• วินทร์ เลียววาริณ
    1 วันที่ผ่านมา

    เพลงญี่ปุ่นเพลงหนึ่งที่ผมชอบมาก ฟังประจำ ชื่อ อุเอะ โอะ มุอิเตะ อะรุโค (上を向いて歩こう) แปลว่าแหงนหน้ามองข้างบนยามเดิน

    หากชื่อเพลงไม่คุ้นหู ก็คงเพราะชาวโลกรู้จักมันในชื่อเพลง สุกียากี้ (Sukiyaki)

    เมื่อเพลงนี้ออกมานั้น ผมอายุห้าขวบ ช่วงหลายปีนั้นเพลงนี้ฮิตระเบิด เป็นซิงเกิลที่ขายได้ทั่วโลกสูงสุดถึง 13 ล้านแผ่น (ตัวเลข 13 ล้าน = ครึ่งหนึ่งของประชากรไทยเวลานั้น)

    ในเมื่อไม่ใช่เพลงเกี่ยวกับของกิน ทำไมจึงตั้งชื่อเพลงว่า สุกียากี้ ? ก็จนปัญญาตอบ เพราะการตั้งชื่อเพลงนี้ว่า สุกียากี้ ก็เหมือนตั้งชื่อเพลง What A Wonderful World ว่า สปาเก็ตตี หรือต้มยำ หรือข้าวหมกไก่ คนละเรื่องโดยสิ้นเชิง!

    เอาละ นามนั้นสำคัญไฉน มาว่ากันที่เนื้อเพลงดีกว่า

    เพลงนี้มีความหมายอะไร?

    วลี ‘มองข้างบน’ ในชื่อเพลงก็คือมองท้องฟ้า

    เนื้อเพลงพูดถึงชายคนหนึ่งเดินโดยเงยหน้าขึ้นเบื้องบน เพื่อที่ว่าน้ำตาของเขาจะไม่ร่วงลงมา

    เนื้อเพลงท่อนแรกว่า...

    ฉันมองขึ้นบนเมื่อฉันเดิน เพื่อว่าน้ำตาจะได้ไม่ร่วงลงมา
    จดจำวันวานแสนสุขแห่งฤดูใบไม้ผลิ
    แต่คืนนี้ฉันอยู่โดดเดี่ยว
    ฉันมองขึ้นบนเมื่อฉันก้าวเดิน นับดวงดาว 
    สายตาพร่าเลือนด้วยน้ำตา
    จดจำวันวานแสนสุขแห่งฤดูร้อน
    แต่คืนนี้ฉันอยู่เดียวดาย
    ความสุขวางอยู่ไกลจากก้อนเมฆ
    ความสุขวางอยู่เหนือท้องฟ้า...

    เป็นเพลงที่มีความหมายดีทีเดียว เมื่อเศร้าก็เงยหน้ามองฟ้า มิเพียงน้ำตาไม่ร่วงลงมา ยังเห็นดาวรายกลางนภา

    ในบทหนึ่งของนวนิยายเรื่อง ปีกแดง ก็มีฉากคล้าย ๆ กันโดยบังเอิญ ครั้งหนึ่งตัวละคร รุจน์ รุจิเรข นั่งหลบมุมร้องไห้ในต่างแดนเพราะคิดถึงแม่ ตัวละคร ‘ไฮดี’ ปลอบเขาว่า “เห็นท้องฟ้าข้างบนเรามั้ย ตอนฉันยังเป็นเด็ก ทุกครั้งที่ไม่สบายใจและร้องไห้ ปู่ของฉันมักบอกเสมอว่า เวลากลัดกลุ้มใจเมื่อไหร่ จงเงยหน้าขึ้นมองฟ้า ปู่ว่าฟ้าคือความยิ่งใหญ่ ฟ้าคือต้นกำเนิดของสรรพสิ่ง เธอจะรู้สึกว่าปัญหาของเธอน่ะกระจิริดเหลือเกิน เมื่อเทียบกับความยิ่งใหญ่ของฟ้า เวลาห้าหกสิบปีบนโลกมนุษย์ของแต่ละผู้คนช่างสั้นแสนสั้น เมื่อเทียบกับเวลาทั้งมวลของจักรวาล เมื่อเป็นเช่นนี้ เราจะกังวลไปเพื่ออะไร...

    “ปู่ยังสอนอีกว่า ถ้าสังเกตท้องฟ้าไปนาน ๆ จะเห็นความเปลี่ยนแปลงของฟ้า บางวันเมฆหนา บางวันฟ้าใส บางครั้งฝนตก บางครั้งก็มีสายรุ้งบนฟ้า ในเวลากลางคืน เราจะเห็นดาวเต็มไปหมด ช่างไม่มีอะไรแน่นอน ถ้าสามารถเข้าใจรหัสแห่งฟ้านี้ได้ ก็จะเข้าใจชีวิต เมื่อเข้าใจชีวิต ก็จะไม่กลัดกลุ้มใจอีกต่อไป ดังนั้นเวลาฉันไม่สบายใจ ฉันชอบมานั่งที่นี่ ใกล้ต้นคัสทานี ดูท้องฟ้า ดูทิวสนสีเขียวไกลออกไปโน่น สักพักฉันก็สบายใจ”

    ปีกแดง บทนี้ใช้วิธีคิดคล้าย ๆ อุเอะ โอะ มุอิเตะ อะรุโค คือเงยหน้ามองท้องฟ้ายามโศกเศร้า การเงยหน้าขึ้นฟ้ายามทุกข์อาจจะเป็นเรื่องสากลก็ได้ เพราะภาษาอังกฤษก็มีสำนวนเกี่ยวกับการเงยหน้าสู้ชีวิต คือ keep one’s chin up

    chin คือคาง ยกคางขึ้นก็เป็นกิริยาของการเงยหน้า

    เวลาหดหู่เศร้าหมอง มีทุกข์ ให้เงยหน้าขึ้น อย่าก้มหน้า ก้มหน้าเห็นแต่ดินโคลน แต่เงยหน้าอาจเห็นฟ้า ตะวัน หรือดวงดาว

    หรืออย่างน้อยที่สุดน้ำตาก็ไม่ร่วงลงมา

    จากหนังสือ กอดหนาม / วินทร์ เลียววาริณ

    สนใจหนังสือ โปรโมชั่นพิเศษ ซื้อทางเว็บ https://www.winbookclub.com/store/detail/243/%28S11%29%20%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A1%20+%20%E0%B8%9B%E0%B8%8E%E0%B8%B4%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9C%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%8C%E0%B8%AA%E0%B9%84%E0%B8%95%E0%B8%99%E0%B9%8C%20%E0%B9%81%E0%B8%96%E0%B8%A1%20Mini%20Tao

    ซื้อทาง Shopee https://shope.ee/1qEAFwkFjK?share_channel_code=6 

    0
    • 0 แชร์
    • 20

บทความล่าสุด