-
วินทร์ เลียววาริณ7 เดือนที่ผ่านมา
(ต่อจากโพสต์ https://www.facebook.com/photo?fbid=1234051238083565&set=a.208269707328395)
กิมย้งอยากทำงานสายการทูต จึงไปเรียนที่โรงเรียนการปกครองที่ฉงชิงในปี 1944 แต่ก็ถูกบีบให้ออกอีก หลังจากวิจารณ์พฤติกรรมของพวกก๊กมินตั๋ง
เขาเรียนต่อด้านภาษาต่างประเทศในมหาวิทยาลัยที่ฉงชิง แต่เรียนไม่จบ หันไปเรียนด้านกฎหมายนานาชาติแทน ตั้งใจจะทำงานสายการต่างประเทศ
เขาเรียนจบมหาวิทยาลัยด้วยปริญญากฎหมายระหว่างประเทศ
แต่กลิ่นหมึกดึงเขากลับไปสู่การพิมพ์จนได้ เขาเข้าสู่สายนักข่าว เริ่มจากงานผู้สื่อข่าวให้ Southeastern Daily ที่เมืองหังโจว ปี 1946
ปีถัดมาก็ไปทำงานที่เซี่ยงไฮ้กับหนังสือพิมพ์ต้ากงเป้า ทำงานเป็นนักแปลข่าวต่างประเทศ หลังจากนั้นก็ถูกย้ายไปทำงานที่สาขาฮ่องกง และพบเนี่ยอูเซ็งที่นั่น และร่วมสร้างนิยายกำลังภายในสมัยใหม่
ปี 1957 กิมย้งลาออกจากงานหนังสือพิมพ์ ไปทำงานเขียนหนังสือและบทภาพยนตร์ เขายังร่วมกำกับหนังด้วย โดยใช้ชื่อ ฉาจินหยง เช่น เรื่อง The Nature of Spring (有女懷春) ในปี 1958 Bride Hunter (王老虎搶親) ในปี 1960 เป็นต้น
ความสำเร็จของ มังกรหยก ทำให้เขาได้ทุนก้อนหนึ่งไปร่วมก่อตั้งหนังสือพิมพ์หมิงเป้าในปี 1959 เขาเป็นหัวหน้าบรรณาธิการ เขียนนิยายและ บทความควบคู่กันไป
ในช่วงต้นหมิงเป้าเกือบไปไม่รอด แต่นวนิยายกำลังภายใน มังกรหยก ภาค 2 ที่ลงตอนต่อตอนทำให้หมิงเป้าหายใจต่อไปได้ หมิงเป้ายังตีพิมพ์นิยายของนักเขียนอื่น ๆ ด้วย และมีนิยายหลากหลายประเภท
ขณะทำงานก่อร่างสร้างหมิงเป้า เขาเขียนหนังสือวันละหมื่นคำ ทำงานมือเป็นระวิง เล่ากันขำ ๆ ว่าเขาใช้มือขวาเขียนบทความ และมือซ้ายเขียนนิยายกำลังภายใน
ณ จุดนั้น กิมย้งมีบทบาทมากกว่านักประพันธ์ เขาเขียนบทความวิเคราะห์วิจารณ์การเมืองด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหมาเจ๋อตงและนโยบายที่ ผิดพลาดหลายอย่างของพรรคคอมมิวนิสต์ เช่น ความอดอยากที่เกิดจากแผนพัฒนาประเทศห้าปีที่เรียกว่า แผนก้าวกระโดดไปข้างหน้า (大躍進 The Great Leap Forward) ที่ทำให้คนตายไปอาจสูงถึง 55 ล้านคน และการปฏิวัติวัฒนธรรม ที่คนมากมายตกเป็นเหยื่อการเมือง
