• วินทร์ เลียววาริณ
    1 วันที่ผ่านมา

    วันนี้เพื่อนของผมถามว่า เขียนเรื่องการเมืองโลกเรื่อง xxx แล้วยัง ผมตอบว่าเขียนไม่ได้ เพราะในเรื่องที่เขาว่านั้น ผมไม่รู้จริง และผมไม่อยากเขียนแบบ speculation

    speculation คือคาดคะเน ตั้งทฤษฎีโดยไม่จำเป็นต้องมีหลักฐานชัดแจ้ง

    ช่วงหลังนี้ผมเผลอตัวไปเขียนบทวิเคราะห์การเมืองโลกอยู่หลายตอน ทั้งที่ไม่ใช่พื้นที่ที่ผมอยากทำเท่าไรนัก ผมชอบเขียนนิยายมากกว่า

    ในความเห็นของผม การเขียนบทวิเคราะห์การเมืองโลกมีสองแบบ

    แบบแรกผมเรียกว่า speculation คือรับข้อมูล ข่าวสาร แล้วมาตั้งทฤษฎีว่ามันเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ทั่วโลกมีนักวิเคราะห์แบบนี้มากมาย อ่านและฟังสนุกดี แต่จริงไม่จริงเราไม่รู้ ถูกบ้างผิดบ้าง ขึ้นกับผู้ตั้งทฤษฎีมีประสบการณ์มากแค่ไหน แต่บางทีคนมีประสบการณ์ก็พลาดได้ เป็นเรื่องธรรมดา

    แบบที่สองคือ เสนอบทเรียนทางประวัติศาสตร์ ก็คือสิ่งที่ผมพยายามทำ

    เท่าที่ผ่านมา สิ่งที่เรียกว่า 'บทวิเคราะห์การเมืองโลก' ที่ผมเขียนมักอ้างอิงประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นจริง มีหลักฐานจริง แล้วใช้หลักฐานข้อมูลเหล่านี้มาพยายามอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

    สำหรับแบบที่สองนี้ ผู้อ่านต้องขบคิด วิเคราะห์ด้วยเวลาอ่าน เพราะผมก็อาจพลาดตอนโยงได้เหมือนกัน

    ตอนผมเขียนนวนิยาย ปีกแดง เมื่อยี่สิบกว่าปีก่อนนั้น เป็นครั้งแรกที่ผมต้องรีเสิร์ชข้อมูลประวัติศาสตร์ระหว่างประเทศจำนวนมหาศาล และเรียนรู้ว่า ในเรื่องหนึ่งๆ มีหลายมุม (perspective) ถ้ามีอคติล่วงหน้า ก็จะพลาดมุมอื่นที่อาจจะถูกต้อง

    การเขียนนวนิยายยังพอกล้อมแกล้มในเรื่องข้อมูลไม่ตรงหรือมีอคติได้บ้าง แต่หากเป็นสารคดี ข้อมูลต้องเป๊ะ ไม่งั้นมันก็เป็นแค่ speculation และถ้าเราไม่รู้ว่ามันคือข้อมูลจริงหรือ speculation เราก็จะพลาดความจริงได้ง่าย

    ผู้อ่านจึงต้องอ่านข่าวสารและบทวิเคราะห์ให้ออกว่า มันเป็น speculation หรือไม่ แล้วคิดต่อไป จึงจะมองเห็นภาพได้ชัดขึ้น และทำให้เรามองแต่ละเหตุการณ์ได้ลึกขึ้น

    speculation นั้นสนุกกว่า ทั้งการเสพและการถก แต่ต้องระวังนิด เพราะมันอาจทำให้ความคิดเราเขวได้

    วินทร์ เลียววาริณ
    26-6-25

    0
    • 0 แชร์
    • 6

บทความล่าสุด