาริณ 15-3-23

    0
    • 2 แชร์
    • 115

บทความล่าสุด