กองบรรณาธิการของหมิงเป้ามีนักประวัติศาสตร์และกวีหลายคนที่มาจากเมืองจีน ทำให้หนังสือพิมพ์มีความหลากหลาย และให้ภาพจริงของเมืองจีน
กิมย้งเขียนต่อต้านเรื่องการปฏิวัติวัฒนธรรม ทั้งบทความและสอดแทรกในนิยาย ตัวละครจอมยุทธ์ที่บ้าอำนาจ แย่งชิงอำนาจในนิยายของเขาล้วนสะท้อนความเป็นไปในโลกจริง
อัจฉริยภาพของกิมย้งคือการสร้างของใหม่ สร้างโลกใหม่ กิมย้งสร้างจักรวาลบู๊ลิ้มที่น่าตื่นตะลึง เช่นเดียวกับที่ จอร์จ ลูคัส สร้างจักรวาลใหม่ของเขาในงานชุด Star Wars งานของเขาถูกสร้างเป็นภาพยนตร์ครั้งแล้วครั้งเล่า ตัวละครเป็นที่จดจำและชื่นชอบ
กิมย้งหยุดเขียนนิยายในปี 1972 เมื่ออายุ 48 ใช้เวลาที่เหลือขัดเกลาปรับปรุงนิยายทั้งหมดถึงสองรอบ งานของเขาแปลเป็นภาษาไทย เวียดนาม ญี่ปุ่น อังกฤษ ฯลฯ
งานเขียนของกิมย้งเข้ามาในเมืองไทยเร็วมาก คือ พ.ศ. 2501 ต้องยกเครดิตให้สำนักพิมพ์เพลินจิตต์ของ เวช กระตุฤกษ์ ที่ตีพิมพ์ มังกรหยก แปลโดย จำลอง พิศนาคะ โดยมีเครดิตร่วมกับ ประยูร พิศนาคะ นิยายแปลเรื่องนี้ดังระเบิด คนไทยไม่เคยอ่านเรื่องอย่างนี้มาก่อน
กิมย้งเป็นเจ้าแห่งการแต่งซับพล็อตที่ร้อยรวมกันเป็นเรื่องใหญ่ จนเหง่ยคัง นักเขียนบทภาพยนตร์และเพื่อนสนิทของกิมย้งกล่าวว่าเป็น ‘ภูษาสวรรค์ไร้ตะเข็บ’
วิทยายุทธแปลก ๆ กระบวนท่าพิสดาร เหล่านี้เป็นเพียงองค์ประกอบให้เรื่องสนุก แต่หากอ่านให้ลึกกว่าความสนุก จะพบว่าตัวละครมีความลึกและมีพัฒนาการ หากอ่านต่อไปอีกก็จะพบสาระที่ซ่อนอยู่ เช่นผลกระทบของการเมือง
เขามักรวมประสบการณ์ตรงกับจินตนาการเป็นนวนิยาย เช่น ในเรื่อง กระบี่ใจพิสุทธิ์ ตัวละคร ‘เต๊กฮุ้น’ จำลองมาจากคนจริง เป็นคนงานในบ้านของกิมย้ง ถูกติดคุกอย่างไม่เป็นธรรม ปู่ของกิมย้งลอบช่วยเขาออกมาจากคุก
นอกจากพล็อตสนุก สาระที่ซ่อนอยู่แล้ว สิ่งที่กิมย้งนำเสนอเสมอคือความเป็นมนุษย์
กิมย้งเขียนถึงธาตุแท้จิตใจคนได้ดีที่สุด โดยให้พฤติกรรมของตัวละครแสดงให้ผู้อ่านเห็นเอง
อีกสิ่งหนึ่งที่อยู่ในงานของเขาคือหัวใจ กิมย้งเขียนงานโดย ‘อิน’ กับตัวละครมาก เขาร้องไห้เมื่อเขียนถึงตอนที่เอี้ยก้วยรอเซี่ยวเล้งนึ้งนานสิบหกปี แล้วพบว่าเป็นการรอคอยที่สูญเปล่า
เขาร้องไห้เมื่อเขียนถึงตอนที่เตียบ่อกี้ต้องลาจากเซี่ยวเจียว
เมื่อเฉียวฟงฆ่าคนรักของเขาด้วยความเข้าใจผิด เขาก็ร้องไห้หนัก
เพราะเขาเขียนด้วยหัวใจ ดังนั้นจึงไม่แปลกที่งานของเขาแตะหัวใจผู้อ่านตลอดมา
นามปากกากิมย้งหรือจินหยง (金庸) สะท้อนนิสัยใจคอของเขา กิมย้งเป็นนักเขียนที่รอบรู้มาก แต่ถ่อมตนอย่างที่สุด
กิมย้งแปลตรงตัวว่าทองธรรมดา
金 (จิน หรือกิม) = ทอง
庸 (หยง หรือย้ง) = ธรรมดาสามัญ
ตั้งชื่อตัวเองว่า ‘ธรรมดาสามัญ’ ย่อมสะท้อนว่าเป็นคนถ่อมตัว
คำว่ากิมหรือทองในที่นี้อาจใช้เป็นแซ่ก็ได้ เพราะมันมาก่อนคำว่าหยง (ภาษาจีนคุณศัพท์มาก่อนคำนาม) แต่จะตีความว่ากิมคือความบริสุทธิ์ ความสูงส่งก็ได้
กิม+ย้ง จึงมีความหมายว่า ‘ทองธรรมดา’ แต่ฟังดูย้อนแย้ง เพราะทองย่อมไม่ธรรมดา
เราอาจตีความว่า “มองเห็นทองเป็นเรื่องธรรมดา” ก็ย่อมได้ หรือจะหมายถึง ‘สูงสุดคืนสู่สามัญ’ ก็น่าจะได้ เพราะเป็นทองอันงำประกาย คล้าย ๆ เพชรในตม
วงการบู๊ลิ้มยกย่อง ‘ทองธรรมดา’ ผู้นี้ว่า เป็นทองที่หายากนัก คนในวงการหนังสือกล่าวว่า “หนึ่งร้อยปีมีกิมย้งหนึ่งคน”
ผมรู้สึกว่าหนึ่งร้อยปีอาจประเมินต่ำไปหน่อย อย่างต่ำต้องห้าร้อยปี
ทำไมในรอบร้อยปีมีคนเดียว?
ในมุมมองของนักเขียน ผมเชื่อว่าเป็นเพราะงานของกิมย้งประกอบด้วยโครงเรื่องยอดเยี่ยม + ความสนุกเต็มอัตรา + ตัวละครมีมิติและมีสีสัน + ฉากประวัติศาสตร์ที่สมจริงและสนุก นอกจากนี้ในบางเรื่องมีคอนเส็ปต์ที่แรง เช่น คอนเส็ปต์เรื่องความดีความเลวและอำนาจใน กระบี่เย้ยยุทธจักร คอนเส็ปต์เรื่องอำนาจมิได้มาจากความดีงามใน อุ้ยเซี่ยวป้อ และนี่ก็คือสาระที่ผู้เขียนมอบให้มากกว่าแค่ความบันเทิง
ตลอดชีวิตนักประพันธ์ กิมย้งเขียนนวนิยายเพียง 15 เรื่อง แทบทั้งหมดเป็นเรื่องยาว และเป็นนิยายกำลังภายในอิงประวัติศาสตร์
จุดเด่นของงานของกิมย้งคือ หลอมเนื้อเรื่องเข้ากับฉากประวัติศาสตร์อย่างกลมกลืน และมักใช้บุคคลจริงเป็นตัวละคร
ผมเขียนหนังสือ ยุทธจักรวาลกิมย้ง ก็เพื่อสำรวจฉากประวัติศาสตร์ในนวนิยายของเขา
ยิ่งค้นคว้าก็ยิ่งพบว่าประวัติศาสตร์จริงนั้นสนุกผิดคาด หลายท่อนสนุกกว่าเรื่องแต่งเสียอีก
ในตอนต่อๆ ไป จะเล่าประวัติศาสตร์จีนที่กิมย้งใช้เป็นฉากนวนิยายของเขา เรียงตามลำดับเวลา
โปรดติดตาม
วินทร์ เลียววาริณ
2-3-25.....................
ยุทธจักรวาลกิมย้ง
https://www.winbookclub.com/store/detail/186/ยุทธจักรวาลกิมย้งโปรโมชั่นพิเศษ https://www.winbookclub.com/store/detail/189/โปรโมชั่น%203%20in%201%20ชุด%20S2
0- แชร์
- 71
-
ชุดนักสืบ พุ่มรัก พานสิงห์ ณ วันนี้มี 10 เล่ม และนี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ชุดนี้มีครบเล่ม หลังจากบางเล่มขาดหายไปนาน ตอนนี้ได้พิมพ์ใหม่เล่มที่ขาดแล้ว
งานหนังสือนี้จึงจัดโปรโมชั่นพิเศษ ชุดนักสืบ 10 เล่ม ในราคาพิเศษ ลดไปราวหนึ่งพันบาท
ฆาตกรรมกลางทะเล ราคาปก 215.-
คดีผีนางตะเคียน ราคาปก 325.-
ฆาตกรรมจักรราศี ราคาปก 255.-
คดีล่าคนเจ้าชู้ ราคาปก 325.-
คดีศพล่องหน ราคาปก 210.-
คดีหนอนนิยาย ราคาปก 240.-
คดีสามเงา ราคาปก 255.-
คดีเจ็ดแพะ ราคาปก 195.-
ฆาตกรรมกุหลาบดำ ราคาปก 285.-
คดีเปลนม ราคาปก 480.-รวม 2,785.-
ราคาขายพิเศษ เพียง 1,800.- ไม่คิดค่าส่งมีจำหน่ายในงานหนังสือ บูธ F-21 Hall 6
แต่สำหรับผู้อ่านต่างจังหวัด หรือคนที่ไม่สะดวกไปงาน ก็สามารถสั่งซื้อได้ทาง inbox เฟซบุ๊คนี้
โอนเงินไปที่บัญชี "วินทร์ เลี้ยววาริณ ธนาคารกสิกรไทย สาขาพัฒน์พงศ์ 018-2-85554-5"
ส่งภาพหลักฐานการโอนมาด้วย เพื่อให้รู้ว่าเป็นลูกค้าคนใด
1 วันที่ผ่านมา -
หลังจากได้ยินวีรกรรมของอาแปะกวงติงแล้ว คุณบริสุทธิ์ก็ร้องว่า “เออ! แกแสบสมชื่อกวงติงจริง ๆ”
เพื่อนบอก “ชื่อที่ถูกต้องคือเติ้งกวงหยง”
“นั่นแหละ กวงติงมาก”
“รู้รึเปล่าว่าตอนนี้คุณเติ้งกวงหยงจะแต่งงานใหม่?”
คุณบริสุทธิ์ตาโต “แกอายุเท่าไหร่แล้ว?”
“ก็น่าจะอายุร่วมแปดสิบแล้วในปีนี้”
“แล้วไหวหรือ?”
“แกบอกว่าสบายมาก แกกินแตงโมแช่น้ำมะพร้าวสลับดื่มน้ำมะพร้าวผสมแตงโมปั่นทุกวันมาตั้งแต่หนุ่ม แกอยากมีลูกอีกคนมาดูแลกิจการ”
“แล้วจะมีลูกได้หรือ?”
“คนอื่นก็ถามแก แกรำคาญก็ไปหาหมอเพื่อตรวจยืนยันว่าน้ำเชื้อแกยังไม่หมดอายุ หมอบอกว่า ‘งั้นก็ต้องตรวจสเปิร์ม’ แล้วยื่นขวดแก้วเปล่าใบเล็ก ๆ ให้เติ้งกวงหยง บอกว่า ‘คุณไปจัดการใส่น้ำเชื้อของคุณในขวดนี้ พรุ่งนี้เอากลับมาที่นี่’...
“วันรุ่งขึ้นเติ้งกวงหยงกลับไปหาหมออีกครั้ง พร้อมขวดเปล่า หมอถามว่า ‘ทำไมมันจึงยังเป็นขวดเปล่า? คุณไม่มีอารมณ์หรือ?’
‘เปล่าครับ ผมยังไหว แต่เมื่อวานนี้ผมออกจากคลินิกหมอ ก็กลับบ้าน ผมเข้าห้องน้ำ พยายามอยู่นาน แต่ไม่สำเร็จ ผมออกมาเหงื่อท่วมตัว แม่ครัวเห็นเข้าก็ถาม ผมก็บอกตามความจริง’
‘คุณบอกความจริงกับแม่ครัว?’
‘ใช่ เธอเป็นคนนิสัยดี เคยแต่งงาน แต่ผัวทิ้ง ทั้งที่เธอเป็นคนสวยเซ็กซี่ หุ่นประมาณ 38-24-39 เธอก็ช่วยผม เพื่อให้ใส่ขวดได้’
‘เธอช่วยคุณ?’
‘ใช่ บอกแล้วไงว่าเธอเป็นคนนิสัยดี’
‘แล้วไงต่อ?’
‘ปรากฏว่าเธอช่วยผมไม่สำเร็จ’
‘ทำไมไม่สำเร็จ?’
‘มันยากกว่าที่คิด ทีแรกเธอใช้มือ ต่อมาก็ใช้ปาก ก็ยังไม่สำเร็จ เธอจึงไปเรียกสาวใช้จากบ้านข้าง ๆ มาช่วยอีกคน’
“หมอตาค้าง เอ่ยว่า ‘แล้ว?’
“เติ้งกวงหยงเล่าต่อ ‘สาวใช้คนนี้อายุยี่สิบกว่า เซ็กซี่มาก หุ่นประมาณ 39-24-38’
“หมอยังคงตาค้าง ‘แล้ว?’
‘เราสามคนก็นัวเนียกันอยู่ชั่วโมงกว่า ผู้หญิงสองคนนี้ก็ช่วยผมเต็มที่ คนนึงใช้มือ อีกคนใช้ปาก สลับกันไปมา’
‘สามคนเลยเรอะ?’
‘ใช่ เราสามคนทำไปร้องครางไป ทำกันจนเหงื่อแตก ก็ยังไม่สำเร็จ นี่เองที่ทำให้ขวดใบนี้ยังว่างอยู่’
“หมอถอนใจยาว บอกอาแปะว่า ‘ผมว่าคุณล้มเลิกความคิดแต่งงานใหม่เถอะนะ เห็นชัดว่าคุณไม่สู้ สาวเซ็กซี่สองคนยังช่วยคุณไม่สำเร็จ’...
“เติ้งกวงหยงตอบว่า ‘ก็จะสำเร็จได้ไงโว้ย! ขวดของหมอนี่ปิดฝาแน่นฉิบหาย เปิดฝายังไงก็เปิดไม่ออก ผมมาขอเปลี่ยนขวด’...”
วินทร์ เลียววาริณ
10-10-25....................
บางท่อนจาก เรื่องรักของคุณบริสุทธิ์ฯ
(นวนิยายแนวใหม่ที่นำขำขันตลกๆ ระดับ ‘ขำกลิ้ง’ 400 เรื่องมายำเป็นนวนิยาย)
ค่าคลายเครียดแค่ 330 บาท เฉลี่ยขำละ 80 สตางค์หนังสือหมดเมื่อไร จะไม่ตีพิมพ์ใหม่แล้ว
https://www.winbookclub.com/store/detail/188/เรื่องรักของคุณบริสุทธิ์กับนางสาวภุมรี%20ศจีรมย์%20สมถวิล%20จินตหรา%20พารัก%2520ปักเสน่ห์%20เรวดี%20ศรีสกาวโปรโมชั่น https://www.winbookclub.com/store/detail/196/แพคเกจพิเศษ%203%20in%201
Shopee
เดี่ยว https://s.shopee.co.th/1VjWGyXzed
https://s.shopee.co.th/9A8xPCjmLp1 วันที่ผ่านมา -
ปัญหาใหญ่ที่สุดของชาวโลกส่วนมากคือ เราถูกสอนแต่เด็กให้คิดถึงแต่อนาคตที่ดีกว่า ไม่ใช่ปัจจุบันที่ดี
เราถูกสอนให้นึกถึงเป้าหมาย และเดินไปให้ถึงเป้าหมายนั้น นี่ทำให้หลายคนตีความผิด คิดว่าอนาคตสำคัญกว่าปัจจุบัน
การวางแผนอนาคตไม่ใช่การใช้อนาคต มันก็คือแผนหรือโครงหลวม ๆ ให้เรารู้ แต่ไม่ใช่การใช้ชีวิตกับอนาคต ตัวอย่างที่ชัดที่สุดก็คือความวิตกกังวลในเรื่องของอนาคต เราจะล้มเหลวไหม เราจะสอบตกไหม เราจะ ฯลฯ
จนในที่สุดเราก็กลายเป็นคนที่ไม่มีปัจจุบัน
มองในมุมนี้ คนไร้ ‘อนาคต’ ไม่น่าเป็นห่วงเท่าคนไร้ ‘ปัจจุบัน’!
คนมีปัญญาจึงนับทุก ๆ วันเป็นชีวิตเอกเทศ
เซเนกาเขียนว่า “มันไม่ใช่ว่าเรามีเวลาน้อย แต่เพราะเราเสียเวลาไปมากต่างหาก ชีวิตที่เราได้รับมาไม่สั้นเลย แต่เราทำให้มันสั้นเอง มันไม่ใช่เราไม่ได้รับอย่างเพียงพอ แต่เราใช้มันไปอย่างเปล่าประโยชน์”
การเจียดเวลาปัจจุบันไปใช้ในอดีตและอนาคต เท่ากับเปลืองทรัพยากร เปลืองอายุ
บางคนอายุยืน 80 ปี แต่ใช้จริง ๆ ไม่ถึงครึ่ง เพราะละลายเวลาที่เหลือไปกับอดีตที่ผ่านไปแล้ว และอนาคตที่ไม่มีตัวตน
นักเขียน นักปรัชญา อลัน วัตต์ส กล่าวว่า “จิตสำนึกของเราถูกปกคลุมด้วยความทรงจำกับความคาดหวัง เราไม่รู้ว่ามันไม่เคยมี และจะไม่มีวันมีประสบการณ์อื่น ๆ นอกจากประสบการณ์ปัจจุบันขณะ ดังนั้นเราจึงหลุดไปจากโลกของความจริง เราสับสนโลกที่เราพูดถึง โลกที่เราอธิบาย และวัดค่า กับโลกที่เป็นจริง”
เซเนกาเขียนว่า “ความสุขที่แท้จริงคือการรื่นรมย์กับปัจจุบัน ปราศจากความวิตกยึดมั่นเรื่องอนาคต ไม่ปรุงแต่งตัวเราเองด้วยความหวังหรือความกลัว แต่จงพอใจกับสิ่งที่เรามี ซึ่งก็เพียงพอแล้ว สำหรับคนที่ไม่ต้องการสิ่งใด พรประเสริฐที่สุดของมนุษย์อยู่ในตัวเราเอง และเอื้อมถึง คนมีปัญญาพอใจในสิ่งที่เขามี ไม่ว่าจะเป็นอะไร ไม่ปรารถนาสิ่งที่เขาไม่มี”
เล่าจื๊อกล่าวว่า
“หากเจ้าหดหู่ เจ้ากำลังอยู่กับอดีต
หากเจ้าวิตก เจ้ากำลังอยู่กับอนาคต
หากเจ้ามีความสงบ เจ้ากำลังอยู่กับปัจจุบัน”วินทร์ เลียววาริณ
10-10-25.........
จาก ตัวสุขอยู่ในหัวใจ
260 บาท 49 บทความ เรื่องละ 5.3 บาท
หนังสือหมดเมื่อไร จะไม่ตีพิมพ์ใหม่แล้ว
https://www.winbookclub.com/store/detail/211/ตัวสุขอยู่ในหัวใจ1 วันที่ผ่านมา -
(สำหรับคนไม่รู้ศัพท์คำนี้) circle มีสองความหมาย
1 = วงกลม
2 = คนกลุ่มที่มีความสนใจเดียวกัน1 วันที่ผ่านมา -
2 วันที่ผ่านมา